ณัฐวุฒิจับตา"บ.เครือปชป."หยุด




นาย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์ว่า การประกาศอารยะขัดขืน 4 ข้อนั้น จะทำให้ประเทศเสียหาย ขอให้ประชาชนตั้งสติ และทำความเข้าใจว่าการนัดหยุดงานหรืองดการเสียภาษีนั้น ส่งผลเสียหายร้ายแรงต่อประเทศ กระทบต่อการเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว นักลงทุน และกระทบเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว ดังนั้น อยากให้สังคมจับตาว่าคนพวกนี้จริงใจต่อประชาชนมากน้อยแค่ไหน

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ความขัดแย้งการเมืองก็ว่ากันในสนามการเมือง อย่าให้ลุกลามมาก กว่านี้ แต่ตัวผู้ประกาศจะต้องชัดเจนโดยให้สังคมและสื่อมวลชนตรวจสอบว่ากิจการของคน ในเครือข่ายพรรคประชาธิปัตย์ มีการหยุดงานจริงตามที่ประกาศหรือไม่ เช่น กิจการ ศรีสุบรรณฟาร์มของนายสุเทพ กิจการของ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ กิจการในเครือของกลุ่มทุนที่มีลูกหลานเป็นสมาชิกพรรค และได้งดเว้นการเสียภาษีเหมือนที่ยุยงหรือไม่ ถ้าไม่เสียภาษี กรมสรรพากรต้องตรวจสอบไม่ให้เป็นแบบอย่าง
เย้ยเทือกออกแค่เล่ห์เหลี่ยม

นาย ณัฐวุฒิกล่าวด้วยว่า กรณีนายสุเทพนำ 8 ส.ส.ของพรรค ยื่นหนังสือลาออกว่า เจตนาไม่ได้แสดงความเสียสละหรือสปิริตในการต่อสู้ แต่เป็นการเล่นเล่ห์เหลี่ยมทางกฎหมาย ให้เกิดภาพที่แตกต่างระหว่างการขับเคลื่อนงานการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ กับการขับเคลื่อนการชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน ให้เห็นว่าการชุมนุมเป็นเรื่องของประชาชน และไม่ว่าจะเกิดอะไรหลังจากนี้การชุมนุมจะไม่เกี่ยวกับพรรค

"พูดได้ ว่าขณะนี้เป็นม็อบประชาธิปัตย์ แม้จะใส่ชุดเพื่อล่องหนก็ตาม เชื่อว่าหลังจากนี้คงพยายามยกระดับการชุมนุมอยู่ทุกวัน เยื้อจนถึงวันที่ 20 พ.ย.นี้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มา ส.ว. เป็นการล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68 หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลมั่นใจว่าการแก้ไขเป็นอำนาจของรัฐสภา และการให้ประชาชนเลือกตั้งส.ว.จึงไม่รู้ว่าจะเป็นการล้มล้างการปกครองได้ อย่างไร เชื่อมั่นว่าคำวินิจฉัยของศาลจะไม่กระทบต่อรัฐบาลและรัฐสภาเพราะเป็นไปไม่ ได้" นายณัฐวุฒิกล่าว

เมื่อถามว่าหากผลเป็นไปในทางลบกับรัฐบาลและ พรรคเพื่อไทยจะนำมวลชนออกมา ปกป้องหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า นึกไม่ออกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินทางลบได้อย่างไร รอให้เรื่องเกิดขึ้นก่อนค่อยมาว่ากันอีกที

ที่มา ข่าวสด