นางธิดา กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) พร้อมผู้นำเหล่าทัพ พบปะพูดคุยกันช่วงค่ำวันที่ 1 ธันวาคมว่า แสดงว่าทหารไทยยังมีบทบาทสำคัญประหนึ่งว่าหากทหารเข้าข้างฝ่ายไหน ฝ่ายนั้นจะชนะ โดยเฉพาะฝ่ายนายสุเทพ ย่อมรู้ดีว่าจุดอ่อนของตนเองคือ มีมวลชนจำนวนน้อยกว่าจำนวนประชาชนที่สนับสนุนการเลือกตั้ง
ในแง่นี้กองทัพก็รู้ดีว่าหากทำรัฐประหารก็จะไม่คุ้มเพราะไม่น่าจะมาเสี่ยงกับการที่จะมีมวลชนจำนวนมากมาต่อต้าน กองทัพจึงทำหน้าที่คล้ายๆ การไกล่เกลี่ยดูว่าใครจะถอยแค่ไหน แต่ก็ดูเหมือนกองทัพจะเอียงไปทางฝ่ายนายสุเทพ มากกว่าฝ่ายรัฐบาล ทั้งที่ตามหลักการกองทัพควรอยู่ภายใต้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนเดียวกัน และตามหลักการต้องสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่มาทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย เพราะเท่ากับว่า ได้เคลื่อนบทบาทจากการเป็นใต้ผู้บังคับบัญชานายกรัฐมนตรี มาต่อรองเช่นเดียวกับม็อบ
อย่างไรก็ตาม กองทัพอาจยังมีเยื่อใยอยู่บ้าง ที่ไม่จี้นายกรัฐมนตรีลงจากตำแหน่งตรงๆ แต่ก็เป็นการจี้นายกรัฐมนตรีแบบกลายๆ ทำให้สงสัยว่า ขณะนี้กองทัพปฏิเสธการอยู่ภายใต้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือไม่ หรือ กองทัพอาจจะบอกว่า ไม่ทำรัฐประหารก็บุญแล้ว ซึ่งสภาพขณะนี้ แปลว่าทุกคนต้องกลัวกองทัพ ต่างฝ่ายต่างอยากให้ทหารอยู่ฝ่ายตัวเอง
ที่มา มติชน