′ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ′ จับตาเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ เผด็จการ หรือ ประชาธิปไตย ใครจะชนะ

สัมภาษณ์พิเศษโดยบุษยา แก้วกำพล



หมายเหตุ - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับมติชน ถึงสถานการณ์ในวันเลือกตั้ง2 กุมภาพันธ์ และความเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.

@ประเมินสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์

คิดว่าความพยายามในการขัดขวางการเลือกตั้งของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส. จะยังมีอยู่ในวันเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ แม้ว่าจะมีการปราศรัยจากนายสุเทพบนเวทีประกาศว่า กปปส.จะไม่ขัดขวางการเลือกตั้งก็ตาม แต่ที่สุดแล้วความจริงที่เกิดขึ้นมันตรงข้าม อาจมีความต้องการให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายเพื่อทำลายความชอบธรรมของการเลือกตั้งในครั้งนี้แน่นอน

แต่เชื่อว่าสำหรับประชาชนผู้รักประชาธิปไตยก็จะออกไปใช้สิทธิล้นหลามแน่นอนเช่นกัน เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์อย่างแท้จริงครั้งหนึ่งของประเทศไทย โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าแค่เป็นการเลือกรัฐบาลเท่านั้น แต่เป็นการเลือกตั้งอนาคตของประเทศไทย ว่าจะเป็นเผด็จการหรือประชาธิปไตย อีกทั้งยังจะเป็นการประกาศชัยชนะของประชาชนคนเล็กๆ ทั้งประเทศ เพราะปกติแล้ว ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาเมื่อลงคะแนนเสร็จ ต่างคนก็กลับบ้าน แล้วรอดูพรรคการเมืองประกาศชัยชนะในช่วงค่ำ แต่ครั้งนี้เมื่อประชาชนออกจากบ้านไปลงคะแนนก็คือชัยชนะส่วนตัวของคนคนนั้นทันที และผมคิดว่าคงจะมีภาพประวัติศาสตร์การลงคะแนนของประชาชนธรรมดาแน่นอน

@จะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันเลือกตั้งหรือไม่ อย่างไร

คิดว่าการที่จะไม่ยอมรับการขัดขวางการเลือกตั้งจากกลุ่ม กปปส.ไม่ใช่หน้าที่ของคนเสื้อแดงเพียงลำพัง แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทั้งประเทศ ที่จะต้องช่วยกันรักษากติกาและกฎหมาย ดังนั้น เราจะไม่มีการจัดตั้งกองกำลังใดๆ ของคนเสื้อแดงเพื่อเคลื่อนไหวในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เพราะเชื่อว่าประชาชนผู้รักประชาธิปไตยจะเป็นกองกำลังที่ดูแลและขับเคลื่อนซึ่งกันและกันอยู่แล้ว เช่น ตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ หากมีการขัดขวางไม่ให้ไปลงคะแนน ก็จะมีประชาชนผู้รักสิทธิรักเสียงของตนเองต่อต้านโดยอัตโนมัติ ซึ่งในการเลือกตั้งล่วงหน้าจะเห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ผมหวังว่านายสุเทพจะแสดงความรับผิดชอบ โดยประกาศให้เด็ดขาดจากเวทีปราศรัยว่าจะไม่มี กปปส.ไปเคลื่อนไหวใดๆ บริเวณหน่วยเลือกตั้ง คือถ้า กปปส.จะไม่ไปใช้สิทธิ จะปิกนิกกลางถนน ก็เป็นเรื่องระหว่างนายสุเทพกับศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ หรือ ศรส. แต่ถ้ามีการขัดขวางการไปใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชน จะเป็นเรื่องระหว่างนายสุเทพกับคนไทยทั้งประเทศ

@มีหลายฝ่ายมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นโมฆะโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ และอาจยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ

การเลือกตั้งจะเป็นโมฆะหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของอนาคตที่เราคาดการณ์อยู่แล้ว ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะต้องเล่นเกมนี้ แต่เท่าที่ดูข้อกฎหมายคิดว่าไม่ง่ายที่จะทำให้เป็นโมฆะ และเชื่อว่าจะมีการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาก่อน ในกรณีกลุ่ม กปปส.ที่ขัดขวางการเลือกตั้ง จนเป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวาย จนเป็นเหตุให้มีการยื่นร้องเรียนว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะว่า จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายอย่างไร ถ้าไม่พิจารณาจากเหตุก่อนว่าคนที่ขัดขวางการเลือกตั้งมีความผิดหรือไม่ แต่จะมาพิจารณาว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สมบูรณ์แล้วเป็นโมฆะ เป็นเรื่องที่สังคมยอมรับไม่ได้แน่ ซึ่งการไม่พิจารณาว่าเหตุนั้นผิดหรือไม่ หากเหตุที่เกิดคือการขัดขวางการเลือกตั้งนั้นผิดกฎหมาย จะมาชี้ผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะได้อย่างไร แต่ถ้าในที่สุดแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าเหตุถูก นายสุเทพถูก การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ผมจะได้ศึกษาวิธีการโดยละเอียด เพราะศาลรัฐธรรมนูญรับรองว่าถูกกฎหมาย เพื่อกลุ่มอื่นจะได้นำแนวทางแบบนายสุเทพไปทำบ้าง

@ในที่สุดแล้วหากหลังการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ มีการตีความว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ คนเสื้อแดงจะมีการออกมาเคลื่อนไหวอย่างไร

คนเสื้อแดงน่าจะต้องมีความเคลื่อนไหวที่เข้มข้นชัดเจนมากขึ้น เพื่อเตรียมเข้าสู่สถานการณ์สู้รบในวันข้างหน้า ที่ผ่านมาคนเสื้อแดงพยายามประคับประคองให้เดินหน้ามาถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ แต่ผ่านมาถึงวันนี้แล้วต้องเตรียมความพร้อมเผชิญหน้ากับสถานการณ์ต่อไป เรารู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ แต่จะยอมให้จบแบบไม่เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ คนต่างจังหวัดก็ให้เตรียมความพร้อมไว้ เพราะถึงวันนั้นอาจมีการเคลื่อนไหวขยับเข้ามาใกล้ กทม. ในจังหวะที่เหมาะสม ถ้านายสุเทพไม่ยุติ แล้วยังละเมิดสิทธิของประชาชนต่อไป อาจจะมีความจำเป็นที่คนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวขยับเข้าใกล้ กทม.

@การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวร่วมกับคนเสื้อขาวหรือไม่ เพราะมีการมองว่ากลุ่มคนเสื้อขาวที่เรียกร้องสันติภาพเป็นแดงลอกคราบ

กลุ่มคนเสื้อแดงคือคนเสื้อแดง จะร่วมกิจกรรมไหนบ้างก็เป็นเสรีภาพของเขา ถึงเวลาก็พร้อมจะประกาศตัวเอง ไม่จำเป็นลอกคราบใส่เสื้อขาวเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ผมไม่มีส่วนร่วมกับคนเสื้อขาวมาตั้งแต่ต้น แต่การเคลื่อนไหวจุดเทียนเรียกร้องสันติภาพ เดินหน้าเลือกตั้งของกลุ่มคนเสื้อขาวนั้นผมมองว่ามันเป็นดอกผลงดงามที่น่าชื่นชม ไม่มีการบิดบังอำพราง สลับหน้ากับคนเสื้อแดง และคนเสื้อแดงก็ไม่มีความจำเป็นต้องทำแบบนั้น การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงเปิดเผย แต่สถานการณ์บ้านเมืองเช่นนี้ ผมก็ได้มีการบอกกับคนเสื้อแดงว่า การใส่เสื้อแดงหากไม่อำนวยก็ไม่จำเป็น แต่ไม่ใช่หมายความว่าเอาคนเสื้อแดงไปซุกซ่อน นั่นไม่ใช่บุคลิกของคนเสื้อแดง


...........


(ที่มา:มติชนรายวัน 1 กุมภาพันธ์ 2557)