ถอดคำปราศรัยของ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน
เวที “นปช. เพื่อคนไทย ปกป้องประชาธิปไตย”
ณ ลานสนามฟุตบอล SCG เมืองทองธานี
วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2556
ขอบคุณค่ะพี่น้อง สถานการณืประเทศไทยมันเปลี่ยนไวจริง ๆ เลยนะคะ ก่อนอื่นที่พูด ๆ ทั้งหมด สงสัยบนเวทีนี้มีอยู่คน ๆ เดียวไม่ใช่สมาชิกพรรคเพื่อไทย แต่อาจจะเป็นเจ้าของเวทีนี้และขอเป็นเจ้าภาพแทนพี่น้องเสื้อแดงทั้งหมดต้อนรับสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคนค่ะ
พี่น้องคงจะโห่ร้องกันจนเหนื่อย แต่ว่าเมื่อมาถึงเวทีนี้ มองไปข้างหลังเวที นปช. มันเปลี่ยนไว เมื่อสองวันก่อนก็ยังเป็น “นปช. เพื่อไทย ปกป้องรัฐบาล” แต่วันนี้เป็น “นปช. เพื่อคนไทย ปกป้องประชาธิปไตย” ปรบมือให้กับผู้ทำป้ายนี้ด้วย ผู้ทำป้ายนี้ขอให้ได้รับการคารวะจากเรา เพราะนี่คือวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้าของความสามัคคีระหว่าง นปช. พรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงทั่วโลกเลยค่ะ มันต้องได้อย่างนี้มันถึงจะเดินไปได้ไกลสุดหล้าฟ้าเขียวเลยค่ะ
พี่น้อง วันนี้เรามีกิจกรรม 3 อย่าง เป็นกิจกรรมที่มิได้นัดหมาย กิจกรรมแรกก็คือโรงเรียนนปช. เป็นกิจกรรมที่นิดเอาไว้ล่วงหน้า ถ้าพี่น้อง ณ ที่ประชุมแห่งนี้ยังไม่ได้รับฟัง อ.ธิดา ขอให้ไปตรวจสอบรับฟังโดยดูย้อนหลัง ก็ขอรบกวนเอเชียอัพเดทและ P&P Channel ให้ได้เป็นรีรัน หรือมิฉะนั้นพี่น้องเข้าไปดูเวปไซด์ นปช. ซึ่งเป็นเวปไซด์เล็ก ๆ เพิ่งทำแต่มีคนเข้าดูเป็นล้านคนแล้วค่ะ พี่น้องไปเปิดดูย้อนหลัง วันนี้เป็นโรงเรียนที่ปรับให้เข้ากับสถานการณ์ เช่น เราถามนักเรียนว่า ยุทธศาสตร์สองขายังใช้ได้หรือเปล่า เราจะถามที่นี่เป็นโรงเรียนเล็ก ๆ ชั่วคราว ยุทธศาสตร์สองขาพี่น้องรู้จักหรือเปล่า ใครรู้จักยกมือขึ้นด้วย ยุทธศาสตร์สองขา ขาหนึ่งตอนนี้ยุทธศาสตร์เรา สุเทพ เทือกสุบรรณ ลอกเอาไปใช้ แต่ลอกเอาไปใช้แล้วบังอาจทำเกินเลยอย่างยิ่ง เดี๋ยวเราพูดกัน!!! ยุทธศาสตร์สองขา ขาหนึ่งคือเดินอยู่ในรัฐสภาซึ่งได้แก่ ส.ส. ที่นั่งเหล่านี้ ปรบมือให้ด้วยค่ะ นี่คือขาในรัฐสภาที่เป็นขาของประชาชน อีกขาหนึ่งก็คือพี่น้องประชาชน นปช. คนเสื้อแดง ปรบมือให้กับพวกเราด้วย จะถามพี่น้องตรงนี้ว่ายุทธศาสตร์สองขาเดินไปด้วยกันระหว่างพี่น้องคนเสื้อแดงเป็นมวลชนเคลื่อนไหวนอกรัฐสภา กับการต่อสู้ภายในรัฐสภา พี่น้องว่ายังเดินไปด้วยกันใช้ได้หรือเปล่า? ใครบอกใช้ได้โห่ ยกมือหน่อย (พี่น้องพร้อมใจกันโห่และยกมือ) ขอบคุณมาก เป็นฉันทามติ
เพราะฉะนั้นตราบเท่าที่พรรคเพื่อไทยและส.ส.ทั้งหลายเหล่านี้เป็นส.ส.ของประชาชน ทำทุกอย่างโดยฟังเสียงมวลชน เป็นพรรคของมวลชน และทำเพื่อผลประโยชน์ประชาชน เราก็จะเดินด้วยได้ตลอดไปใช่หรือเปล่า (มวลชนพร้อมกันตอบว่า “ใช่”) นั่นคือในเรื่องของโรงเรียนวันนี้ ก็เลยหยิบยกมาเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ในวันนี้ คุณหนูหริ่ง (บก.ลายจุด) เขาไปเคลื่อนไหวเพราะตอนนั้นเขาคิดว่าเกมของพ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะนานกว่านี้ เขาก็คิดว่าจะไปรวบรวมคนที่ไม่เห็นด้วยกับ “สุดซอย” ให้มากสักหน่อย ก็ตั้งตัวเลขไว้ว่าหมื่นขึ้น ปรากฏว่าวันนี้คนไปราชประสงค์มืดฟ้ามัวดินเลยพี่น้อง นักเรียนในโรงเรียน นปช. ลงทะเบียนเรียนทั้งหมดประมาณสามพันคน เรียนตั้งแต่เช้าจนเลิกแล้วก็มาต่อที่นี่ค่ะ และเป็นโรงเรียนเข้มข้น เนื้อหาตามเหตุการณ์
และวันนี้ถามว่าทำไมเราต้องมาที่นี่? เพราะว่าลำพัง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แม้ว่าจะมีเรื่องราวที่มันผ่านมาเป็นเรื่องราวของความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน แต่ว่าในที่สุดรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลก็ได้ถอนและทำปฏิญญาร่วมกันเพื่อที่จะดับไฟที่พรรคประชาธิปัตย์และเครือข่ายอำมาตย์ นำโดยสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ยอมเลิก หมายความว่าอะไร? หมายความว่าเหมือนที่คุณนิสิตได้พูดว่า เป้าเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นเป้าแรก ปรากฏว่าเป็นเป้าที่ได้ผล ดึงคนมามาก จากนั้นจึงเดินมาสู่เป้าจริง เป้าจริงก็คือต้องการล้มรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย และนอกจากล้มรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตยแล้ว ต้องการล้มระบอบประชาธิปไตยด้วย พี่น้องยอมไหม? (มวลชนตอบว่า “ไม่ยอม”)
กว่าจะมาถึงชัยชนะวันนี้ เราแลกด้วยศพ แลกด้วยชีวิต เลือดเนื้อ หยาดน้ำตา อิสรภาพ พี่น้องเรายังอยู่ในห้องขัง พี่น้องบางส่วนต้องหลบหนีอยู่ พี่น้องบางส่วนถูกตัดสินคดี 20-30 กว่าปี ทั้งหมดนี้แลกมาได้ชัยชนะเพียงเล็กน้อย นั่นก็คือเราสามารถมีอำนาจนิติบัญญัติที่มาจากประชาชน และมีอำนาจบริหารที่มาจากประชาชน แต่ปรากฏว่ามันก็คืออยู่ในยิ่งกว่ากรงเล็บของเสือและปากเสือ เพราะฉะนั้นดังที่เราเห็นแล้ววันนี้ว่า กลุ่มคนเหล่านี้จะไม่ยอมเลิก ลำพอใจว่ามีคนมามาก ไปเอามากระทั่งนักเรียนอนุบาล เอานักเรียนอนุบาลมาด่าพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ และนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ถามว่ามันทุเรศไหม? นี่หรือคนดี? นี่หรือที่บอกว่าตัวเองเป็นคนวิเศษ ล้ำเลิศ อย่าให้ขุดมาเลย...เดี๋ยวให้ผู้ที่พูดต่อไปขุดออกมาก็ได้ว่าความเลวของคนที่บอกว่าตัวเองเป็นเทพโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์นั้น มันเลวจนอาจารย์ธิดาไม่รู้จะบรรยายอย่างไร? แต่เขาเรียกตัวเองเป็นคนดี และเขาเรียกพวกเราเป็นไอ้พวกโง่ เป็นพวกควาย เป็นพวกถูกซื้อด้วยเงิน พวกเขาเป็นคนดี เอาเด็กเล็ก ๆ และรวมกระทั่งนักเรียนมัธยม นี่คือวิธีการของพวกล้าหลัง ก็คือสามารถที่จะหลอกเด็กขึ้นมาปราศรัยด่าผู้อย่างอย่างที่ไม่รู้เรื่อง คนดีแบบนี้เป็นคนดีชนิดไหน?
พี่น้อง!!! ประเทศนี้เขาไม่สามารถที่จะเอาชนะประชาชนได้ เพราะฉะนั้นพี่น้อง อยากจะบอกสั้น ๆ ว่านับจาก 2475 มาจนถึงปัจจุบัน หลายคนคิดว่ามันเป็นเวลาแห่งความสนุข เราได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เราได้ ส.ส. จำนวนมากในรัฐสภา แต่ว่าสงครามระหว่างหลังระบอบอำมาตย์ ซึ่งเป็นพลังอนุรักษ์นิยมที่ครอบงำสังคมไทย กับพลังประชาธิปไตยและคนรุ่นใหม่นั้น เป็นสงครามที่ยาวนาน พยายามผลัดกันรุก ผลัดกันถอย และนับจาก 2544 ที่พรรคไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาล มันก็เข้าสู่สงครามครั้งใหม่ระหว่างระบอบอำมาตย์กับพลังฝ่ายประชาธิปไตย และมาถึงตอนนี้ ถ้าเราไม่ประมาทเราจะมองเห็นว่า เขารอคอยในการที่จะจัดการกับรัฐบาลนี้ และนอกจากจะจัดการกับรัฐบาลนี้แล้ว ต้องการที่จะทำให้ประเทศไทยถอยหลังโดยมีระบอบอำมาตย์ยังเป็นใหญ่อยู่คู่แผ่นดินไทยต่อไป นี่คือเป้าหมายเขา!!!
วาทกรรมของเขาลอกแบบจากเป้าหมายยุทธศาสตร์ของเรา เป้าหมายยุทธศาสตร์ของเราก็คือโค่นล้มระบอบอำมาตย์ เราพูดในโรงเรียน นปช. วาทกรรมของเขามันก็ลอกแบบ ใช้คำว่าโค่นล้มระบอบทักษิณ เราใช้ยุทธศาสตร์สองขา ประชาธิปัตย์มันก็ลอกบ้าง มันก็ทำสองขาบ้าง นี่เป็นความพยายามลอกเลียนในสิ่งที่ทำสำเร็จ แต่ว่าสิ่งสุดท้ายก็คือ คุณทำเพื่ออะไร? และพรรคเพื่อไทย-นปช.-คนเสื้อแดง ซึ่งเป็นพลังประชาธิปไตยทำเพื่ออะไร? จุดนี้จะตัดสินชี้ขาดว่าใครจะชนะ!!! ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตรของเขาซึ่งทำม็อบอยู่ 2-3 ม็อบ และรวมทั้งเครือข่ายทั้งหมดนั้น เป้าหมายของเขาก็คือทำให้กงล้อประวัติศาสตร์ย้อนหลังเป็นระบอบอำมาตย์โดยสมบูรณ์ เพื่อจัดการไม่ให้คุณทักษิณได้กลับมา ไม่ให้คุณทักษิณและพรรคไทยรักไทยได้มีโอกาสมีอำนาจทางการเมืองการปกครองตลอด และนี่เป็นความกลัวอย่างรุนแรงของระบอบอำมาตย์ ซึ่งขอให้คนในพรรคไทยรักไทยแต่เดิมและพรรคเพื่อไทยได้เข้าใจไว้ด้วยว่า เขากลัวพวกเรา จะว่าพวกเราก็ไม่เชิง ความหมายที่จริงก็คือกลัวคุณทักษิณนั่นแหละ เขาทั้งเกลียดและกลัวมาก!!!
เพราะฉะนั้น การที่เราดำรงอยู่นั้นเราต้องเข้าใจว่านี่เป็นสงครามที่ยังไม่สิ้นสุด ระหว่างระบอบอำมาตย์กับพลังประชาธิปไตย ของเขาหมุนกงล้อประวัติศาสตร์ย้อนกลับ ของเราหมุนไปข้างหน้า แล้วในที่สุดฝ่ายไหนจะต้องได้รับชัยชนะ...พี่น้อง พลังประชาธิปไตยและประชาชนเป็นใหญ่ มันต้องได้รับชัยชนะแน่นอน แต่เรายากลำบาก เพราะกลไกรัฐทั้งหลายอยู่ในมือเขาทั้งหมด หลักประกันอย่างเดียวที่จะก้าวไปข้างหน้าได้ก็คือ ประชาชนโดยเฉพาะคนเสื้อแดงต้องเข้มแข็ง เติบใหญ่ทั้งปริมาณและคุณภาพ นี่คือหลักประกันเดียวที่จะก้าวไปข้างหน้า!!!
ทำไมเราต้องมาวันนี้? เพราะคนเหล่านี้ได้ใจที่มีม็อบจุดติด จึงพยายามจะฉวยโอกาสนี้เดินไปสู่เป้าหมายของเขา คือล้มรัฐบาลนี้และเปลี่ยนแปลงกติกาประเทศนี้ที่มันเป็นอำมาตย์อยู่แล้วให้มันเป็นอำมาตย์...อำมาตย์...อำมาตย์มากยิ่งขึ้นอีก เมื่อเป็นเช่นนี้ถามว่าเรามีความขัดแย้งกันอยู่จำนวนหนึ่งในความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน แต่อ.ธิดา แน่นอนโดยหลักการเรารู้อยู่ว่าเราสนับสนุน พ.ร.บ.ของวรชัย เหมะ เพราะเราเข้าใจถึงความเกลียดชังและอำนาจที่เขาต้องการจัดการ แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือหัวใจประชาชนคนเสื้อแดงที่เราเข้าใจว่าต้องการให้เอามันไปขึ้นศาล จับมันเข้าคุก ไม่สามารถนิรโทษกรรมให้มันได้ นี่คือหัวใจประชาชนที่เรารู้สึกได้ ที่เราร่วมต่อสู้มาด้วยกัน เรารู้หัวใจของพี่น้อง นั้นจึงเป็นวิธีคิดที่แตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม....มันจบไปแล้ว แต่เขาไม่ยอมจบ เพราะมันได้ใจ ในนี้คิดบัญชีไว้..พี่น้อง จำเอาไว้เลยว่าอธิการคนไหนที่มันบังคับเอานักศึกษา เอานิสิตมา มหาวิทยาลัยไหนจดไว้ให้หมดเลยค่ะ ศิลปินคนไหนที่มันขึ้นเวทีแล้วมันด่าอย่างไม่มีเหตุผล คิดแตกต่างกันได้นะแต่ด่าอย่างไม่มีเหตุผล จดบัญชีไว้เลยว่าศิลปินชื่ออะไรบ้าง เราให้มันปรากฏตัวออกมาให้หมด เดิมมันซ่อนตัวอยู่ แต่ว่าพอมีความรู้สึกว่าตัวเองชักจะมีพวกมากจะได้รับชัยชนะมันก็เลยออกมาจากหลังบ้าน มาโผล่หน้าบ้านเป็นแถวเลยค่ะพวกนี้ ข้อดีก็คือเราจะได้เห็นมันหมดว่ามีใครออกมาบ้าง และในที่สุดในข้อดีนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือ ทำให้พี่น้องเสื้อแดงทั้งหมดซึ่งมีความคิดแตกต่างกันจะได้สำนึกว่า กลุ่มคนที่มันเป็นศัตรูของประชาชน กลุ่มคนที่เป็นปฏิปักษ์ในการที่จะทำให้ประเทศนี้ก้าวไปข้างหน้า กลุ่มคนที่ไม่ยอมคืนอำนาจให้กับประชาชน มันได้แสดงตัวออกมาให้หมดเลย นี้คือข้อดี ประเมินกำลังกันเลย...และประลองกำลังกันก็ได้ นี่ไม่ใช่การท้าทาย และเราไม่ต้องการที่จะทำให้เกิดกรณีที่เรียกว่า “ม็อบชนม็อบ” แต่เราขอให้พวกท่านแสดงตัวแล้วเราก็จะแสดงตัวบ้างจะเป็นไรไป ถ้าเป็นไปตามที่เรามีข่าวว่าเขาจะเคลื่อนไปที่ทำเนียบรัฐบาล คนเหล่านี้จะทำเช่นนี้ตลอด และสิ่งที่เขาจะทำต่อมาก็คือการใช้กลไกกองทัพ กลไกองค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญลงดาบอีกครั้งหลังจากมวลชนอาละวาดจนเป็นที่พอใจแล้ว
นี่คือโมเดล!!! ที่แล้วมาสนธิ ลิ้มทองกุลนั้นใช้โมเดลของมาลากันยัง ก็คือที่ฟิลิปปินส์ที่มีมวลชนไปบุกทำเนียบแล้วประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ต้องยอมแพ้ เขาจึงเอาโมเดลของฟิลิปปินส์มาใช้ในประเทศไทย เมื่อไม่ได้ผลก็เลยเป็นโมเดลของพันธมิตรจึงยึดสนามบินเลย นั้นรอบที่แล้ว ในโลกนี้ไม่มีการประท้วงที่ไหนในโลกที่เลวทรามต่ำช้า ไปยึดสนามบิน มีประเทศไทยนี่แหละประเทศเดียว แต่นั้นก็ยังลืมรัฐบาลไม่ได้ แต่ว่ามันกลายเป็นความชอบธรรมของระบบตุลาการที่จะตัดสินตามสถานการณ์การเมือง
เพราะฉะนั้นเรามา ณ ที่นี้เพื่อแสดงตัวให้เห็นว่า ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยที่จะมีการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และประชาชนที่ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการลืมระบอบประชาธิปไตย พร้อมเป็นกองหน้าสู้ตายนั้นมีจำนวนมากเพียงไร แสดงตัวให้รู้ ไม่ได้อยู่หลังตู้เย็น นี่คือคุณอนันต์ของพวกเรา เพราะคนเสื้อแดงวันนี้กับสมาชิกพรรคไทยรักไทยเมื่อประมาณ 9 ปีมาแล้วไม่เหมือนกันเสียแล้ว ณ บัดนี้ คนเสื้อแดงโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเสื้อแดงที่เป็นสมาชิก นปช. ล้วนมีวุฒิภาวะ มีการตัดสินใจเองได้ มีความกล้าหาญ มีความเสียสละ พร้อมจะเป็นกองหน้าบุกออกมาเพื่อที่จะไม่ให้มีการล้มรัฐบาลนี้ หรือล้มประชาธิปไตย นี่คือเหตุผลที่เราต้องมา อาจจะบอกว่ามาเพื่อพิทักษ์รัฐบาล มันก็ถูกส่วนหนึ่ง เพราะรัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้มาจากค่ายทาหร เราก็สามารถพิทักษ์ได้ เขาเป็นรัฐบาลที่มาชอบธรรม
เพราะฉะนั้น ในสงครามยาวนานมาตั้งแต่ 2475 และในสงครามครั้งสุดท้ายที่เริ่มต้นตั้งแต่ 2544 มาจนถึงบัดนี้ มันเป็นสงครามยาวนาน มีรบ มีพักรบบ้าง พักรบไปได้ปีกว่าเพื่อเป็นรัฐบาล แต่ว่าเนื่องจากให้เราเข้าใจว่าสถานการณ์ของเรายังเป็นสถานการณ์สงครามต่อเนื่อง มีการหยุด มีการพักรบ มีการเจรจา และมีการต่อสู้ใหม่ ได้พูดในโรงเรียนว่า ในทางยุทธศาสตร์นั้นการต่อสู้และเราได้รับชัยชนะ เรามีส.ส.จำนวนมาก เรามีรัฐบาล เรามีสองอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งประชาชน เป็นชัยชนะที่ทำให้ระบอบอำมาตย์ถูกรุกถอยร่น แต่มันไม่แพ้ชนะขาดลอย เขาเรียกว่าอยู่ในขั้นยัน เรายันกันอยู่ นี่มันต้องสู้ไม่เผลอ กระพริบตาไม่ได้ พลาดมันทิ่มเอาทันที และเมื่อครั้งนี้เขาทองว่าเราเพลี่ยงพล้ำ เขาเลยระดมกำลังเพื่อรุกเรา เปลี่ยนจากรับเป็นรุกเพื่อให้ขั้นตอนยุทธศาสตร์สงครามขั้นยันนั้นให้เราจะต้องล้มไป ถามว่าชัยชนะจากเลือดเนื้อประชาชนจนมาสู่สงครามขั้นยัน ความหมายก็คือกำลังก้ำกึ่งกัน เราจะยอมแพ้ปล่อยให้เขารุกเดินหน้า ถอยร่น ยอมหรือเปล่าพี่น้อง (มวลชนตอบว่า “ไม่ยอม”) ถ้าเรายอมก็แปลว่าการตายของพี่น้องเราทั้งหมดเป็นการตายที่สูญเหล่า นี่คือเหตุผลที่เราต้องมาที่นี่!!!
บางคนเขาก็บอกว่า เอ๊ะ...นปช.กับเพื่อไทยทำไมตบจูบ...ตบจูบ ฟังดูเหมือนละคร แต่ที่จริงของจริงนะ แต่ไม่เป็นไรเพราะนั่นเป็นเรื่องรอง เพราะขณะนี้ทุกคนต้องเข้าใจว่าเรากำลังอยู่ในสนามการต่อสู้ซึ่งกำลังก้ำกึ่งกัน เพราะฉะนั้นถ้าเพลี่ยงพล้ำเราก็จะต้องถูกรุกให้ถอย และเมื่อเราตั้งหลักได้เราก็ต้องรวมกำลังกันเพื่อมายันไม่ให้เขาสามารถรุกเราไปได้ ประชาชนต้องรุกไปข้างหน้าเพื่อให้ระบอบอำมาตย์ถอยจึงจะแน่นอน ให้พี่น้องเข้าใจว่า ที่เรามาร่วมกันวันนี้ด้วยเหตุผลที่ว่า พลังประชาธิปไตยต้องสามัคคีกัน เพื่อที่จะไม่ให้พลังล้าหลัง พลังอนุรักษ์นิยมเป็นฝ่ายกระทำ ทำให้ชัยชนะของประชาชนที่มาด้วยเลือดและหยาดน้ำตาจำเป็นที่จะต้องถอย ยอมถอยไหม? (มวลชนตอบว่า “ไม่ยอม”) ดังนั้น นับจากวันนี้ นี่คือสัญญาณการต่อสู้ยกใหม่ พร้อม...ไม่พร้อม (มวลชนตอบว่า “พร้อม”) และขอให้อยู่ในใจเราว่า ตราบเท่าที่เรายังไม่ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง สงครามระหว่างระบอบอำมาตย์กับระบอบประชาธิปไตย พลังประชาธิปไตยต้องมีอยู่เสมอ อย่าเผลอทำให้เขารุกได้ และเมื่อเรารู้ตัวแล้ว สามัคคีกันเดินไปข้างหน้าเพื่อไม่ให้การตายของวีรชนของเราสูญเปล่า....ขอบคุณค่ะ.