ศาลอนุมัติออกหมายจับ 2 แกนนำ กปปส.สมุทรสาคร - อีก 7 คนรอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่กลุ่ม กปปส.สมุทรสาคร ได้ทำการขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ส. ล่วงหน้าในเขตจังหวัดสมุทรสาคร เขตเลือกตั้งที่ 1 สถานที่จัดการเลือกตั้งคือที่อาคารนิวนามทอง สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร อ.เมืองสมุทรสาคร และสถานที่เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ที่โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย อ.เมืองสมุทรสาคร จนทำให้ต้องยุติการเลือกตั้งก่อนเวลา 15.00 น. เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2557 ที่ผ่านมานั้น

ความคืบหน้าในเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 31 มกราคม 2557  พ.ต.อ.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร เปิดเผยว่า หลังจากที่มีกลุ่มมวลชน กปปส.สมุทรสาคร มาปิดล้อมและขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา จนทำให้ต้องปิดหน่วยเลือกตั้งนั้น ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร โดยมี พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ เครือวนิชธรรม พนักงานสอบสวนฯ นั้น ก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่ปรากฏขณะในวันและเวลาช่วงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ทั้งภาพที่ได้จากกล้องวีดีโอ ภาพนิ่ง การบันทึกเสียง ตลอดจนพยานหลักฐานอื่นๆ ที่รวบรวมได้

และจากการสอบปากคำผู้ที่ไม่สามารถเข้าไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ซึ่งได้มาลงบันทึกแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร จนเป็นที่แน่ชัดแล้วนั้น ก็ได้มีการส่งหลักฐานทั้งหมดไปให้ศาลจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อออกหมายจับบุคคลที่ทำการขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งต่อมาเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 30 มกราคม 2557 ทางศาลจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้ทำการพิจารณาหลักฐานแล้วเห็นว่า การกระทำของบุคคลในภาพดังกล่าว เข้าข่ายเป็นการ ขัดขวาง หรือ หน่วงเหนี่ยว มิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ณ ที่เลือกตั้ง หรือ เข้าไป ณ ที่ลงคะแนนเลือกตั้ง เชื่อได้ว่าบุคคลตามรูปถ่ายนั้นมีการกระทำความผิดจริง จึงได้อนุมัติออกหมายจับแกนนำ กปปส.สมุทรสาครแล้ว จำนวน 2 คน

คือ นายวัชรินทร์ ชาวจีน อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 52 หมู่ที่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาครที่ 37/2557 ลงวันที่ 30 มกราคม 2557 กับ นายมานิตย์ พรหมเมศ อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 148 หมู่ที่ 4 ต.องครักษ์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาครที่ 38/2557 ลงวันที่ 30 มกราคม 2557 ซึ่งบุคคลทั้ง 2 ได้กระทำความผิดและมีโทษอาญาตามมาตรา 76 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการใดโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถใช้สิทธิใช้ หรือขัดขวางหรือหน่วงเหนี่ยวมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ณ ที่เลือกตั้งหรือเข้าไป ณ ที่ลงคะแนนเลือกตั้ง หรือมิให้ไปถึง ณ ที่ดังกล่าวภายในกำหนดเวลาที่จะลงคะแนนเลือกตั้งได้ ซึ่งผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุก 1 ปี ถึง 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 5 ปี

พ.ต.อ.สมเกียรติฯ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ยังได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มอีกว่า หลังจากที่ศาลอนุมัติหมายจับบุคคลทั้งสองข้างต้นแล้ว ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร และ พนักงานสอบสวนฯ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการของ สภ.เมืองสมุทรสาคร เป็นผู้รับผิดชอบในคดีต่อไป ซึ่งถ้าหากพบผู้กระทำความผิดหรือผู้ที่ถูกออกหมายจับเมื่อใด ก็ให้เข้าควบคุมตัวไว้ได้ทันที นอกจากนี้ทาง สภ.เมืองสมุทรสาคร ยังได้ขออนุมัติหมายจับบุคคลตามภาพอีก 7 คน ที่ทำการขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมาด้วย แต่เนื่องจากศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่า หลักฐานยังมีไม่เพียงพอจึงไม่อนุมัติออกหมายจับบุคคลอื่นเพิ่ม

“ทั้งนี้สำหรับท่านที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นี้ หากท่านไปที่หน่วยเลือกตั้งแล้วถูกขัดขวางไม่ให้เข้าไปใช้สิทธิจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ไม่ว่าจะด้วยการกระทำหรือคำพูด ก็ขอให้ท่านถ่ายภาพหรือบันทึกเสียงของบุคคลนั้นไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่ในส่วนของผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดการเลือกตั้งในครั้งนี้ ถ้าท่านไปที่บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งแล้วทำการขัดขวางมิให้ผู้ใดเข้าไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ถ้าไปเพื่อคัดค้านการเลือกตั้ง ก็ถือเป็นสิทธิที่พึงกระทำได้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญภายใต้ระบอบประชาธิปไตย” พ.ต.อ.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล  รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา ข่าวสด