ทีมข่าว นปช.
3 มีนาคม 2557
วันนี้ ( 2 มี.ค.) ที่สนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี เมื่อเวลา 08.19 น. อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช.นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ร่วมกันลั่นกลองรบนำขบวนแรลลี่ ประกอบด้วยรถบรรทุก 6 ล้อ รถปรับอากาศ รถปิกอัพ รถขับเคลื่อน 4 ล้อและรถเก่ง ประมาณ 200 คัน ออกเดินทางจากทุ่งศรีเมืองอุดรธานี ตรงไปทางถนนประจักษ์ศิลปาคม เลี้ยวขวาที่หอนาฬิกา ตรงไปทางห้าแยกน้ำพุตรงไปยังหน้าแยกอนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม แล้วมุ่งตรงไปจังหวัดกาฬสินธุ์ มหาสารคาม แล้วไปสุดท้ายที่เวทีจังหวัดขอนแก่น
ก่อนออกเดินทาง อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช.กล่าวว่า วันนี้วันเบิกฤกษ์ที่เป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ นปช.แดงทั้งแผ่นดินผู้รักชาติรักประชาธิปไตยทั้งมวล เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องเปิดยุทธศาสตร์เกมรบ ในขณะที่สถานการณ์ในประเทศนั้นเลวร้ายมีความพินาศเสียหายในประเทศ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจและสังคม เกิดความเสียหายในทุกด้านแม้กระทั่งในจิตใจของประชาชนทั้งมวล ขณะนี้คนเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลายมีความอดทนมาเป็นเวลายาวนาน เราพิจารณากันแล้วว่า ต่อไปนี้ นปช.และผู้รักประชาธิปไตย จะเปิดเกมรุกเพื่อให้มีที่ยืนของคนรักประชาธิปไตย และเราต้องทวงคืนอำนาจประชาชนคืนกลับมาให้ได้
นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ก็ถือว่าเป็นเริ่มต้นของการต่อสู้ในครั้งนี้ ซึ่งระยะการต่อสู้ระยะที่ยาวนานเราต่างมีความคาดหวังว่า บ้านเมืองจะได้เป็นประชาธิปไตยที่งดงามดั่งโลกศิวิไลทั้งหลายที่เขาพึงจะมี แต่ปรากฏว่าหาเป็นเช่นนั้นไม่ถ้าพวกเราไม่ออกมาต่อสู้อำนาจนอกระบบที่ไม่ได้เป็นไปตามกติกาประชาธิปไตยนั้นก็จะเข้ามามีอำนาจภารกิจของพวกเราคือการปกป้องประชาธิปไตยต่อต้าน
“อำมาตยาธิปไตย ที่พยายามเข้ามามีอำนาจ โดยไม่ฟังเสียงของประชาชน การขับเคลื่อน ณ.จุดเริ่มต้นที่อุดรธานีในวันนี้ ในเบื้องต้นนั้นเราได้สรุปความว่า เหตุที่เลือกอุดรธานี เพราะมีการยิงนายขวัญชัย ไพรพนา ที่นี่ เมื่อมีการตัดไม้ข่มนามเพื่อไม่ให้คนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหว แต่พวกเราคิดตรงกันข้าม ยิงที่ไหนก็จะไปที่นั่น ไม่ได้มีความไหวหวั่นใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นการเคลื่อนจากอุดร ไปกาฬสินธุ์ มหาสารคามและขอนแก่น จะเป็นปรากฎการณ์ที่จะปลูกขวัญพี่น้องประชาชน ผู้รักประชาธิปไตย พี่น้องคนเสื้อแดงได้ลุกขึ้นมาต่อสู้ครั้งใหม่เพราะฉะนั้นภารกิจในวันนี้จึงมีความจำเป็นที่เราต้องเคลื่อนพลคนรักประชาธิปไตยและได้เวลาลั่นกลองรบ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เราเคยมีบันทึกจารึกการต่อสู้ของประชาชนแล้วหลายเหตุการณ์ แต่รูปแบบของการเคลื่อนขบวนประชาชน โดยเฉพาะเกิดขึ้นในส่วนภูมิภาค ใช่เมืองกรุงเทพมหานครนั้น ครั้งนี้เป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แล้วจะเป็นจุดหมายสำคัญที่จะยืนยันเจตนารมณ์ของคนทั้งประเทศ ว่าระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น ที่เราต้องการ ผิดไปจากนี้ เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคน ที่จะออกมาแสดงการต่อสู้
วันนี้กลางเมืองหลวงของประเทศไทยมีคนกลุ่มหนึ่งได้บังอาจลุกขึ้นก่อการเรียกร้องฉีกรัฐธรรมนูญขัดขวางการเลือกตั้ง ไม่ต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้าภายใต้กติกาที่ยอมรับ ดังนั้น ผู้คนที่อยู่ร่วมแผ่นดิน ในพื้นที่ภาคอีสานจึงลุกขึ้นแสดงพลังพร้อมกัน หลังจากนี้เราก็จะเดินทางไปภาคเหนือ แล้วก็เตรียมความพร้อม ที่จะเข้าทวงคืนประเทศไทยมาเป็นของคนไทยทุกคน อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน
โดย กลุ่ม นปช.ได้เคลื่อนพลคนประชาธิปไตย โดยมีอ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช.นำทัพที่อยู่หัวขบวนออกไปเป็นขบวนแรก ต่อด้วยนายจตุพร นายณัฐวุฒิ ซึ่งในขบวนมีรถยนต์ ทั้งรถบรรทุก 6 ล้อ รถยนต์ส่วนตัวทั้งเก๋ง ปิกอัพ 500 คัน และรถบัสโดยสารอีก 20 คัน ออกจากสนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี มุ่งหน้าผ่านอนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ออกบายพาสขอนแก่สู่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยจะใช้เส้นทางอุดรธานี-กุมภวาปี-กระนวน-ห้วยเม็ก-ยางตลาด และเข้าตัวเมืองกาฬสินธุ์ต่อไป ซึ่งหัวขบวนถึงท้ายขบวนยาวหลายสิบกิโลเมตร มีประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดงชาวจังหวัดอุดรธานี ที่อาศัยอยู่บริเวณข้างทาง ออกมาโบกธงสนับสนุนและให้กำลังใจกับขบวนที่ยกเดินทางไปในครั้งนี้ด้วย
โดยขบวนในครั้งนี้ ที่นำโดย อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิราการ นายวรชัย เหมะ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ นายธนิก มาสีพิทักษ์ และแกนนำ นปช.ส่วนกลางอีกหลายท่าน ได้ร่วมขบวนรถยนต์"แรลลี่เคลื่อนพลคนประชาธิปไตย" ตั้งแต่ช่วงเช้าโดยเริ่มเคลื่อนออกจาก จ.อุดรธานีมาตามถนนมิตรภาพ ผ่าน อ.เขาสวนกวาง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เข้า ถ.เลี่ยงเมือง เพื่อไป จ.กาฬสินธุ์ และวกเข้ามาที่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม และมาที่ อ.ท่าพระ จ.ขอนแก่น จุดหมายสุดท้ายที่เวทีชั่วคราวของคนเสื้อแดง จ.ขอนแก่น ซึ่งตั้งอยู่ในที่ดินส่วนบุคคลใกล้กับสถานี บขส.ขอนแก่นแห่งที่ 3 ถ.เลี่ยงเมืองขอนแก่น – กาฬสินธุ์ หมู่ 12 บ้านกุดกว้าง ต. เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น
