แถลงข่าวนปช.แดงทั้งแผ่นดิน "ในสถานการณ์พิเศษ" 8 ม.ค.57 (ชมคลิป)



ทีมข่าว นปช.
8 มกราคม 2557

วันนี้เมื่อเวลา 14.00 น.เริ่มการแถลงข่าวนปช.แดงทั้งแผ่นดิน"ในสถานการณ์พิเศษ"ประจำวันพุธที่ 8 มกราคม 2557 ณ ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ลาดพร้าว ชั้น 5











วันนี้เมื่อเวลา 14.00 น.เริ่มการแถลงข่าวนปช.แดงทั้งแผ่นดิน"ในสถานการณ์พิเศษ"ประจำวันพุธที่ 8 มกราคม 2557 ณ ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ลาดพร้าว ชั้น 5

อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช.กล่าว ถึงงานประชุมแกนนำนปช.กรุงเทพ ปริมณฑลและแกนนำนปช.ตจว.ทั่วประเทศเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา โดยแกนนำแต่ละพื้นที่ได้ขึ้นเวทีแสดงความคิดเห็นและได้มีข้อสรุปแบ่งเป็น 2 ตอนที่1 สามารถทำได้ทันที 11 ข้อ ตอนที่2 เมื่อมีรัฐประหารจะทำอย่างไร ในงานประชุมได้แจกคู่มือต่อต้านรัฐประหารของ "ยีนส์ ชาร์ป" 19 ข้อ ซึ่งเป็นการต่อต้านในเชิงสันติวิธีประกอบกับข้อมูลรัฐประหารในประเทศไทย ข้อสรุปการประชุมร่วมกันของแกนนำนปช.แดงทั้งแผ่นดินทั่วประเทศ มีรายละเอียดต่อไปนี้

แถลงการณ์นปช.แดงทั้งแผ่นดิน

ข้อสรุปของการประชุมปรึกษาหารือร่วมกันของคนไทยทั้งแผ่นดิน เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 57 ณ หอประชุมลิปตพัลลภฮอลล์ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา

สิ่งที่เราตกลงกันว่าจะทำในช่วงเวลาเฉพาะหน้า (ยังไม่มีการทำรัฐประหาร)
1. เราจะต้องเตรียมการระดมพี่น้องในจังหวัดของตนเองเพื่อแสดงพลังใน วันที่ 13 มกราคม ณ จุดนัดหมายของจังหวัดนั้น ๆ
2. ในระหว่างนี้ให้ไปแสดงตัวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าที่สถานีหรือจุดใดก็ตาม แล้วเชิญชวนแสดงพลังร่วมต่อสู้ในแนวทางประชาธิปไตยด้วยกัน
3. ให้ระดมทรัพยากรคนละเล็กละน้อย ขึ้นป้ายต่อต้านการรัฐประหาร สนับสนุนการเลือกตั้งในพื้นที่ของตัวเอง
4. ให้ไปพูดคุย พบปะกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น ชวนมาร่วมแสดงพลังในการต่อต้านรัฐประหาร ในการสนับสนุนการเลือกตั้ง
5. ให้แจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำ กปปส. ที่ละเมิดกฎหมาย และเรียกร้องเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด
6. เรียกร้องต่อ นปช.ส่วนกลาง ให้ชวนองค์กรแนวร่วมต่าง ๆ ยื่นหนังสือแสดงเจตนารมณ์ต้านรัฐประหารต่อกองทัพ แล้วแถลงข่าวให้เป็นที่ราบ
7. ต้องหยุดการสนับสนุนกิจการที่ให้การสนับสนุนกลุ่ม กปปส.
8. เรียกร้องต่อรัฐบาลให้ประกาศรับรองเขตอำนาจ ICC หรือศาลอาญาระหว่าง ประเทศโดยทันที
9. ให้เคลื่อนไหวแสดงพลังด้วยวิธีการต่าง ๆ สนับสนุนการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57
10. ให้ผลิตสื่ออย่างง่ายตามศักยภาพตามกำลังตนในการประกาศจับกบฏสุเทพ เทือกสุบรรณ
11. ให้ผู้รักประชาธิปไตยที่เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐโดยเฉพาะหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงอบรมยุทธวิธีให้กับมวลชนด้วย

ส่วนภารกิจถ้าเกิดรัฐประหารขึ้นจริง ให้ปฏิบัติดังนี้

1. ให้แกนนำในทุกอำเภอจัดรถกระจายเสียงวิ่งประกาศสถานการณ์ทั่วพื้นที่ของตัวเอง และเร่งกระจายข่าวให้คนรู้โดยเร็วทั่วประเทศทันที
2. เรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี ต้องเร่งถอนตัวจากกรุงเทพมหานครไปปักหลักอยู่ในพื้นที่ภาคอีสานหรือใน พื้นที่ภาคเหนือเพื่อประกาศการต่อสู้ร่วมกับประชาชน
3. เรียกร้องต่อรัฐบาลและผู้มีอำนาจทั้งหลายให้เตรียมการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นทันทีที่จำเป็นเพื่อต่อสู้ในเวทีระดับโลก
4. ในระดับพื้นที่ ให้ตั้งจุดประสานงานต้านปฏิวัติที่จะต้องมีคนทำงานติดต่อสื่อสารได้ 24 ชั่วโมง (ไม่จำเป็นต้องเปิดเผย)
ในระดับหมู่บ้าน ให้แกนนำในระดับหมู่บ้านเตรียมเสบียงอาหาร ทรัพยากร เงินทองที่พอจะสละมาสนับสนุนได้เพื่อการต่อสู้แล้วเอามารวมกัน ณ จุดนัดหมายทันทีเพื่อเริ่มต้นการต่อสู้ในยกที่ 1
5. ให้พี่น้องทั้งหลายไปรวมตัวกันที่ค่ายทหารในจังหวัดนั้น ๆ
6. ให้พี่น้องไปรวมตัวกันที่สถานีตำรวจเพราะที่นั่นมีทุกอย่างให้เลือกสรร

อ.ธิดากล่าวต่อ สุเทพ เทือกสุบรรณได้มีวาทะกรรมโกรธแค้นด่าทอนปช.เป็นอย่างมาก (อ.ธิดาอ่านคำพูดของสุเทพ) มึงขู่มาหลายปีว่าพวกนปช.มันใหญ่โต คิดว่ากูกลัว บอกเลยวันนี้ไม่กลัวพวกมึงแล้ว ไม่พวกมึงก็เป็นพวกกูต้องอยู่คุกข้างใดข้างหนึ่งแน่นอน โถมเข้ามาเลยมีปัญญาเท่าไหร่โถมเข้ามา แล้วที่เอาสไนเปอร์เตรียมฆ่ากำนันสุเทพ ถ้าตายเมื่อไหร่ก็จะมีกำนันสุเทพอีกเป็นล้านคน พวกมึงจะไม่มีแผ่นดินอยู่แน่นอน กูอายุ65ปีแล้วถ้ามึงไม่ฆ่าก็อยู่อีกไม่กี่ปี พวกมึงไม่ได้อยู่ประเทศนี้แน่นอนพวกกูถึงกล้าท้าพวกมึงเว้ย ไม่กลัวมึงกูยอมตาย กูสู้เพื่อลูกกูหลานกู ลูกไทยหลานไทย ต้องเป็นเสรีชนไม่เป็นขี้ข้ามึงต่อไป

แสดงให้เห็นถึงความวิปลาสที่อยู่ในระดับสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าที่แล้วมากลัวนปช.แค่ไหน ทางจิตวิทยาถ้าพูดคำว่า “กูไม่กลัวมึง” พูดบ่อยๆหมายถึงที่แล้วมากลัวมาก มาตอนนี้ก็ยิ่งกลัวหนักเข้าไปอีกหรืออย่างไร ความวิปลาสที่มีมากขึ้น คนแบบนี้หรือ บอกจะยึดประเทศและขู่ไว้ด้วยว่าจะยึดทรัพย์นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีและคนสำคัญทั้งหมดอาจจะเป็นแกนนำนปช.ด้วย คนแบบนี้หรือที่ต้องการอำนาจรัฐจะมาปกครองประเทศไทย คนไทยที่มีสติสัมปชัญญะทั้งหลาย เชื่อว่าคงไม่สามารถให้คนเช่นนี้เอาอำนาจรัฐาธิปัตย์ไป

ส่งสาสน์ไปถึงทหาร ทราบว่าเมื่อวานนี้มีคนจำนวนหนึ่งไม่ถูกใจ แปลว่าเขาอยู่ในเงื่อนไขที่เป็นเป้าหมาย เราพูดถึงรัฐประหาร ถ้าคุณไม่ทำรัฐประหารแล้วคุณจะเดือดร้อนอะไร คำพูดที่บอกว่าขออย่างเดียวทหารต้องดูแลประชาชน ไม่ให้บาดเจ็บล้มตาย ใครก็ตามที่ทำให้เกิดความรุนแรงคนนั้นจะต้องรับผิดชอบจำไว้ ฝากกลับไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าใครก็ตามที่ทำให้เกิดความรุนแรงต้องรับผิดชอบ จำไว้ประยุทธ์ จันทร์โอชา และสิ่งที่นายสุเทพทำ กระทั่งจะปิดกรุงเทพ ถามว่าอย่างนี้ยังไม่รุนแรงหรืออย่างไร


ด้านคุณจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.  กล่าวว่า หนทางการเตรียมการรัฐประหารได้คืบหน้าไปอย่างมาก พวกเราไม่ได้วิตกจริตไปเอง เนื่องจากกองทัพมีทหารแตงโมอยู่จำนวนมาก  ขอเรียนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ว่าขอให้คิดดีๆ จริงอยู่ทหารมีอาวุธจำนวนมากที่ประชาชนซื้อให้ในการปกป้องประเทศ แต่ไม่เคยมีประชาชนคนใดที่เขาจ่ายภาษีเพื่อซื้ออาวุธให้กับทหารมาใช้ในการปฏิวัติรัฐประหาร หรือฆ่าคนในชาติเดียวกัน การแสดงทัศนะของ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ตนเองรู้ว่ากำลังอยู่ระหว่างการชั่งน้ำหนัก แต่ในขณะเดียวกันมือที่วางฝ่ายยุทธการในการวางแผนปราบปรามประชาชนในเหตุการณ์ 10 เมษาถึง 19 พฤศภาคม ปี 2553 เขาก็เป็นคนวางแผนในครั้งนี้ท่วงทำนองที่พล.อ.ประยุทธ์ ออกมากล่าวปรามเมื่อวานนี้ว่า อย่าให้เกิดความรุนแรง ตำรวจ รัฐบาล ผู้ชุมนุม ถ้าเกิดความรุนแรง ให้รัฐบาลรับผิดชอบ  ตนอยากถามไปยังพล.อ.ประยุทธ์  ว่าท่านรู้หรือไม่หน่วยการ์ดของนายสุเทพรอบตัวล้วนเป็นทหารภายใต้บังคับบัญชาของ พล.อ.ประยุทธ์ทั้งสิ้น และยังมีทหารจำนวนหนึ่งในที่ชุมนุม กลเกมของเขาจะมีการจัดการ 2 จังหวะ คือ ถ้ามีการลงมือปฏิบัติการก่อนวันที่ 13 ม.ค.หมายความว่าลงมือรัฐประหารกันก่อน  เพราะนายทหารในกองทัพที่ยังพอสื่อสารกันได้นั้น รับซองกันล่วงหน้าไปแล้ว ที่จะได้มอบภาระกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ถ้าสถานการณ์เดินไปถึงวันที่ 13 ม.ค. นั่นก็คือคำพูดของพล.อ.ประยุทธนั่นเหละที่นายทหารแตงโมสะกิดผมให้ฟังว่าความรุนแรงตะหากที่กำลังจะเกิดขึ้น ในวันที่ 13 นั่นคือการปะทะกันระหว่างหน่วยการ์ดของ กปปส. ที่มีทหารเข้าไปร่วม จะปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนเกิดการนองเลือด หลังจากนั้นบรรดาอัศวินม้าขาวก็จะเอารถถังออกมารัฐประหาร


คุณจตุพร กล่าวอีกว่า ทั้งหมดเป็นการรู้เห็นเป็นใจเตรียมการมาตั้งแต่ต้น พล.อ.ประยุทธ์จะเกษียณในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ท่านควรเกษียณอย่างมีเกียรติ ถ้าประชาชนเขาลุกขึ้นมาต่อต้าน หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจมะเขือเทศ 90 เปอร์เซ็นต์ หรือทหารแตงโมออกมาร่วมมือกับประชาชนอะไรจะเกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ต้องจัดการกับนายสุเทพไม่ใช่จัดการกับประชาชน ไม่ว่าเหตุการณ์จะเกิดก่อนหรือหลังวันที่ 13 ม.ค. ปัญหาของประเทศก็จะไม่จบ เพราะท้ายที่สุดประชาชนก็จะลุกมาต่อสู้ อย่างไรก็ตามถ้ารอดจากการรัฐประหาร และมีการเลือกตั้งพวกนี้จะทำแบบเดียวกับบังคลาเทศ แค่เอาเขตเลือกตั้งละหน่วยก็ก่อกวนได้เช่นกันทำให้ไม่สามารถนับคะแนนได้ แม้จะมีผลกระทบ แต่อำนาจรัฐก็ยังอยู่กับนายกฯ และรัฐบาลชุดปัจจุบัน และการรัฐประหารคือการไปปลุกคนไทยให้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับเรื่องนี้.