ทีมข่าว นปช.
12 มีนาคม 2557
โดยวันนี้ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดรัฐธรรมนูญว่า คำวินิจฉัยของศาลฯ ไม่เหนือความคาดหมาย แต่กังวลว่าหลังจากนี้จะมีการดำเนินการเอาผิดกับ ส.ส.ที่โหวตรองรับกฎหมายฉบับดังกล่าว เอาผิดกับนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล
ทั้งนี้ ประธานนปช.กล่าวไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ตัดสินให้ร่างพรบ.การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ หรือพรบ.กู้เงินสองล้านล้านบาท ขัดต่อรัฐธรรมนูญเพราะถือเป็นการใช้อำนาจละเมิดฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร ซึ่งนายรัฐมนตรีและรัฐสภาไม่มีความผิดเนื่องจากเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่
อ.ธิดา กล่าวต่อว่า การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อมาพัฒนาประเทศ เช่นเดียวกับการกระทำในสมัยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี
เช่นเดียวกับด้านนายจรัล ดิษฐาอภิชัยอกนนำนปช.ที่ไม่เห็นด้วยหากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จะยื่นเรื่องให้ศาลฏีกาคดีอาญาของผู้ดำรงค์ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยถอดถอนนายกรัฐมนตรี เพราะร่างพรบ.ดังกล่าวตกไปแล้วจึงไม่มีความผิดทางอาญา
นายจรัล ได้เสนอคำขวัญถึงการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ที่กำลังจะเกิดขึ้นว่า “ปฏิรูปกทม.ก่อนเลือกตั้งผู้ว่ากทม.”
ส่วนการตั้งบังเกอร์รอบกรุงเทพมหานครและการตั้งจุดตรวจสกัดคนเสื้อแดงในพื้นที่ภาคเหนือมีความเห็นจากประธานนปช.ว่าเป็นความพยายามทำสงครามกับคนเสื้อแดงซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาคมรับรู้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม
เช่นเดียวกับนายสมหวัง อัสราษี แกนนำนปช.ที่ได้ตั้งความถามถึงพล.อ.ประยุทธ จันทโอชาผู้บัญชาการทหารบกว่า การตั้งบังเกอร์ของทหาร เพื่อปกป้องม๊อบของนายสุเทพ ใช่หรือไม่ โดยขอเตือนผู้บัญชาการทหารบกในช่วงที่ใกล้เกษียรอายุราชการว่า ควรเกษียรไปแบบมีคุณภาพไม่ควรถูกตำหนิไล่หลัง
ขณะที่ด้านนพ.เหวง โตจิราการแกนนำนปช.กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ให้ใบเหลือง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า เป็นการให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว ซึ่งในความเป็นจริงควรได้รับใบแดงมากกว่า ดดยขอให้ศาลอุธทรณ์ พิจารณาให้ความเป็นธรรมกับคนไทยทั้งประเทศ โดยการสั่งให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์