ถอดคำพูดแถลงข่าว อ.ธิดา 11 ม.ค. 57



ทีมข่าว นปช.
13 มกราคม 2557


ถอดคำพูด อ.ธิดา  ถาวรเศรษฐ
การแถลงข่าว “ในสถานการณ์ฉุกเฉิน”
เมื่อวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2557 ที่อิมพีเรียล เวิลด์ ลาดพร้าว


การที่เราแถลงข่าวทุกวันก็เพื่อจะสื่อสารโดยตรงมาทั้งสื่อมวลชนและพี่น้อง  เพราะว่าสถานการณ์เปลี่ยนทุกวัน  เรามาถึงจุดแยกที่เราพูดกันอยู่ตลอดว่าเป็นเวลาสำคัญยิ่ง  เนื่องจากระบอบอำมาตย์ไม่ต้องการให้ระบอบประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไป  เพราะถ้าเดินหน้าต่อไปก็มีการเลือกตั้ง  ก็มาเหมือนเก่าในทัศนะเขา  ก็จะได้นักการเมืองที่เขาไม่พึงปรารถนาแต่ประชาชนชื่นชอบมาเป็นรัฐบาล  และมาเป็นเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรทุกครั้ง  แล้วเขาก็ขนหาวิธีสารพัดวิธีเพื่อมาล้มรัฐบาลและมาล้มรัฐสภา  ก็เป็นอยู่อย่างนี้

และครั้งที่แล้วการทำรัฐประหารรวมทั้งการที่ใช้ตุลาการภิวัฒน์  ทั้งสองอย่างเขียนรัฐธรรมนูญใหม่  เขาก็หวังว่าจะได้รับชัยชนะก็ไม่เป็นเช่นนั้น  มาขั้นนี้จึงมาในขั้นปฏิบัติการขั้นสูงสุดโดยนำมวลชนมาเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างความชอบธรรมที่เขาเรียกว่าปฏิวัติประชาชน  แต่ดังที่ได้บอกแล้วว่าคำว่าปฏิวัติประชาชนนั้นต้องเป็นการทำสังคมก้าวไปข้างหน้า  แต่ชัดเจนว่าคณะของนายสุเทพ  เทือกสุบรรณและเครือข่ายระบอบอำมาตย์ทั้งหลายไม่ต้องการให้ประชาธิปไตยเดินหน้า  แต่ต้องการหยุดขบวนการประชาธิปไตย  เขาจึงทำทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งไม่ให้มีการเลือกตั้ง

ดังนั้นพี่น้องจะเห็นการเล่นเกมไปในเพลงเดียวกัน ทำนองเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระทั้งหลาย (ผู้ตรวจการแผ่นดิน, กกต., ปปช, ตุลาการรัฐธรรมนูญ) ก็มาในทำนองเดียวกันกับ กปปส. ก็คือหยุดการเลือกตั้ง เลื่อนการเลือกตั้ง รัฐบาลต้องลาออก ที่น่าสนใจเช่นที่โล้เพลงเดียวกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเมื่อวานนี้ที่พูดถึงเรื่องปลัดกระทรวงสาธารณะสุขที่ออกมา  วันนี้ก็มีข่าวของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย  แม้นว่าจะเปลี่ยนประธานที่ประชุมมาเป็นนพ.รัชตะ  รัชตะนาวิน แต่ว่าเนื้อหาก็เหมือนเดิม คือต้องการให้รัฐบาลนั้นมีการเปลี่ยนแปลง ให้รัฐบาลรักษาการซึ่งเป็นที่ยอมรับทุกฝ่ายมีการปฏิรูปประเทศทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องหลอกลวง  และต้องการให้หยุดการดำเนินการเลือกตั้ง  ให้มีการทบทวนกติกาจัดการเลือกตั้งใหม่

นี่ก็เป็นเพลง ๆ เดียวกัน ดังนั้นในเครือข่ายระบอบอำมาตย์ที่มีการแบ่งงานกันทำ  มีตัวแสดงหลายตัว  แต่ว่าร้องเพลงเดียวกัน คือ ให้รัฐบาลลาออก นายกลาออก หยุดการเลือกตั้ง  เตรียมการปฏิรูปการเมืองก่อน เตรียมการปฏิรูปประเทศ อ้างจะทำสภาประชาชนก่อน  ล้วนเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมดแต่จะโผล่มาทีละตัว

เพราะฉะนั้นเราขอแสดงความคิดเห็นว่า  ประชาชนรู้เท่าทันว่าองค์กรเหล่านี้ที่มีคนหน้าตาดี ๆ  มีวุฒิปริญญาสูง ๆ ทั้งหมดก็คือรวมหัวกันปล้นอำนาจจากประชาชน  ถึงจะโผล่มาเป็นคนละชุด  แต่ออกมาร้องเพลงเดียวกัน  ก็เท่ากับว่ารับงานเดียวกันมาทำ  นี่ไม่ใช่เกียรติยศและศักดิ์ศรีตามที่ท่านมีอยู่ในฐานะองค์กรเหล่านั้น  ทั้ง ๆ ที่องค์กรเหล่านี้กินเงินเดือนประชาชน  เราขอเตือนว่าท่านกินเงินเดือนประชาชน  แล้วท่านทรยศประชาชน  อย่าคิดว่าประชาชนจะไม่รู้  ประชาชนไทยในปีนี้ พ.ศ. นี้ได้อดทนให้กลุ่มคนต่าง ๆ เหล่านี้กระทำมายาวนาน

องค์กรที่สำคัญอีกองค์กรหนึ่งที่เราอยากสื่อสารถึงก็คือกองทัพ  ขณะนี้กลิ่นของรัฐประหารมันโชยมาก  เพราะท่านมีการเคลื่อนกำลังเอารถถังและเอาพลต่าง ๆ มาโชว์ในวันเด็ก  ถ้าวันเด็กวันนี้ผ่านไปแล้วไม่ทราบว่าท่านจะโชว์ผู้ใหญ่คนไหนในเรื่องรถถังและกองกำลัง  เรามองในแง่ดีว่าท่านต้องการเอามาโชว์  ต้องการแสดงกำลังในวันกองทัพแห่งชาติในวันที่ 18 มกราคม ที่เปลี่ยนจาก 25 มกรา  ประชาชนไทยและสังคมนานาชาติจับตาดู  

เมื่อวานนี้ อ.ธิดา ได้พูดคุยกับเอกอัครราชทูตสองประเทศ  ทั้งหมดล้วนแต่มีความเป็นห่วง  เลขาธิการ UN ก็มีความเป็นห่วงและแถลงที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติอยากให้มีการพูดคุย  ต้องการหลีกเลี่ยงความรุนแรง  เท่าที่อ.ธิดาได้สัมผัสกับเอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ เขาก็คิดตรงกันไม่อยากให้มีปัญหา  และเขาเข้าใจคนเสื้อแดงที่เรายอมอดทนหลีกเลี่ยงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น  เพราะเราคำนึงถึงอนาคต  เราไม่ต้องการให้ประชาชนต่อประชาชนเห็นหน้ากันแล้วต้องทำร้ายซึ่งกันและกัน  ตรงข้ามกับอีกเวทีหนึ่ง (เวทีราชดำเนิน) ที่ยุยงส่งเสริมให้คนเกลียดชังกัน  ให้คนโกรธและกลัวและเกลียดกระทั่งต้องการทำร้าย  กล่าวคำเท็จทุกวัน

สิ่งที่อยากจะสื่อสารถึงทางกองทัพคือ
1. ประชาชนไทยไม่ว่าจะเป็นชาวไร่ชาวนา  คนรากหญ้า  กระทั่งปัญญาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม 2 เอา 2 ไม่เอา ที่เปิดตัวเมื่อวานนี้ล้วนแต่เป็นคนที่มีชื่อเสียง มีผลงานที่น่าชื่นชม และจำนวนมากล้วนเป็นคนที่อยู่คนละฝั่งฟากกับคนเสื้อแดงด้วยซ้ำ  แต่ความที่เขาเป็นปัญญาชนที่พอจะใช้สติและปัญญาตัวเองคิด  จึงคิดหาทางออกและยืนอยู่ข้างประชาชนในที่สุด  การแสดงออกของกลุ่มต่าง ๆ คนที่ออกมาทั้งหมดเหล่านี้ล้วนต่อต้าน คัดค้านไม่ให้มีการรัฐประหารอีกต่อไป  รวมทั้งมหาอำนาจทุกประเทศ  โดยเฉพาะท่านเอกอัครราชทูตจำนวนมากก็ได้พูดว่า  ถ้ามีรัฐประหารในประเทศไทย  เป็นเรื่องที่พวกเขาต้องพิจารณาทบทวน นโยบาย ท่าทีที่จะมีหลังจากการทำรัฐประหารสำหรับรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นเพราะไม่มีใครยอมรับได้
2. สำหรับกลุ่มที่มีการแสดงออกในเรื่องความรุนแรง ชัดเจนจากกรณีหน้ารามฯ  ปรากฏว่าสุเทพ  เทือกสุบรรณ ปราศรัยโจมตี นปช. ตลอดเวลา  ทั้งหมดที่สุเทพพูดทุกวันเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น  สิ่งที่เราต่อสู้ในยุคนั้นเราบอกว่า ยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน  นี่คือการต่อสู้ตามครรลองประชาธิปไตย  มาบัดนี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์  ชินวัตร  เมื่อประสพปัญหาก็ยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน  ยามเราไม่ได้มีอำนาจรัฐ  เราก็เรียกร้องเขายุบสภา  คืนอำนาจให้กับประชาชน  ทั้งหมดเป็นวิธีการตามระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

เราไม่สามารถที่จะตอบโต้ได้ทุกประเด็น  แต่เราไม่สามารถที่จะพูดเท็จ หยาบคาย บิดเบือน พวกนักวิชาการที่ขึ้นเวที, พิธีกร และนายสุเทพเอง ทั้งหมดใช้วาจาหยาบคาย  ย่ำยีเพศสตรีและใส่ร้ายป้ายสี นี่หรือขบวนการคนดี  ต้องพูดว่าเป็นข่บวนการของคนเลวสิ้นดี

สำหรับฝ่ายประชาชนที่เราขอส่งสาสน์  มีทั้งคนเสื้อแดง แกนนำ นปช. และมีทั้งฝ่ายประชาชนส่วนอื่น ๆ ผู้รักประชาธิปไตยและต่อต้านรัฐประหารทุกรูปแบบ  เรา นปช. มีนโยบายชัดเจนว่าเราต่อสู้ในระบบและตามระบอบประชาธิปไตย  นั่นหมายความว่าเป็นกระบวนการสันติวิธี  เพราะเรารู้ดีว่าเส้นทางของเรายาวนานเราจำเป็นต้องรักษาขบวนการของเรา  เราต้องรักษาทั้งชีวิตของพี่น้องเราและไม่ต้องการให้พี่น้องเราติดคุกติดตาราง  เพราะเราประจักษ์ชัดว่ากฎหมายมักจะถูกใช้กับคนเสื้อแดงและฝ่ายประชาชนเท่านั้น  เราจำเป็นต้องทำงานด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง  ขอให้หลีกเลี่ยงที่จะมีการปะทะกัน  เขาต้องการให้คนระหว่างสีเสื้อปะทะกันแล้วจะมีอัศวินมาจัดการ  เมื่อเราไม่ยอมปะทะเราสลายตัวเราให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับประชาชน  เกมการปะทะระหว่างสีเสื้อจึงไม่มี  จึงขอเรียกร้องพี่น้องประชาชนทั้งหลายว่าเอาไปเล่นเกมของเขา ไม่จำเป็นขอให้อดทน ผู้ชนะไม่ใช่ว่าสามารถตีหัวเขาได้มากกว่าใคร  สามารถแทงเขาได้มากกว่าใคร  หรือยิงคนได้มากกว่าใคร  คนเหล่านั้นคือคนขี้ขลาด  คนที่เก่งจริงจะต้องชนะหัวใจประชาชนไทยทั้งประเทศ  และชนะหัวใจของคนทั้งโลก  คนเก่งจริงไม่ใช่นักเลง  คนเก่งต้องใช้สติปัญญา  การต่อสู้ของเราเป็นระยะยาวในบางเวลาเราดูเหมือนคล้าย ๆ พ่ายแพ้ในบางเกม  แต่ต้องเข้าใจว่านี่เป็นการต่อสู้ระยะยาว  เป้าหมายปลายทางประชาชนต้องเป็นฝ่ายชนะ  เพราะฉะนั้นฝ่ายประชาชนต้องจัดการปัญหาให้ถูกด้วยสติปัญญา  เราเชื่อมั่นในประชาชน  สิ่งที่เราต้องการก็คือประชาชนมาอยู่กับเราให้มากที่สุด  ทำในสิ่งที่ถูกต้องมากที่สุด  สร้างความชอบธรรมให้มากที่สุด