เวที "รัฐ ถูกประหาร โดยศาลรัฐธรรมนูญ " ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน 24 พ.ย.(ชมคลิป)


 


เมื่อวานนี้ 24 พ.ย. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เดินทางมาชุมนุม ภายใต้สโลแกน “รัฐถูกประหารโดยศาลรัฐธรรมนูญ” หลังจากประกาศว่า การชุมนุมครั้งนี้เป็นไปเพื่อปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดย บรรยากาศการชุมนุมว่า ในช่วงบ่ายผู้ชุมนุมได้ทยอยเดินทางมายังสนามราชมังคลาฯ โดยส่วนใหญ่จะเดินทางมาโดยรถบัสประจำทางจากภาคต่างๆ โดยการนำของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยผู้ชุมนุมเริ่มหนาตาในเวลา 18.00 น. มีกลุ่มผู้ชุมนุมหนาแน่นปานกลางที่บริเวณในสนามด้านล่างสุด และที่นั่งชั้นกลาง มีผู้ชุมนุมประปราย









เมื่อเวลา 18.00 น. อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. กล่าวว่า เชื่อว่าตั้งแต่ 21.00 (24 พ.ย.) จนถึงวันที่ 25 พ.ย.จะเต็มไปด้วยคนเสื้อแดง โดยการเริ่มต้นจะดำเนินต่อไปจนกว่าประชาธิปไตยจะคืนสู่ปกติ โดยแถลงการณ์ ณ วันที่ 24 พ.ย. ข้อ 1  ขอยืนยันว่าการเมืองการปกครองของประเทศไทย ต้องเป็นระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข เท่านั้น 2 ยืนยันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจแท้จริงของรัฐสภา 3 นปช. ยืนยันการต่อสู้สันติวิธีในฐานะพลังประชาธิปไตย เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย ไม่มีความรุยแรง ไม่มีการเผชิญหน้า และ 4 จะต่อต้านรัฐประหารทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารที่ไม่ใช่หลักนิติธรรม หรือ การรัฐประหารโดยกองทัพ เราจะต่อสู้ร่วมกันโดยไม่ให้มีรัฐประหารใดๆ ในแผ่นดิน 


 


นายจตุพร  พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ หลายคนเป็นห่วงว่า ระดมเร่งด่วนในวันเดียวจะมาได้กี่คน แต่ปัจจุบันเริ่มทยอยมาเรื่อยๆ และคาดว่าจะเต็มความจุอย่างแน่นอน วันนี้การประกาศระดมคนล้านคน และเสนอการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งแต่เป็นที่ชัดเจนว่า จำนวนคนหนึ่งล้านคนนั้นไม่เป็นความจริงตามที่ นายสุเทพ ประกาศแต่อย่างใด ข้อมูลเจ้าหน้าที่รวมกันทุกจุดแล้วดูเหมือนเป็นจำนวนมาก แต่เป็นการเดินไปมา ทำให้คนดูเหมือนเต็มพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่รายงานตัวเลขปัจจุบัน 5.9 หมื่นคนเท่านั้น ยังขาดอีกกว่า 9 แสนคน  เพราะฉะนั้น วันที่ 24 พ.ย. สถิติของสุเทพ ยังไม่สามารถทำลายสถิติของคนเสื้อแดงได้แต่อย่างใด ซึ่งประชาชนที่อึดอัดใจก็ขอให้มารวมกันได้ที่ราชมังคลาฯ ส่วนจะชุมนุมกี่วันนั้น หาก นายสุเทพ ยังไม่ผูกคอตายก็ยังไม่กลับเช่นเดียวกัน ซึ่งจากที่พิจารณาก็พบว่า กลุ่มคนที่ไปร่วมชุมนุมกันที่ราชดำเนิน ก็ล้วนแต่เป็นคนหน้าเก่าจากพันธมิตรที่เปิดประตูให้รัฐประหารทั้งสิ้น


“การทำงานของนายสุเทพและนายอภิสิทธิ์นั้นที่ประกาศว่าหากคนราชดำเนินไม่ปลอดภัยแม้แต่คนเดียวตระกูลชินวัตร จะต้องรับผิดชอบ และหากมีคนตายที่ราชดำเนิน ครอบครัวชินวัตร จะไม่มีแผ่นดินอยู่ แต่กลับกันที่ผ่านมาในการชุมนุมมีประชาชนเจ็บกว่า 2 พันคน ก็ยังมีคนลอยหน้าอยู่ที่ราชดำเนินได้ ขอประกาศว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ นั้นไม่สามารถชนะคนเสื้อแดง หรือ คนที่รักประชาธิปไตย และอยากทราบว่า ไม่มีใครมาเป็นแกนนำหรืออย่างไรจึงเอาฆาตรกรมาเป็นแกนนำ  จึงขอให้นายสุเทพ สั่งเสียครอบครัวไว้เพราะคงได้ผูกคอตาย และเชื่อว่าผ่านคืนนี้ไปคนราชดำเนินก็จะค่อยๆลดลง กลับกันกับคนเสื้อแดงที่จะเพิ่มขึ้นตลอดเวลา และขอให้ประชาชนไม่ต้องกลัววันที่กระสุนเป็นหมื่นนัดยังสู้มาแล้ว แต่ตอนนี้เหลือเพียงนกหวีดเท่านั้น” นายจตุพร กล่าว

 ด้าน นายสมบัติ บุญงามอนงค์ กลุ่มวันอาทิตย์สีแดง กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าแปลกใจเพราะว่าภาพจำของนายสุเทพ คือ ผอ.ศอฉ. ที่ทำให้ประชาชนล้มตายจากการขอคืนพื้นที่ ซึ่งนายสุเทพ ไม่สามารถลบภาพจำนั้นได้ และนกหวีดคงไม่สามารถทำให้ฆาตกรเป็นพระเอก และแปลกใจว่า คนที่ไปเป่านกหวีดนั้น คิดอะไรและสามารถเดินตามคนที่เป็นฆาตกรได้อย่างไร เพราะทั้งนายสุเทพ และอภิสิทธิ์ ไม่ใช่นักปฏิวัติประชาชน แต่เป็นฆาตกร และยังเป็นคนที่ทำให้ประชาชนต้องออกมาต่อแถวซื้อน้ำมันปาล์ม โดยนายสุเทพ ได้ปราศรัยว่า การชุมนุมเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งเรื่องดังกล่าวเข้าข่ายผิดกฎหมายมาตรา 68 รัฐธรรมนูญปี 2550 ในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดยเมื่อเทียบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ ส.ว. การกระทำของนายสุเทพ ยังเป็นกบฏและผิดต่อกฎหมายมากกว่า


 นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ แกนนำนปช. กล่าวว่า มวยไทยนั้นมี 12 ยก นปช.ผ่านประสบการณ์มามาก หากจะนับก็ถือว่าสู้มา 7 เจ็ดปีแล้ว มาครั้งนี้จะอยู่สัก 5-6 วันคงไม่เป็นอะไร โดยขณะนี้มีคนนำสติ๊กเกอร์ พิมพ์ข้อความที่ไม่สมควรมาแจก  ซึ่งขอให้ประชาชนฉีกทิ้งไปเพราะไม่ทราบว่าคนทำต้องการอะไร โดยในการชุมนุมครั้งนี้ เบื้องต้นหลายคนอาจมองว่าไม่สำคัญ ในวันนี้เป็นเพียงวันสุกดิบแต่จะกลายเป็นวันประวัติศาสตร์ในที่สุด ซึ่งการชุมนุมต้องการแสดงให้เห็นถึงแนวทางประชาธิปไตย ว่าหากคุณสามารถชุมนุมได้ เราก็สามารถชุมนุมได้และจะมีคนมามากกกว่า ถ้านายสุเทพ มีคนมาแปดหมื่นเราก็จะมีคนสองแสน ขอให้ฝ่ายนายสุเทพ ชุมนุมอย่างสงบก็จะปลอดภัย ซึ่งการชุมนุมนั้นถือเป็นการแสดงถึงประชาธิปไตยที่ต่างฝ่ายต่างสามารถทำได้

 “คนเสื้อแดงต้องการแสดงให้เห็นว่าคนที่ต้องการให้รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำงานต่อไปนั้นมีมากเพียงใด ซึ่งเชื่อว่าขณะนี้ยุทธวิธีที่นายสุเทพ เอามาใช้นั้นหมดหน้าตักแล้ว ผู้ชุมนุมก็จะค่อยๆน้อยลงเอง และขอให้หากจะแพ้ก็ขอให้แพ้อย่างสันติ  และไม่น่าเชื่อว่ารบกันมาเจ็ดปีจะมาจบแบบสวยงามในปีนี้”นายวีระกานต์ กล่าว  

 ด้านนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการใช้อำนาจที่เกินขอบเขต ในฐานะส่วนตัวขอเสนอความเห็นว่าเป็นไปตามที่นายณัฐวุฒิ เคยเสนอก่อนหน้านี้ว่า 1 ให้เดินหน้าโหวตวาระ 3 ต่อไป  2 รัฐสภาต้องเรียกประชุมเพื่อยืนยันว่า รัฐสภาจะไม่ยอมรับการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่ก้าวก่ายการทำงานของรัฐสภา เพื่อเป็นการยืนยัน เพราะวันนี้เห็นชัดแล้วว่า ตั้งแต่การปฏิวัติรัฐธรรมนูญฉบับนั้นได้ข่มขืนประชาชนให้รับก่อนและแก้ทีหลัง ซึ่งขณะนี้เป็นเวลา 6 ปีแล้ว เมื่อพรรคเพื่อไทยเสนอให้แก้กฎหมายทุกคนก็กลับลืมคำพูดตัวเอง วันนี้มันเกิดการเผชิญหน้ากันจะยอมปล่อยให้คนเจ็ดคนมาสั่งให้ประเทศไทยเดินไปทางไหนได้อย่างไร ซึ่งชัดเจนว่าเรากำลังสู้กับระบอบนิยมแบบเก่า ที่อยู่ภายใต้ระบบอุปถัมภ์ ดังนั้น เราจะต้องสู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่กินได้จริง

 จตุพร ปลุกคนเสื้อแดงลุกขึ้นสู้ม็อบราชดำเนิน

 จากนั้นเวลา 22.20 น. นายจตุพร ขึ้นเวทีอีกครั้ง ปราศรัยระบุ ขณะนี้นายสุเทพ ซึ่งเหมือนคนที่ตายแล้วได้ขึ้นเวทีปราศรัย ว่า แม้ว่ารัฐบาลจะยุบสภาหรือลาออก ก็ไม่ยอมและจะสร้างประเทศไทยขึ้นมาใหม่ ก็ขอให้บ้าให้พอ และการเดิน 13 สายนั้น  อยากจะแจ้งว่า ความหวังสุดท้ายของนายสุเทพ คือ หลังจากคืนนี้และคืนพรุ่งนี้ หลังจากนั้นคงจะได้ฟังแค่ ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น ขณะนี้หลังจากประชาชนได้ฟังการปราศรัยก็เกิดความฮึกเหิมและทยอยกลับบ้าน นอกจากนี้ ยังพยายามอธิบายว่า เหตุที่คนมาน้อยเพราะถูกสกัดจับ โดยตะปูเรือใบ การที่รถคว่ำตำรวจก็เป็นคนทำ ถ้าเช่นนั้นฝนตกตำรวจก็คงเป็นคนทำ เหตุที่คนกลุ่มนี้ฮึกเหิม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจริงๆแล้วเป็นความเท็จทั้งสิ้น

 นายจตุพร กล่าวว่า ในวันนี้ สุเทพ เริ่มต้นด้วยนิรโทษกรรม ลงท้ายก็คงหนีไม่พ้นเอาสถาบันมาอ้าง แต่เชื่อว่าครั้งนี้ประชาชนคงไม่ยอม และประชาชนได้เอาสถาบันเทิดไว้เหนือหัว อยากเตือนนายสุเทพ ว่าจะทำอะไรก็ได้ แต่อย่าเอาสถาบันมาเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ทั้งปัญหาสามจังหวัดชายแดน ผ่านมาหลายปีแล้ว ปัญหายังยุติไม่ได้ รัฐประหารปี 49 ผลของปัญหายังเกิดถึงทุกวันนี้ แล้วยังจะพยายามกวักมือเรียกทหาร ซึ่งเห็นได้ว่ามีความพยายามสร้างสถานการณ์ความรุนแรง เช่น การใช้กำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังมีการประกาศบนเวทีว่าหากมีใครเจ็บ ใครตายตระกูลชินวัตร ต้องรับผิดชอบ ในขณะที่ตระกูลเทือกสุบรรณ ยังอยู่ได้ทุกวันนี้แม้ว่าจะมีคดีฆ่าคนตายก็ตาม แต่เชื่อได้ว่าคนที่ฆ่าคนตายนั้นไม่มีวันจะมีความสุข เพราะปิดตาก็เห็นความตายโดยขณะนี้มีคนปล่อยข่าวว่า คืนนี้ตีสาม จะมีการรัฐประหาร แต่ตนคิดว่าเป็นเพียงข่าวปล่อย มิฉะนั้น ทุกคนก็จะได้เซ็ทซีโร่กันจริงๆ

“ถ้าครั้งนี้ผ่านไปได้ เราต้องช่วยกันบอกว่า สุเทพ ไม่ได้เป็นคนดี เป็นคนเลวคนหนึ่ง เป็นผู้ร้ายฆ่าคนตาย เป็นผู้ที่โดนคดีทุจริต ไม่ใช่คนที่เปลี่ยนแปลงประเทศไทย พรุ่งนี้จึงเป็นอีกวันหนึ่งที่คนเสื้อแดงต้องยืนให้ได้ ซึ่งในวันนี้มีการปลุกระดมกันอย่างคึกคักที่เวทีราชดำเนิน แต่นายสุเทพ ก็แพ้เพราะไม่สามารถพาประชาชนมาเป็นล้านคนได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าการชุมนุมจะเคลื่อนไปอย่างไร คนเสื้อแดงจะชุมนุมในที่ตั้ง ซึ่งสิ่งที่คนเสื้อแดงทำนั้น แม้จะมีตัวช่วยมากมาย แต่ก็ขอให้รู้ไว้เลยว่าจะไม่มีทางได้หัวใจประชาชน เพราะประชาชนรู้ดีว่านายสุเทพ เป็นคนอย่างไร ตอนนี้ให้โอกาสนายสุเทพ ได้คึกคะนองไปก่อน แล้วจะได้รู้ว่าหลังจากนั้นจะได้พบกับอะไร  หากคนเสื้อแดงไม่สู้ในวันนี้ ก็จะต้องพบกับกระบอกปืนอีก จึงต้องสู้ในวันที่ยังได้เปรียบบ้าง อีกไม่กี่วันนายสุเทพ ก็กำลังจะต้องแพ้ ”นายจตุพร กล่าว

 นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวว่า ปชป.อยากชนะทางการเมืองโดยไม่ต้องเลือกตั้ง ไม่ว่าพรุ่งนี้ปชป.จะเดินไปกี่จุด ก็ขอให้คนเสื้อแดงไม่ต้องกังวล ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐและตำรวจจัดการ ขอให้คนเสื้อแดงรวมตัวกันที่สนามราชมังคลาฯ โดยคนเสื้อแดงจะอยู่ในฐานที่ตั้งไม่ไปไหน ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมจะยื่นฟ้อง ป.ป.ช.เพื่อให้ถอดถอน ส.ส.ที่ยื่นเสนอแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรานั้น ไม่ต้องห่วงเพราะเรื่องนี้ ภายในวันที่ 30 พ.ย. คดียังไม่สิ้นสุด เพราะการยื่นฟ้องต่อป.ป.ช.ต้องมีกระบวนการหลายขั้นตอน เช่น การตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาดูแลและการเรียกชี้แจงเพื่อไตร่สวนจึงจะสรุปความเห็นเพื่อเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่อาจจะต้องมีการเรียกชี้แจงอีก อย่างไร พ.ย.นี้ก็ไม่จบง่ายๆ หรือ ภายในปีนี้อาจจะไม่จบ

"กรณีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ทำร้ายแค่พรรคเพื่อไทย แต่เป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยไปแล้ว ความจริงศาลต้องดูแลประชาชน แต่กลับใช้อำนาจศาลมาทำลาย ซึ่งปัจจุบันรัฐไม่ได้อยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย แต่กลายเป็นรัฐที่อยู่ภายใต้ศาลรัฐธรรมนูญ"นายณัฐวุฒิ กล่าว

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมพักค้างคืนที่สนามราชมังคลาฯ โดยที่แกนนำก็จะพักค้างที่สนามเช่นเดียวกัน 

ที่มา ข่าวสด