ถอดคำปราศรัยของ อ.ธิดา เวที “นปช. เพื่อคนไทย ปกป้องประชาธิปไตย” เมืองทองธานี

ถอดคำปราศรัยของ อ.ธิดา  ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน
เวที “นปช. เพื่อคนไทย ปกป้องประชาธิปไตย”
ณ ลานสนามฟุตบอล SCG เมืองทองธานี
วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2556



ขอบคุณค่ะพี่น้อง  สถานการณืประเทศไทยมันเปลี่ยนไวจริง ๆ เลยนะคะ  ก่อนอื่นที่พูด ๆ ทั้งหมด  สงสัยบนเวทีนี้มีอยู่คน ๆ เดียวไม่ใช่สมาชิกพรรคเพื่อไทย  แต่อาจจะเป็นเจ้าของเวทีนี้และขอเป็นเจ้าภาพแทนพี่น้องเสื้อแดงทั้งหมดต้อนรับสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคนค่ะ

พี่น้องคงจะโห่ร้องกันจนเหนื่อย  แต่ว่าเมื่อมาถึงเวทีนี้  มองไปข้างหลังเวที นปช. มันเปลี่ยนไว  เมื่อสองวันก่อนก็ยังเป็น “นปช. เพื่อไทย ปกป้องรัฐบาล”  แต่วันนี้เป็น “นปช. เพื่อคนไทย ปกป้องประชาธิปไตย”  ปรบมือให้กับผู้ทำป้ายนี้ด้วย  ผู้ทำป้ายนี้ขอให้ได้รับการคารวะจากเรา  เพราะนี่คือวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้าของความสามัคคีระหว่าง นปช. พรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงทั่วโลกเลยค่ะ  มันต้องได้อย่างนี้มันถึงจะเดินไปได้ไกลสุดหล้าฟ้าเขียวเลยค่ะ

พี่น้อง  วันนี้เรามีกิจกรรม 3 อย่าง เป็นกิจกรรมที่มิได้นัดหมาย  กิจกรรมแรกก็คือโรงเรียนนปช. เป็นกิจกรรมที่นิดเอาไว้ล่วงหน้า  ถ้าพี่น้อง ณ ที่ประชุมแห่งนี้ยังไม่ได้รับฟัง อ.ธิดา ขอให้ไปตรวจสอบรับฟังโดยดูย้อนหลัง  ก็ขอรบกวนเอเชียอัพเดทและ P&P Channel ให้ได้เป็นรีรัน  หรือมิฉะนั้นพี่น้องเข้าไปดูเวปไซด์ นปช. ซึ่งเป็นเวปไซด์เล็ก ๆ เพิ่งทำแต่มีคนเข้าดูเป็นล้านคนแล้วค่ะ  พี่น้องไปเปิดดูย้อนหลัง  วันนี้เป็นโรงเรียนที่ปรับให้เข้ากับสถานการณ์ เช่น เราถามนักเรียนว่า ยุทธศาสตร์สองขายังใช้ได้หรือเปล่า  เราจะถามที่นี่เป็นโรงเรียนเล็ก ๆ ชั่วคราว  ยุทธศาสตร์สองขาพี่น้องรู้จักหรือเปล่า  ใครรู้จักยกมือขึ้นด้วย  ยุทธศาสตร์สองขา  ขาหนึ่งตอนนี้ยุทธศาสตร์เรา  สุเทพ  เทือกสุบรรณ ลอกเอาไปใช้  แต่ลอกเอาไปใช้แล้วบังอาจทำเกินเลยอย่างยิ่ง  เดี๋ยวเราพูดกัน!!!   ยุทธศาสตร์สองขา  ขาหนึ่งคือเดินอยู่ในรัฐสภาซึ่งได้แก่ ส.ส. ที่นั่งเหล่านี้  ปรบมือให้ด้วยค่ะ  นี่คือขาในรัฐสภาที่เป็นขาของประชาชน  อีกขาหนึ่งก็คือพี่น้องประชาชน นปช. คนเสื้อแดง ปรบมือให้กับพวกเราด้วย  จะถามพี่น้องตรงนี้ว่ายุทธศาสตร์สองขาเดินไปด้วยกันระหว่างพี่น้องคนเสื้อแดงเป็นมวลชนเคลื่อนไหวนอกรัฐสภา  กับการต่อสู้ภายในรัฐสภา  พี่น้องว่ายังเดินไปด้วยกันใช้ได้หรือเปล่า?  ใครบอกใช้ได้โห่  ยกมือหน่อย (พี่น้องพร้อมใจกันโห่และยกมือ)  ขอบคุณมาก  เป็นฉันทามติ

เพราะฉะนั้นตราบเท่าที่พรรคเพื่อไทยและส.ส.ทั้งหลายเหล่านี้เป็นส.ส.ของประชาชน  ทำทุกอย่างโดยฟังเสียงมวลชน  เป็นพรรคของมวลชน  และทำเพื่อผลประโยชน์ประชาชน  เราก็จะเดินด้วยได้ตลอดไปใช่หรือเปล่า (มวลชนพร้อมกันตอบว่า “ใช่”) นั่นคือในเรื่องของโรงเรียนวันนี้  ก็เลยหยิบยกมาเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ในวันนี้  คุณหนูหริ่ง (บก.ลายจุด) เขาไปเคลื่อนไหวเพราะตอนนั้นเขาคิดว่าเกมของพ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะนานกว่านี้  เขาก็คิดว่าจะไปรวบรวมคนที่ไม่เห็นด้วยกับ “สุดซอย” ให้มากสักหน่อย  ก็ตั้งตัวเลขไว้ว่าหมื่นขึ้น  ปรากฏว่าวันนี้คนไปราชประสงค์มืดฟ้ามัวดินเลยพี่น้อง  นักเรียนในโรงเรียน นปช. ลงทะเบียนเรียนทั้งหมดประมาณสามพันคน  เรียนตั้งแต่เช้าจนเลิกแล้วก็มาต่อที่นี่ค่ะ  และเป็นโรงเรียนเข้มข้น  เนื้อหาตามเหตุการณ์ 

และวันนี้ถามว่าทำไมเราต้องมาที่นี่?  เพราะว่าลำพัง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม  แม้ว่าจะมีเรื่องราวที่มันผ่านมาเป็นเรื่องราวของความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน  แต่ว่าในที่สุดรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลก็ได้ถอนและทำปฏิญญาร่วมกันเพื่อที่จะดับไฟที่พรรคประชาธิปัตย์และเครือข่ายอำมาตย์ นำโดยสุเทพ  เทือกสุบรรณ  ไม่ยอมเลิก  หมายความว่าอะไร?  หมายความว่าเหมือนที่คุณนิสิตได้พูดว่า  เป้าเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นเป้าแรก  ปรากฏว่าเป็นเป้าที่ได้ผล  ดึงคนมามาก  จากนั้นจึงเดินมาสู่เป้าจริง  เป้าจริงก็คือต้องการล้มรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย  และนอกจากล้มรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตยแล้ว  ต้องการล้มระบอบประชาธิปไตยด้วย  พี่น้องยอมไหม?  (มวลชนตอบว่า “ไม่ยอม”)

กว่าจะมาถึงชัยชนะวันนี้  เราแลกด้วยศพ  แลกด้วยชีวิต  เลือดเนื้อ  หยาดน้ำตา  อิสรภาพ  พี่น้องเรายังอยู่ในห้องขัง  พี่น้องบางส่วนต้องหลบหนีอยู่  พี่น้องบางส่วนถูกตัดสินคดี 20-30 กว่าปี  ทั้งหมดนี้แลกมาได้ชัยชนะเพียงเล็กน้อย  นั่นก็คือเราสามารถมีอำนาจนิติบัญญัติที่มาจากประชาชน  และมีอำนาจบริหารที่มาจากประชาชน  แต่ปรากฏว่ามันก็คืออยู่ในยิ่งกว่ากรงเล็บของเสือและปากเสือ  เพราะฉะนั้นดังที่เราเห็นแล้ววันนี้ว่า  กลุ่มคนเหล่านี้จะไม่ยอมเลิก  ลำพอใจว่ามีคนมามาก  ไปเอามากระทั่งนักเรียนอนุบาล  เอานักเรียนอนุบาลมาด่าพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ และนายกฯ ยิ่งลักษณ์  ถามว่ามันทุเรศไหม?  นี่หรือคนดี?  นี่หรือที่บอกว่าตัวเองเป็นคนวิเศษ  ล้ำเลิศ  อย่าให้ขุดมาเลย...เดี๋ยวให้ผู้ที่พูดต่อไปขุดออกมาก็ได้ว่าความเลวของคนที่บอกว่าตัวเองเป็นเทพโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์นั้น  มันเลวจนอาจารย์ธิดาไม่รู้จะบรรยายอย่างไร?  แต่เขาเรียกตัวเองเป็นคนดี  และเขาเรียกพวกเราเป็นไอ้พวกโง่ เป็นพวกควาย เป็นพวกถูกซื้อด้วยเงิน พวกเขาเป็นคนดี เอาเด็กเล็ก ๆ และรวมกระทั่งนักเรียนมัธยม นี่คือวิธีการของพวกล้าหลัง  ก็คือสามารถที่จะหลอกเด็กขึ้นมาปราศรัยด่าผู้อย่างอย่างที่ไม่รู้เรื่อง  คนดีแบบนี้เป็นคนดีชนิดไหน?

พี่น้อง!!!  ประเทศนี้เขาไม่สามารถที่จะเอาชนะประชาชนได้  เพราะฉะนั้นพี่น้อง  อยากจะบอกสั้น ๆ ว่านับจาก 2475 มาจนถึงปัจจุบัน  หลายคนคิดว่ามันเป็นเวลาแห่งความสนุข  เราได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง  เราได้ ส.ส. จำนวนมากในรัฐสภา  แต่ว่าสงครามระหว่างหลังระบอบอำมาตย์  ซึ่งเป็นพลังอนุรักษ์นิยมที่ครอบงำสังคมไทย  กับพลังประชาธิปไตยและคนรุ่นใหม่นั้น  เป็นสงครามที่ยาวนาน  พยายามผลัดกันรุก  ผลัดกันถอย  และนับจาก 2544 ที่พรรคไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาล  มันก็เข้าสู่สงครามครั้งใหม่ระหว่างระบอบอำมาตย์กับพลังฝ่ายประชาธิปไตย  และมาถึงตอนนี้  ถ้าเราไม่ประมาทเราจะมองเห็นว่า  เขารอคอยในการที่จะจัดการกับรัฐบาลนี้  และนอกจากจะจัดการกับรัฐบาลนี้แล้ว  ต้องการที่จะทำให้ประเทศไทยถอยหลังโดยมีระบอบอำมาตย์ยังเป็นใหญ่อยู่คู่แผ่นดินไทยต่อไป  นี่คือเป้าหมายเขา!!!

วาทกรรมของเขาลอกแบบจากเป้าหมายยุทธศาสตร์ของเรา  เป้าหมายยุทธศาสตร์ของเราก็คือโค่นล้มระบอบอำมาตย์  เราพูดในโรงเรียน นปช. วาทกรรมของเขามันก็ลอกแบบ  ใช้คำว่าโค่นล้มระบอบทักษิณ  เราใช้ยุทธศาสตร์สองขา  ประชาธิปัตย์มันก็ลอกบ้าง  มันก็ทำสองขาบ้าง  นี่เป็นความพยายามลอกเลียนในสิ่งที่ทำสำเร็จ  แต่ว่าสิ่งสุดท้ายก็คือ  คุณทำเพื่ออะไร?  และพรรคเพื่อไทย-นปช.-คนเสื้อแดง ซึ่งเป็นพลังประชาธิปไตยทำเพื่ออะไร?  จุดนี้จะตัดสินชี้ขาดว่าใครจะชนะ!!!  ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตรของเขาซึ่งทำม็อบอยู่ 2-3 ม็อบ  และรวมทั้งเครือข่ายทั้งหมดนั้น  เป้าหมายของเขาก็คือทำให้กงล้อประวัติศาสตร์ย้อนหลังเป็นระบอบอำมาตย์โดยสมบูรณ์  เพื่อจัดการไม่ให้คุณทักษิณได้กลับมา  ไม่ให้คุณทักษิณและพรรคไทยรักไทยได้มีโอกาสมีอำนาจทางการเมืองการปกครองตลอด  และนี่เป็นความกลัวอย่างรุนแรงของระบอบอำมาตย์  ซึ่งขอให้คนในพรรคไทยรักไทยแต่เดิมและพรรคเพื่อไทยได้เข้าใจไว้ด้วยว่า  เขากลัวพวกเรา  จะว่าพวกเราก็ไม่เชิง  ความหมายที่จริงก็คือกลัวคุณทักษิณนั่นแหละ  เขาทั้งเกลียดและกลัวมาก!!!

เพราะฉะนั้น  การที่เราดำรงอยู่นั้นเราต้องเข้าใจว่านี่เป็นสงครามที่ยังไม่สิ้นสุด  ระหว่างระบอบอำมาตย์กับพลังประชาธิปไตย  ของเขาหมุนกงล้อประวัติศาสตร์ย้อนกลับ  ของเราหมุนไปข้างหน้า  แล้วในที่สุดฝ่ายไหนจะต้องได้รับชัยชนะ...พี่น้อง  พลังประชาธิปไตยและประชาชนเป็นใหญ่  มันต้องได้รับชัยชนะแน่นอน  แต่เรายากลำบาก  เพราะกลไกรัฐทั้งหลายอยู่ในมือเขาทั้งหมด  หลักประกันอย่างเดียวที่จะก้าวไปข้างหน้าได้ก็คือ  ประชาชนโดยเฉพาะคนเสื้อแดงต้องเข้มแข็ง  เติบใหญ่ทั้งปริมาณและคุณภาพ  นี่คือหลักประกันเดียวที่จะก้าวไปข้างหน้า!!!

ทำไมเราต้องมาวันนี้?  เพราะคนเหล่านี้ได้ใจที่มีม็อบจุดติด  จึงพยายามจะฉวยโอกาสนี้เดินไปสู่เป้าหมายของเขา  คือล้มรัฐบาลนี้และเปลี่ยนแปลงกติกาประเทศนี้ที่มันเป็นอำมาตย์อยู่แล้วให้มันเป็นอำมาตย์...อำมาตย์...อำมาตย์มากยิ่งขึ้นอีก  เมื่อเป็นเช่นนี้ถามว่าเรามีความขัดแย้งกันอยู่จำนวนหนึ่งในความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน  แต่อ.ธิดา  แน่นอนโดยหลักการเรารู้อยู่ว่าเราสนับสนุน พ.ร.บ.ของวรชัย  เหมะ  เพราะเราเข้าใจถึงความเกลียดชังและอำนาจที่เขาต้องการจัดการ  แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือหัวใจประชาชนคนเสื้อแดงที่เราเข้าใจว่าต้องการให้เอามันไปขึ้นศาล  จับมันเข้าคุก  ไม่สามารถนิรโทษกรรมให้มันได้  นี่คือหัวใจประชาชนที่เรารู้สึกได้  ที่เราร่วมต่อสู้มาด้วยกัน  เรารู้หัวใจของพี่น้อง  นั้นจึงเป็นวิธีคิดที่แตกต่างกัน  แต่อย่างไรก็ตาม....มันจบไปแล้ว  แต่เขาไม่ยอมจบ  เพราะมันได้ใจ  ในนี้คิดบัญชีไว้..พี่น้อง  จำเอาไว้เลยว่าอธิการคนไหนที่มันบังคับเอานักศึกษา  เอานิสิตมา  มหาวิทยาลัยไหนจดไว้ให้หมดเลยค่ะ  ศิลปินคนไหนที่มันขึ้นเวทีแล้วมันด่าอย่างไม่มีเหตุผล  คิดแตกต่างกันได้นะแต่ด่าอย่างไม่มีเหตุผล  จดบัญชีไว้เลยว่าศิลปินชื่ออะไรบ้าง  เราให้มันปรากฏตัวออกมาให้หมด  เดิมมันซ่อนตัวอยู่  แต่ว่าพอมีความรู้สึกว่าตัวเองชักจะมีพวกมากจะได้รับชัยชนะมันก็เลยออกมาจากหลังบ้าน  มาโผล่หน้าบ้านเป็นแถวเลยค่ะพวกนี้  ข้อดีก็คือเราจะได้เห็นมันหมดว่ามีใครออกมาบ้าง  และในที่สุดในข้อดีนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือ  ทำให้พี่น้องเสื้อแดงทั้งหมดซึ่งมีความคิดแตกต่างกันจะได้สำนึกว่า  กลุ่มคนที่มันเป็นศัตรูของประชาชน  กลุ่มคนที่เป็นปฏิปักษ์ในการที่จะทำให้ประเทศนี้ก้าวไปข้างหน้า  กลุ่มคนที่ไม่ยอมคืนอำนาจให้กับประชาชน  มันได้แสดงตัวออกมาให้หมดเลย  นี้คือข้อดี  ประเมินกำลังกันเลย...และประลองกำลังกันก็ได้  นี่ไม่ใช่การท้าทาย  และเราไม่ต้องการที่จะทำให้เกิดกรณีที่เรียกว่า “ม็อบชนม็อบ”  แต่เราขอให้พวกท่านแสดงตัวแล้วเราก็จะแสดงตัวบ้างจะเป็นไรไป  ถ้าเป็นไปตามที่เรามีข่าวว่าเขาจะเคลื่อนไปที่ทำเนียบรัฐบาล  คนเหล่านี้จะทำเช่นนี้ตลอด  และสิ่งที่เขาจะทำต่อมาก็คือการใช้กลไกกองทัพ  กลไกองค์กรอิสระ  ศาลรัฐธรรมนูญลงดาบอีกครั้งหลังจากมวลชนอาละวาดจนเป็นที่พอใจแล้ว

นี่คือโมเดล!!!  ที่แล้วมาสนธิ  ลิ้มทองกุลนั้นใช้โมเดลของมาลากันยัง  ก็คือที่ฟิลิปปินส์ที่มีมวลชนไปบุกทำเนียบแล้วประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ต้องยอมแพ้  เขาจึงเอาโมเดลของฟิลิปปินส์มาใช้ในประเทศไทย  เมื่อไม่ได้ผลก็เลยเป็นโมเดลของพันธมิตรจึงยึดสนามบินเลย  นั้นรอบที่แล้ว  ในโลกนี้ไม่มีการประท้วงที่ไหนในโลกที่เลวทรามต่ำช้า  ไปยึดสนามบิน  มีประเทศไทยนี่แหละประเทศเดียว  แต่นั้นก็ยังลืมรัฐบาลไม่ได้  แต่ว่ามันกลายเป็นความชอบธรรมของระบบตุลาการที่จะตัดสินตามสถานการณ์การเมือง

เพราะฉะนั้นเรามา ณ ที่นี้เพื่อแสดงตัวให้เห็นว่า  ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยที่จะมีการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง  และประชาชนที่ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการลืมระบอบประชาธิปไตย  พร้อมเป็นกองหน้าสู้ตายนั้นมีจำนวนมากเพียงไร  แสดงตัวให้รู้  ไม่ได้อยู่หลังตู้เย็น  นี่คือคุณอนันต์ของพวกเรา  เพราะคนเสื้อแดงวันนี้กับสมาชิกพรรคไทยรักไทยเมื่อประมาณ 9 ปีมาแล้วไม่เหมือนกันเสียแล้ว  ณ บัดนี้ คนเสื้อแดงโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเสื้อแดงที่เป็นสมาชิก นปช. ล้วนมีวุฒิภาวะ  มีการตัดสินใจเองได้  มีความกล้าหาญ  มีความเสียสละ  พร้อมจะเป็นกองหน้าบุกออกมาเพื่อที่จะไม่ให้มีการล้มรัฐบาลนี้  หรือล้มประชาธิปไตย  นี่คือเหตุผลที่เราต้องมา  อาจจะบอกว่ามาเพื่อพิทักษ์รัฐบาล  มันก็ถูกส่วนหนึ่ง  เพราะรัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้ง  ไม่ได้มาจากค่ายทาหร  เราก็สามารถพิทักษ์ได้  เขาเป็นรัฐบาลที่มาชอบธรรม

เพราะฉะนั้น  ในสงครามยาวนานมาตั้งแต่ 2475 และในสงครามครั้งสุดท้ายที่เริ่มต้นตั้งแต่ 2544  มาจนถึงบัดนี้  มันเป็นสงครามยาวนาน  มีรบ  มีพักรบบ้าง  พักรบไปได้ปีกว่าเพื่อเป็นรัฐบาล  แต่ว่าเนื่องจากให้เราเข้าใจว่าสถานการณ์ของเรายังเป็นสถานการณ์สงครามต่อเนื่อง  มีการหยุด  มีการพักรบ  มีการเจรจา  และมีการต่อสู้ใหม่  ได้พูดในโรงเรียนว่า ในทางยุทธศาสตร์นั้นการต่อสู้และเราได้รับชัยชนะ  เรามีส.ส.จำนวนมาก  เรามีรัฐบาล  เรามีสองอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งประชาชน  เป็นชัยชนะที่ทำให้ระบอบอำมาตย์ถูกรุกถอยร่น  แต่มันไม่แพ้ชนะขาดลอย  เขาเรียกว่าอยู่ในขั้นยัน  เรายันกันอยู่  นี่มันต้องสู้ไม่เผลอ  กระพริบตาไม่ได้  พลาดมันทิ่มเอาทันที  และเมื่อครั้งนี้เขาทองว่าเราเพลี่ยงพล้ำ  เขาเลยระดมกำลังเพื่อรุกเรา  เปลี่ยนจากรับเป็นรุกเพื่อให้ขั้นตอนยุทธศาสตร์สงครามขั้นยันนั้นให้เราจะต้องล้มไป  ถามว่าชัยชนะจากเลือดเนื้อประชาชนจนมาสู่สงครามขั้นยัน  ความหมายก็คือกำลังก้ำกึ่งกัน  เราจะยอมแพ้ปล่อยให้เขารุกเดินหน้า ถอยร่น ยอมหรือเปล่าพี่น้อง (มวลชนตอบว่า “ไม่ยอม”)  ถ้าเรายอมก็แปลว่าการตายของพี่น้องเราทั้งหมดเป็นการตายที่สูญเหล่า  นี่คือเหตุผลที่เราต้องมาที่นี่!!!

บางคนเขาก็บอกว่า  เอ๊ะ...นปช.กับเพื่อไทยทำไมตบจูบ...ตบจูบ  ฟังดูเหมือนละคร  แต่ที่จริงของจริงนะ  แต่ไม่เป็นไรเพราะนั่นเป็นเรื่องรอง  เพราะขณะนี้ทุกคนต้องเข้าใจว่าเรากำลังอยู่ในสนามการต่อสู้ซึ่งกำลังก้ำกึ่งกัน  เพราะฉะนั้นถ้าเพลี่ยงพล้ำเราก็จะต้องถูกรุกให้ถอย  และเมื่อเราตั้งหลักได้เราก็ต้องรวมกำลังกันเพื่อมายันไม่ให้เขาสามารถรุกเราไปได้  ประชาชนต้องรุกไปข้างหน้าเพื่อให้ระบอบอำมาตย์ถอยจึงจะแน่นอน  ให้พี่น้องเข้าใจว่า  ที่เรามาร่วมกันวันนี้ด้วยเหตุผลที่ว่า  พลังประชาธิปไตยต้องสามัคคีกัน  เพื่อที่จะไม่ให้พลังล้าหลัง  พลังอนุรักษ์นิยมเป็นฝ่ายกระทำ  ทำให้ชัยชนะของประชาชนที่มาด้วยเลือดและหยาดน้ำตาจำเป็นที่จะต้องถอย  ยอมถอยไหม? (มวลชนตอบว่า “ไม่ยอม”)  ดังนั้น  นับจากวันนี้  นี่คือสัญญาณการต่อสู้ยกใหม่  พร้อม...ไม่พร้อม (มวลชนตอบว่า “พร้อม”) และขอให้อยู่ในใจเราว่า  ตราบเท่าที่เรายังไม่ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง  สงครามระหว่างระบอบอำมาตย์กับระบอบประชาธิปไตย  พลังประชาธิปไตยต้องมีอยู่เสมอ  อย่าเผลอทำให้เขารุกได้  และเมื่อเรารู้ตัวแล้ว  สามัคคีกันเดินไปข้างหน้าเพื่อไม่ให้การตายของวีรชนของเราสูญเปล่า....ขอบคุณค่ะ.