ทีมข่าว นปช.
2 พฤศจิกายน 2556
ชมคลิป
โดยคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวว่า เราขอประกาศไม่ยอมรับแถลงการณ์ปฏิวัติประชาชนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) เราไม่สามารถทำได้ตามที่นายสุเทพเรียกร้องในเรื่องการคืนอำนาจได้ เพราะการคืนอำนาจให้ประชาชนทำได้โดยการยุบสภาตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่การคืนอำนาจให้นายสุเทพนั้นมีทางเป็นไปได้ทางเดียวคือการยึดอำนาจแล้วประกาศรับรองให้นายสุเทพเป็นรัฏฐาธิปัตย์ หมายถึงประเทศนี้จะมีสภาและรัฐบาลที่แต่งตั้งโดยนายสุเทพ และมีนายกรัฐมนตรีคือนายสุเทพ จากนั้นทิศทางของประเทศไทยจะเป็นอย่างไรก็ขั้นกับนายสุเทพเป็นสำคัญ ซึ่งเราไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ ดั้งนั้นขอให้พี่น้องแสดงร่วมกันแสดงออกเชิงสัญลักณ์อย่างสันติวิธี ในการนี้ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้ประสานงานกับแกนนำทั่วประเทศให้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์แบบเดียวกัน วันนี้จะมีคนเสื้อแดงเดินทางไปศาลากลาง เพื่อแสดงออกในแนวทางเดียวกัน รวมทั้งตนจะเผยแพร่การฉีกแถลงการณ์ดังกล่าวผ่านทางยูทูปและเว็บไซต์ต่างๆ ต่อไป โดยนายณัฐวุฒิได้นำคนเสื้อแดงที่มาร่วมฟังการแถลงข่าวจำนวนหลายร้อยคนฉีกกระดาษขนาดเอ 4 พิมพ์ข้อความ “แถลงการณ์ปฏิวัติประชาชน กปปส.” เพื่อเป็นสัญลักษณ์และให้คนเสื้อแดงต่างจังหวัดนำไปปฏิบัติต่อด้วย
คุณณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า แนวทางการต่อสู้ของคนเสื้อแดงยังจะยึดมั่นในสันติวิธีอย่างเข้มแข็ง ไม่เปลี่ยนแปลงจากนี้ เราจะยอมรับเรื่องใดนั้นเงื่อนไขสำคัญประการเดียวคือหลักการที่เสนอต่อสังคมต้องถูกต้อง แต่วันนี้แนวทางของนายสุเทพไม่ถูกต้องและไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป ตนจะไปนั่งจัดรายการ “ทันสถานการณ์” ออกอากาศเวลา 21.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ คืนละ 30 นาทีทุกวัน เพื่อติดตามสถานการณ์ทางการเมือง นำเสนอเนื้อหาสาระ ที่ถูกต้องทางระบบอบประชาธิปไตยให้แก่ประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ใช่การตอกลิ่มหรือสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง แต่ประสงค์ให้คนที่เห็นด้วยได้รับชม และฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกรุณาติดตามโดยสงบ ตามแนวทางที่ท่านเสนอว่าประเทศนี้ต้องปกครองด้วยประชาธิปไตยเท่านั้น เราไม่เห็นด้วยกับการกดขี่กดดันสถานีโทรทัศน์ให้เผยแพร่ข่าวสารของท่านและงดนำเสนอข่าสารของรัฐบาล เพราะนั่นเป็นวิธีการของเผด็จการณ์ไม่ใช่ประชาธิปไตย และขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนปกป้องศักดิ์ศรีและเสรีภาพของสื่อมวลชนอย่างเต็มที่ การตัดสินใจจะเชื่อหรือเห็นด้วยกับข้อมูลฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นอำนาจของประชาชน ไม่ใช่อำนาจการข่มขู่ของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใด ๆ
ด้านอ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. ได้อ่านแถลงการณ์ นปช.แดงทั้งแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉินสู้รบทางการเมือง วันที่ 2 ธ.ค. โดยระบุ ว่า
1. นปช.แดงทั้งแผ่นดินต้องขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนและคนเสื้อแดง ที่มาชุมนุม ณ สนามราชมังคลากีฬาสถานคับคั่งกว่า 1 แสนคน ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 เพื่อมาแสดงตัวในฐานะพลังฝ่ายประชาธิปไตยที่พร้อมจะสนับสนุนระบอบประชาธิปไตย รัฐสภา และรัฐบาลอันมาจากการเลือกตั้งของประชาชนไทยทั่วประเทศ ตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
2. การยุติการชุมนุมในวันที่ 1 ธันวาคม 2556 เพื่อป้องกันเหตุร้ายรุนแรงอันเกิดจากกลุ่มโจรอันธพาลที่นำโดยคณะ กปปส. ที่อุปโลกตัวเองขึ้นมาเพื่อทำลายอำนาจรัฐที่ชอบธรรม ทำลายประเทศไทยและใช้กำลังรุนแรงจี้คนไทย ข้าราชการไทย ภาคเอกชน สื่อสาธารณะ ให้รับฟังอำนาจสั่งการเฉพาะกลุ่มตน
ที่สำคัญตำรวจไม่สามารถพิทักษ์สันติราษฎร์ได้ตามชื่อของตน ด้วยความจำกัดของสถานการณ์และนโยบายอ่อนแอ
นปช. ไม่ใช่กลุ่มประชาชนที่เป็นกองกำลังสู้รบ ไม่ใช่การต่อสู้ทางการทหาร จึงจำเป็นต้องรักษาชีวิตประชาชนที่มาแสดงความเรียกร้องทางการเมืองโดยสงบ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ต้องยุติการชุมนุม และเราไม่ต้องการเข้าสู่เกมที่คณะของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องการให้เกิดการจลาจลในบ้านเมือง
3. ให้ประชาชนไทยไม่ยอมรับประกาศและไม่ยอมรับอำนาจอันธพาลของคณะ กปปส. นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ โดยประณามว่าเป็น กบฏ ผู้ก่อการร้ายและทำลายประเทศไทย โดยการแสดงออกตามความเหมาะสม ไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงปะทะระหว่างคนต่างสี จากพฤติกรรมการเป็นกบฏของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ DSI ควรถอนประกันนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จากคดีสั่งฆ่าประชาชนไปแล้ว จะได้ไม่ก่อปัญหากับบ้านเมืองอีกต่อไป
4. พรรคประชาธิปัตย์และคณะ กปปส. ต้องรับผิดชอบกับการนำอันธพาลมาทำร้ายประชาชนอันมีภาพนิ่ง ภาคเคลื่อนไหว ปรากฏในสื่อออนไลน์, สถานีข่าวต่างประเทศ และประจักษ์พยานเป็นจำนวนมาก เป็นการกระทำที่อุกอาจต่อหน้าประชาชนที่สัญจรทั่วไป ซึ่งเริ่มตั้งแต่จับคนถอดเสื้อแดงเปลือยกายตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน เป็นต้นมา บ่ายวันที่ 29 พฤศจิกายน เกิดมากที่สุด มีการทุบรถโดยสารประจำทาง ทำร้ายคนในรถโดยสารประจำทาง รถแท็กซี่ รถส่วนตัว คนเดินถนนที่มีสัญลักษณ์เสื้อแดง ทำร้ายร่างกาย ถอดเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นคนชรา หรือสตรี
จากนั้นก็มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นในเวลากลางคืนจนได้ยินเสียงคล้ายอาวุธระเบิด มีการประทุษร้ายด้วยอาวุธปืน มีดฟันตามร่างกาย ใช้ของแข็งทุบตี เป็นต้น
จนบัดนี้มีผู้เสียชีวิตเป็นทางการ 4 ราย เป็นนักศึกษารามคำแหง 1 ราย เป็นมวลชนเสื้อแดง 3 ราย บาดเจ็บหลายสิบราย มีผู้ถูกยิงอย่างน้อย 2 ราย ที่ต้องรอผ่าเอากระสุนออก นายสาธิต วงศ์หนองเตย ได้สารภาพว่าเป็นแผนการของพรรคประชาธิปัตย์และคำให้การของนายตี๋ใหญ่หน้ารามคำแหง ผู้ถูกจับกุมก็สารภาพว่าสนิทสนมกับนายสาธิต วงศ์หนองเตย ดังนั้นทั้งสองฝ่ายล้วนเป็นเหยื่อ
เรื่องราวทั้งหมดนี้ถูกบิดเบือนโดยการให้ข่าวโจมตีคนเสื้อแดงและ นปช. ว่าเราเป็นผู้ร้ายทั้งที่เราเป็นฝ่ายถูกกระทำจากอันธพาลที่พรรคประชาธิปัตย์นำมาร่วมกับแนวร่วมนักศึกษารามคำแหงบางส่วน ขอให้สื่อมวลชนทั้งหลายนำเสนอข่าวให้ครบถ้วนเพื่อมิให้สังคมไทยถูกครอบงำโดยกบฏเผด็จการที่วางอำนาจขู่สื่อมวลชนโดยเอามวลชนของตนมากดดัน
5. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศโดยเร็ว พิทักษ์ประชาชนไทยทั่วประเทศที่ไม่ออกมาเคลื่อนไหวก่อความรุนแรง ทำลายประเทศไทย ทำลายการบริหารราชการแผ่นดิน มิฉะนั้นเข้าข่ายว่ารัฐบาล ข้าราชการ ทหาร พลเรือน ตกอยู่ภายใต้การข่มขู่ของอันธพาลการเมือง การเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ต้องเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ตามกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ มิฉะนั้นจะไม่มีทางรอด ทางออกประเทศไทยและสันติสุขเกิดขึ้นในแผ่นดินนี้
6. ขอเรียกร้องให้ฉีกประกาศ “ปฏิวัติประชาชน ของ กปปส.”
เตรียมตัวให้พร้อมกรณีฉุกเฉิน
ขอเรียกร้องไปยังวิทยุชุมชนให้เกี่ยวสัญญาณและติดตามข่าวสารของ นปช.
ทาง WEB BLOG UDDRED.BLOGSPOT.COM , YOUTUBE, FACEBOOK
และปกติ นปช.แดงทั้งแผ่นดินจะแถลงข่าวทุกวัน ในเวลา 13.00 น.
ประธานนปช. ยังกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ได้มีญาติของผู้เสียชีวิตที่เป็นคนเสื้อแดงทั้ง 3 ศพ มาร่วมในการแถลงข่าวในวันนี้ด้วย โดยทาง นปช.เตรียมระดมเงินบริจาคให้มากที่สุดและตั้งเป้า ว่า จะมอบให้ญาติผู้เสียชีวิตทั้งคนเสื้อแดงและนักศึกษารามคำแหง รายละ 1 ล้านบาท ส่วนผู้บาดเจ็บ นปช.จะให้การช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลตั้งแต่รายละ 5,000ถึงแสนบาท เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของเสียชีวิตและบาดเจ็บต่อไป ซึ่งความสูญเสียนี้ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น โดยนปช. จะร่วมเป็นเจ้าภาพในงานสวดพระอภิธรรมศพทุกงานและพร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ด้านคุณจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า เหตุการณ์ปะทะหน้ามหาวิทยาลัยรามฯ ที่ผ่านมานั้น นักศึกษารามฯ ถูกนำมาใช้เผชิญหน้า แต่ชุดที่ปฏิบัติการจริงๆ คือชุดที่ซุ่มอยู่บนตัวตึก ป็นชุดปฏิบัติการสไนเปอร์ยิงระยะไกล รวมทั้งชุดที่มาก่อกวนทั้งหลาย ตลอดทั้งคืนมีเสียงระเบิด ประทัดยักษ์ทุกทางเข้าออกราชมังคลาฯ ลำพังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มามือเปล่าจึงไม่สามารถให้ความคุ้มครองประชาชนได้ นักศึกษารามฯ ก็ถูกปลุกเร้าจากเวทีราชดำเนินว่าถูกยิง ตนคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้นนักศึกษารามฯ ที่เสียชีวิตก็ถูกยิงจากมุมสูงเช่นกัน พี่น้องเราถูกยิงตาย 3 คน แต่ที่ผ่านมาไม่มีใครพูดถึง และพยายามบิดเบือนว่านักศึกษารามฯ ที่ตายเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนฆ่าและเป็นความตายเดียวในเหตุการณ์ครั้งนี้
คุณจตุพร กล่าวอีกว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้จะจบเมื่อคนเสื้อแดงกลับบ้าน แต่ก็มีการดรามากันต่อว่ามีนักศึกษารามฯ อยู่ในตัวอาคาร และมีกองทัพไปนำนักศึกษารามฯ ออกจากมหาวิทยาลัย ซึ่งในขณะนั้นไม่มีคนเสื้อแดงอยู่ในพื้นที่ราชมังคลาฯ แล้ว เป็นปรากฎการณ์ที่เขาต้องการสร้างเรื่องว่าคนเสื้อแดงร่วมมือกับรัฐบาล ความจริงคนเสื้อแดงไม่ได้เข้าไปในบริเวณมหาวิทยาลัยฯ ราม ทำไมต้องเอาทหารมาช่วยนักศึกษา และไม่เอาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปนำตัวนักศึกษารามฯ ออกมา เพราะถ้าเอาตำรวจเข้าไปจะได้ชุดสไนเปอร์ออกมาด้วย ตนในฐานะศิษย์เก่ารามคำแหง เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของพ่อขุน คนทำบาปกรรมเอาไว้จะต้องได้รับกรรมที่ตัวเองทำ ซึ่งตนคิดว่าเป็นขบวนการเดียวกันกับการโค่นล้มรัฐบาล เหตุการณ์ที่รามฯ และราชมังคลาฯ ขอประณามนายสุเทพว่าเป็นการกระทำที่ต่ำช้าที่สุด ใครก็ตามที่คิดว่าการได้มาซึ่งอำนาจโดยวิธีการของนายสุเทพสามารถทำได้ แผ่นดินนี้จะไม่เหมือนเดิม
คุณจตุพร กล่าวว่า ภายใต้รัฐธรรมนูญทุกฉบับการคืนอำนาจในประชาชนมีทางเดียวคือยุบสภา นายสุเทพพยายามใช้คำว่ามวลมหาประชาชน ทั้งที่วันที่มามากที่สุดมีแค่ 1 แสนคนเท่านั้น ในความหมายของนายสุเทพคือให้นายกฯ คืนอำนาจให้กับนายสุเทพมากกว่า ถามว่าจะทำได้อย่างไรในเมื่อไม่มีกฎหมายกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ นายสุเทพทำราวกับการรัฐประหาร นั่งอ่านแถลงการณ์และให้มวลชนไปยังสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ให้เขาถ่ายทอด ตนขอถามไปยังผอ.สถานีโทรทัศน์แต่ละแห่งว่า ถ้าตนเอาคน 500 คนไปสถานี ต้องถ่ายทอดสดให้ตนหรือไม่ ตนจะได้พาพี่น้องเสื้อแดงไปบ้าง อ้างความเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์แต่ไปบังคับให้ถ่ายทอดสด ห้ามออกข่าวรัฐบาลนั้น เป็นประชาธิปไตยประเทศไหน
ถ้าวิธีการของนายสุเทพสำเร็จ วันรุ่งเช้าก็จะมีคนมาชุมนุมและเรียกร้องให้นายสุเทพคืนอำนาจทุกวันจนประเทศนี้อยู่ไม่ได้ เราต้องการให้ประเทศนี้เดินหน้า คำว่ามวลมหาประชาชนที่นำมาใช้ นายสุเทพพยายามปฏิบัติตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์เหมือน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. แต่นายสุเทพเป็นเพียงจำเลยที่รอขึ้นศาลในวันที่ 12 ธ.ค.นี้เท่านั้น ส่วนการพบนายกฯ พยายามสื่อสารว่ากองทัพเลือกข้างประเทศไทย นายสุเทพยายามพูดซ้ำราวกับตัวเองคือประเทศไทย ถ้าวันที่ 3 พ.ย.นี้ที่ครบกำหนดการขยายเวลาของนายสุเทพ นายสุเทพยังไม่ชนะ จะรับผิดชอบอย่างไรกับสิ่งที่ตัวเองทำ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังอยู่ต่อ และประชาชนให้การสนับสนุนต่อนายสุเทพจะทำอย่างไร คุณจตุพรกล่าว
ด้านคุณวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช.กล่าวว่า เริ่มจากวันนี้ นปช. จะมีการตั้งเวที ใน 3 จังหวัดคือ สมุทรปราการ นนทบุรี และปทุมธานี โดยจะมีแกนนำ นปช. เดินทางไปร่วมด้วย และขอให้พี่น้องคนเสื้อแดงใน กทม. และปริมณฑลเดินทางมาร่วมเพื่อปกป้องประชาธิปไตยด้วย