ทีมข่าว นปช.
6 ธันวาคม 2556
วันนี้ (6 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ชั้น 5 อิมพีเรียล ลาดพร้าว กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยอ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. คุณจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. และส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย คุณธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษกนปช.และแกนนำนปช.ส่วนกลาง แถลงข่าวกรณี "ในสถานการณ์ฉุกเฉินและสู้รบทางการเมือง" ทามกลางพี่น้องคนเสื้อแดงจำนวนมากที่มารอคอยฟังการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน
โดยอ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.กล่าวว่า ในวันนี้อยากสรุปว่าสิ่งที่กลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการสูงสุด นั้นเป็นการต่อยอดฉวยโอกาสจากการที่ผู้คนมาคัดค้าน ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยเป็นการเอาเรื่องส่วนตัวของนายสุเทพมาเกี่ยวข้องด้วยจำนวนมาก เพราะเขากำลังเผชิญข้อหาฆาตรกรที่ต้องขึ้นศาลในวันที่ 12 ธ.ค. นี้ ซึ่งเป็นการหาทางออกของนายสุเทพและคณะ โดยมีการวางแผนให้เกิดความรุนแรงเพื่อให้รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ รอบก่อนนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็เป็นบุคคลที่ตายไปแล้ว เพราะล้มละลายทางเศรษฐกิจไม่สามารถแก้ปัญหาตัวเองได้
ผู้นำมวลชนครั้งนี้คือนายสุเทพก็อยู่ในสถานะที่เตรียมตัวตายเช่นกัน คนที่กำลังจะตายจะมีฤทธิ์เดชมากกว่าปกติเพื่อรักษาชีวิตตัวเองไว้ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ใช้วิธีการอนาธิปไตยเป้าหมายให้เป็นระบอบอภิชนาธิปไตย กระบวนการทั้งหลายที่เกิดขึ้นมีแผน เพื่อให้เกิดรัฐบาลและสภาอภิชน ไม่ใช่สภาประชาชน
ประธาน กล่าวอีกว่า การบุกรุกสถานที่ราชการ การคุกคามสื่อมวลชนเพื่อถ่ายทอดการชุมนุมของตัวเองนั้น เป็นวิธีการเดียวกับทหารหรือคณะปฏิวัติสมัยโบราณ คือยึดทำเนียบและสื่อก็ล้มเหลวทั้งหมด เพราะรัฐบาล รัฐสภาและนายกรัฐมนตรียังอยู่ ไม่มีใครไปรายงานตัวกับนายสุเทพ มีเพียงอธิการบดีที่สั่งปิดมหาวิทยาลัย ซึ่งถือว่าน่าอับอายมากในการขานรับพวกกบฏ แต่กินเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชน ทั้งนี้เขาต้องการการยกระดับความรุนแรงให้มากขึ้น โดยพยายามยกระดับการเคลื่อนไหวให้สูงขึ้นเทียบเท่าหรือให้มากกว่าการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อให้อำนาจอื่นเข้ามาจัดการรัฐบาล ทั้งตุลาการ กองทัพ หรืออื่นๆ เราจึงเห็นความรุนแรงที่ราชมังคลากีฬาสถาน เพราะเขาต้องการให้เกิดการปะทะและเกิดจราจล ให้รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่ได้
เราขอประณามอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่มีส่วนร่วมในการเปิดเวทีการชุมนุมของกลุ่ม คปท. เพื่อปลุกระดมคนที่หน้ามหาวิทยาลัยรามฯ หลายคนคิดว่าคนเสื้อแดงรุมฆ่านักศึกษารามฯ แต่เรายืนยันไม่เป็นความจริง และเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องสืบสวนต่อไป
ด้านคุณจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า ขอแจ้งข่าวดีว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และแกนนำ นปช. นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ และตน จะไปร่วมจัดรายการ “ความจริงวันนี้” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ในเวลา 21.30 น. ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับกรณีการปะทะที่มหาวิทยาลัยรามฯ พอน้ำแห้งตอก็เริ่มผุด ตนและนายอารีย์ ไกรนรา หัวหน้าการ์ด นปช. มีพี่น้องในรามจำนวนมากกับอธิการบดีคนปัจจุบันบันส่วนตัวก็รักกันดี แต่ในกรณีนี้จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ว่าคนที่พานักศึกษามาตายคืออธิการบดีรามคำแหงฯ ที่ไม่ควรอยู่ในตำแหน่งต่อไป เพราะผู้ที่เข้ามาร่วมในมหาวิทยาลัยประกอบไปด้วย นักศึกษารามฯ นักเรียนอาชีวะ คนของพรรคประชาธิปัตย์ และกองกำลังติดอาวุธที่ใช้สไนเปอร์ยิงจากบนตัวอาคาร รามฯ ตนเคยใช้เป็นที่มั่นในการชุมนุมปี 35 แต่ภายใต้อธิการบดีคนนี้กลับเอากองกำลังติดอาวุธเข้ามาในมหาวิทยาลัย ที่เป็นมหาวิทยาลัยของประชาชน จึงเป็นการทรยศต่อประชาชนที่เขาเสียภาษีในการสร้างมหาวิทยาลัยแห่งนี้
คุณจตุพร ยังกล่าวอีกว่า จากนี้คิดว่าความรุนแรงจะเกิดขึ้นตามลำดับ วันนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนว่ามาตรา 7 ใช้ไม่ได้ เพราะนายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส. ที่ประชุมอธิการบดีจึงไปหาทางออกให้นายสุเทพ ที่ใช้ตำแหน่งว่าเลขาธิการฯ กปปส. คำว่า เลขาธิการฯ มีรูปแบบเดียวคือเป็นโครงสร้างของพรรคคอมมิวนิสต์ ดังนั้นสถานะเดียวของ กปปส.คือคอมมิวนิสต์เท่านั้น และนายสุเทพก็ยังขยายวันประกาศชัยชนะต่อไปตามลำดับ ในส่วนท่าทีของบรรดาแม่ทัพนายกองทั้งหลาย สถานการณ์ตอนนี้ตนทราบจากพี่น้องทหารแตงโม มีสิ่งที่อยากเรียนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทน์โอชา ผบ.ทบ. ที่ต้องช่วยคิด ขณะนี้มีการจัดชุดกำลังจำนวน 32 ชุด ดำเนินการเสร็จแล้ว 12 ชุด โดยแต่ละชุดมีเจ้าหน้าที่จำนวน 6 นาย ให้นายทหารสัญญาบัตร 1 นายเป็นหัวหน้าชุด มีภารกิจติดตามบุคคลสำคัญทั้งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีบางคน ไม่เว้นแม้แต่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และแกนนำ นปช. ในส่วนของตนเป็นหน่วยรบพิเศษ ภารกิจคือเอาถึงตาย และเริ่มปฏิบัติการแล้ว ซึ่งตนไม่ทราบมีการคิดอ่านกันอย่างไร ซึ่งสิ่งที่สุเทพพยายามดำเนินการ สิ่งที่ทำให้บรรลุผลได้อย่างเดียวคือการรัฐประหาร เพราะ นายกรัฐมนตรีมาตรา 7 ไม่มีทางเป็นไปได้
“ใครที่คิดอ่านจะทำเวลานี้ ให้คิดอ่านถึงวันต่อไป ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย อยากให้ผู้นำเหล่าทัพ ผู้มีอำนาจทั้งหลายคิดถึงวันข้างหน้าประเทศไทยจะมีสภาพอย่างไร ถ้าเอาคนภาคใต้มาร่วมกับประชาชนส่วนต่างๆ แล้วได้ 1 แสนคน ถ้าสมมติว่าชนะก็ชนะได้แค่วันเดียว จากนั้นคนภาคเหนือ อีสาน กลาง เขาก็ต้องลุกฮืออยู่ดี ปัญหาต่างๆ ของประเทศจึงไม่จบ ใครที่คิดอ่านวางแผน วางเกมทั้งหลายขอให้คิดถึงประเทศไทย ผมเห็นด้วยที่ผู้นำเหล่าทัพเลือกข้างประเทศไทย แต่ต้องเลือกระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขด้วย ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ที่ไม่มีทางจะสมบูรณ์ได้ถ้านายกรัฐมนตรีไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และคนที่ได้รับประโยชน์ก็คือนายสุเทพและพวกเท่านั้น และจะเป็นจุดเริ่มต้นหายนะของประเทศ เลวร้ายกว่า 19 ก.ย. 49 ถ้าคนไทยลุกฮือทั้งประเทศ จะอยู่กันอย่างไร”คุณจตุพร กล่าว
ด้าน นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. กล่าวว่า การกระทำของนายสุเทพสุดท้ายจะมีชะตากรรมเหมือนกบฏบวรเดชเมื่อปี 2476 ที่ถูกจับติดคุกทั้งหมด ครั้งนี้เป็นกบฏบวรเดชปี 2556 ถ้านายสุเทพอยากได้สภาประชาชน ก็ให้ไปโหวตวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ไปเลย เพื่อให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่เป็นตัวแทนจากวิชาชีพตามที่นายสุเทพต้องการ และขอให้คนที่ชุมนุมอยู่กลับบ้านไปให้หมด ทั้งนี้มีเรื่องที่คนเสื้อแดงร้องเรียนเข้ามาคือโรงพยาบาลราชวิถีปฏิเสธที่จะรักษาคนไข้ที่เป็นคนเสื้อแดง ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดหรือไม่ เพราะหมอไม่สามารถไล่คนไข้ได้ โดยตนจะเดินทางไปสอบถามด้วยตัวเองหลังจากนี้และขอเรียกร้องให้กระทรวงสาธารสุขประสานและตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย.
