นปช.แถลงข่าว "สถานการณ์พิเศษ" วันจันทร์ที่ 18 พ.ย.




ทีมข่าว นปช.
18 พฤศจิกายน 2556


วันนี้ 18 พ.ย. เมื่อเวลา13.00 น.ที่ชั้น 5 อิมพิเรียลลาดพร้าว กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)แถลงข่าวสถานการณ์พิเศษ นำโดย อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช. คุณจตุพร พรหมพันธุ์ นพ.เหวง โตจิราการ คุณวรชัย เหมะ และแกนนำนปช.ส่วนกลางอีกหลายท่าน พร้อมกับพี่น้องคนเสื้อแดงจำนวนมาก มาร่วมรับฟังการแถลงข่าวของกลุ่มนปช.ในสถานการณ์พิเศษในวันนี้



ชมคลิป




 อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช)
กล่าวว่าขอบคุณพี่น้องที่มาร่วมรับฟังการแถลงข่าววันนี้อย่างคับคั่ง ในสถานการณ์นี้เป็นเวลาสำคัญที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่ออีกครั้งหนึ่งว่า ที่ชัยชนะของประชาชนได้ต่อสู้มาจนกระทั่งมีผู้แทนราษฏร มีอำนาจที่มาจากการเลือกตั้ง ดีกว่าบริหารในรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคและสามารถที่จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยดำเนินต่อไป ดังนั้นที่เรามีนัดหมายในวันที่ 19และ20 ดังที่โฆษกได้แจ้งไปแล้วว่าเราจะเริ่มเวทีตั้งแต่ก่อนเที่ยง เนื่องจากสถานการณ์นี้เป็นสถานการณ์พิเศษ ก็ขอเรียกร้องต่อพี่น้องทั้งหลายว่า ยังมีเรื่องราวอีกหลายเรื่องที่เรายังไม่สบายใจอีกจำนวนมาก และเรื่องราวที่เรายังแก้ปัญหาไม่ตกอยู่หลายประการ ขอเรียกร้องหัวใจนักต่อสู้ว่า ทุกท่านที่เป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ท่านอาจจะผ่านสนามมาหลายสนามแล้วแต่ครั้งนี้ก็เป็นความต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้การต่อสู้ที่แล้วมาพ่ายแพ้ รวมทั้งคนรุ่นใหม่ขอได้มาพร้อมเพรียงกันในวันที่19 ตั้งแต่เช้ามาพร้อมเพรียงกันที่สนามราชมังคลาฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องที่อยู่ในกรุงเทพ ปริมณฑลและในจังหวัดที่ใกล้เคียง แม้การมาเป็นขบวนอาจจะมีความขัดข้องหรืออย่างไรก็ขอให้นัดหมายมาพร้อมกัน ให้มาให้มากที่สุด สนามราชมังคลาฯ สามารถบรรจุรวมๆกันภายในภายนอกในระดับแสนก็สามารถรับอยู่ ถ้าเป็นไปได้ขอให้มากันเป็นกลุ่มเป็นหมู่และสามารถดูแลว่ามีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะเรื่องอาหารการกิน เรื่องห้องน้ำ เราก็จะตั้งเต้นฑ์ประสานงานนปช.กรุงเทพปริมณฑลต้องทำหน้าที่บทบาทในฐานะเจ้าของพื้นที่ อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนที่มาร่วมกันแสดงพลังในครั้งนี้

ดั่งที่ได้บอกแล้วว่าหลักการคำขวัญของเราก็คือ “แก้รัฐธรรมนูญเป็นอำนาจรัฐสภา” เหตุที่มุ่งอันนี้เป็นการแสดงความคิดของเราว่า เราต้องการรักษาระบอบประชาธิปไตยเรายืนยันการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่ได้แบ่งแยกอำนาจผู้แทนราษฏรที่ได้รับเลือกจากประชาชนมาในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องมีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญนี่เป็นการยืนยันของพวกเราค่ะ และรัฐบาลต้องมีอำนาจในการบริหาร ส่วนตุลาการก็มีขอบเขตอำนาจที่ไม่สามารถเกินกว่ารัฐธรรมนูญและกฏหมายได้ นอกจากนั้นจะต้องไม่แทรกแซงหรือทำลายอำนาจอื่น เพราะถ้าทำเช่นนั้น ก็คือไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย
ทั้งหมดนี้ก็คือเป็นการยืนยันอำนาจของประชาชนการยืนยันระบอบประชาธิปไตย ที่แท้แล้วหัวใจของมันก็คือ ยืนยันว่าอำนาจการเมืองการปกครอง ของประเทศนี้เป็นของประชาชน นี่คือหัวใจการต่อสู้ของเรา เพราะฉะนั้นเราขอเชิญชวนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยทั้งหลาย มันมีบางส่วนก็คือแยกเอาธงชาติ ไปเป็นสัญลักษณ์ของตัวเอง เพราะธงชาติก็เป็นธงของประชาชนเป็นธงของประเทศนี้ไม่ใช่ของใครค่ะ

ในสถานการณ์นี้เป็นสถานการณ์หวั่นไหว ข้อที่1ทำความเข้าใจว่าแนวคิดของเราคืออะไร มุ่งของเราคืออะไร มุ่งของเราก็คืออำนาจเป็นของประชาชน และยืนยันระบอบประชาธิปไตย เราต้องมาให้มากที่สุดและขอเรียกร้องว่าให้อยู่ในความสงบ เป็นการชุมนุมที่อยู่ในความสงบ เราอยู่ในพื้นที่ที่ไม่สามารถสร้างความเดือนร้อน หรือกระทบกระเทือนความสงบเพราะเราไม่ต้องการไปเผชิญหน้ากับกลุ่มอื่น เราจึงขอแจ้งต่อสังคมไทยและแจ้งต่อพี่น้องเราว่า หลักการณ์ของเรานั้นเรายืนหยัด แต่เราจะชุมนุมด้วยความสงบ สันติ แน่นอนเราปราศจากอาวุธ เพราะจะมีหน่วยตรวจอาวุธ เหมือนปกติวิสัยการชุมนุมของนปช.ซึ่งมีการตรวจอาวุธ เราจะชุมนุมตั้งแต่เที่ยงคล้ายกับการชุมนุมที่โบนันซ่า มีการแสดงตัวของแกนนำหลักสลับกับศิลปินบ้าง เพื่อความผ่อนคราย และมีความดูแลชีวิตความเป็นอยู่ เราก็ต้องจำเป็นที่จะต้องแลกเปลี่ยนข่าวสาร เพราะอีกฝั่งหนึ่งพูดว่าวันที่ 24 จะมีการปฏิวัติประเทศไทย ปฏิวัติแบบไหนกันแน่ จึงขอให้พี่น้องมากันให้มากที่สุดไม่ต้องไปเกรงใจพรรคประชาธิปัตย์บอกว่ามาตั้งล้าน

เรื่องสุดท้ายก็คือ เนื่องจากว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งไปขึ้นเวทีพรรคประชาธิปัตย์ เราได้ตรวจสอบหลักฐานต่างๆ 1.เธอเป็นคนกาฬสินธุ์ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้าง รวมทั้งแกนนำในพื้นที่ก็บอกว่าเธอค่อนข้างจะมีอาการป่วยอยู่ เป็นคนตัวคนเดียว ตรวจสอบว่าเธอได้มาทำคำร้องที่นปช. หลังสุดมายื่นวันที่2ตุลาคม ในคำร้องนั้นได้อธิบายว่ามีคดีเกี่ยวข้องกับธนาคารที่ขอนแก่นและได้รับการประกันตัวไปแล้วแต่ต้องการทนาย ทางเจ้าหน้าที่ของเราได้ประสานแกนนำขอนแกนหาทนายให้เธอ เป็นทนายแหม่มที่บ้านไผ่ และมาขอความช่วยเหลือเรื่องค่ารถ ค่าอะไรต่างๆซึ่งอ.ธิดาก็จ่ายให้เป็นเงินส่วนตัวไป ด้านหนึ่งพี่น้องจำนวนมากก็โกรธแค้น ที่สำคัญก็คือมีการระบุว่าคุณจตุพรจ้างให้ไปเผาล็อตละ 1ล้าน 5 แสนบาท เพราะฉะนั้นเราดูจากคำพูดก็รู้ว่า.. เมื่อกี้เราได้มีการโทรศัพท์ติดต่อเพราะเธอให้เบอร์ไว้ เพราะว่าในขณะนี้อยู่ในความควบคุมของสส.พรรคประชาธิปัตย์ ด้านหนึ่งเราก็จะพบว่าเป็นความพยายามของพรรคประชาธิปัตย์ ในการที่จะมาหาวิธีซึ่งพี่น้องเราป่วยหรือมีความทุกข์หนัก เพื่อที่จะเอาตัวไปเก็บแล้วเขียนบทให้พูด ในนั้นจึงมีคำพูดที่เบียงเบียนหลายอย่าง ที่สำคัญก็คือการมีการสอน เสื้อเขียนว่า.. ในเสื้อก็ไม่ได้มีอะไรเพียงแต่เป็นการตีความ ในเสื้ออาจเป็นสโลแกนอะไรก็ได้ ปัญหาอยู่โฆษกบนเวทีพยายามตีความทำให้เป็นเรื่องที่หมิ่นเหม่ เพราะเสื้อก็มีขายโดยไม่รู้ว่าใครไปทำ

เพราะเรื่องนี้พยายามจะเขียนบทว่ามีคนสอน อยากขอบอกพรรคประชาธิปัตย์ว่า กองทัพเขาเคยสงสัยประเด็นนี้ เขาเคยมาตรวจสอบหมู่บ้านเสื้อแดงแล้วทำสถิติออกมาเพื่อนที่จะหาว่าพวกเสื้อแดงมีปัญหากับความไม่จงรักภักดีหรือเปล่า ปรากฏว่าตรงข้ามหมู่บ้านที่เป็นเสื้อแดงนั้น ตัวเลขความจงรักภักดีมากกว่าหมู่บ้านอื่นๆทั่วไปด้วยซ้ำ นี่เป็นโพลของกองทัพบก เพราะฉะนั้นที่พรรคประชาธิปัตย์ ที่คุณกำลังทำนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่จริงและไม่ได้ผล แต่ถัดมาจากเรื่องการทำผังล้มเจ้าก็พบแล้วว่าเป็นเรื่องเหลียวไหล เพราะฉะนั้นการที่ออกมาว่าคนเสื้อแดงและคนเสื้อแดงไปสั่งสอนไม่ถูกต้อง ก็ขอเรียกร้องว่าคนที่ดูเวทีเมื่อวานนี้ช่วยไปฟ้องพรรคประชาธิปัตย์สักหน่อย

ด้านคุณจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช)

กล่าวว่า ประเด็นของพรรคประชาธิปัตย์ ท้ายที่สุดก็เดินตามรอยของพันธมิตรที่ตัวเองเคยร่วมกันมา จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าตอนพันธมิตรชุมนุมและพรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนสนธิ ลิ้มทองกุลได้แบ่งประชาชนออกมาเป็น 2 พวกดังเช่นเสื้อที่ปรากฎว่า “เราจะสู้เพื่อในหลวง” เพื่อที่ต้องการจะผลักประชาชนที่ไม่ได้ร่วมชุมนุมกับตัวเองว่าไม่ได้สู้เพื่อในหลวง เป็นต้น

ทั้งที่ 64 ล้านคนนั้นเป็นประสบนิกรของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุกชีวิต แต่ว่าเป็นการ "บีบประชาชนหรือการให้เลือกข้างระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณกับสถาบันพระมหากษัตริย์" ซึ่ง ความจริงแล้วเป็นการเลือกข้างไม่ได้เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นเพียงแค่ประสบนิกรคนหนึ่ง การปูพื้นเช่นนี้นำไปสู้การรัฐประหาร 19 กันยายนปี 49

กรณีม๊อบของเสธอ้าย ที่พยายามจะจุดก็เป็นเรื่องเดียวกันจนกระทั่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณซึ่งเวลานี้ชาติไทยกำลังเปลี่ยนเป็นชาติเทือก ละเลงธงชาติเป็นธงเทือกเพราะท้ายที่สุดเมื่อพ.ร.บ.นิรโทษกรรมไปแป๊ก ศาลโลกก็แป๊กซึ่งระหว่างรอความหวังจากศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 20 และเขาเชื่อว่าจะเป็นผลบวกกับเขาในจุดแรกซึ่งนัดหมายเป็นการปฏิวัติในวันที่ 24 พ.ย.

เพราะฉะนั้นระหว่างนี้ก็จะมีการปูพื้น เมื่อวานซืน นักการเมืองรุ่นโบราณอย่างดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ก็ออกมาพูดเรื่องประธานาธิบดีทักษิณ เรื่องการปิดล้อมพระราชวัง เพื่อจะโน้มนำไปว่า จะบริหารประเทศที่เรียกว่าระบอบทักษิณนั้นจะเปลี่ยนแปลงปกครองเป็นระบอบประธานาธิบดี ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณก็เคยฟ้องนายสุเทพ ในกรณีที่กล่าวหาว่าจะกลับประเทศมาเป็นประธานนาธิบดีนั้นไปแล้ว แต่ปรากฏว่าศาลได้ยกคำร้อง เพราะฉะนั้นการปูพื้นก็จะเป็นเรื่องการไม่จงรักภักดี ดังเช่นหลายครั้งที่ผ่านมา

เมื่อวานนี้ผมตั้งใจจะอโหสิกรรมให้พี่น้องเรา นางปาริชาติ ภูนกยูง เธอก็ถูกดำเนินคดีจริงแต่เป็นคดีเผาธนาคารกรุงเทพ ที่จังหวัดขอนแก่น มิใช่คดีเผาศาลากลาง แต่เธอก็เป็นคนหนึ่งที่ได้รับชะตากรรมและก็มีการถูกขังโดยคำพิพากษา และก็ได้รับการประกันตัวหลังจากถูกขัง 3 เดือน จะโดยการจูงใจอย่างไรก็แล้วแต่นั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเวทีพรรคประชาธิปัตย์เมื่อคืนนี้ ซึ่งทั้งพวกผมและพรรคประชาธิปัตย์

ท้ายที่สุดเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ตั้งหลักได้ ซึ่งจะรู้ว่าผลลัพธ์ที่สุดตัวเองจะตายมากกว่านายจตุพร พรหมพันธุ์ เพราะข้อความที่ท่านอ.ธิดา ได้สื่อสาร ซึ่งพี่น้องก็ได้เห็นอยู่แล้วในเสื้อ แล้วผู้ดำเนินรายการก็คือ นายสำราญ รอดเพชรและนายอิสระสมชัย อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อ แล้วเวทีนี้ นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รับผิดชอบเวทีโดยนายสาธิต วงหนองเตย คุณคอยฟังผมให้ดีว่าจะรับผิดชอบคดีใดบ้าง  ดาบที่คุณต้องการจะขึ้นเพื่อประหัตประหารผมนั้น วันนี้ดาบนั้นจะย้อนกลับหาคุณอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเอา 2 ข้อความมานั้นข้อความหนึ่งเพื่อทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ อีกข้อความหนึ่งพูดเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยการชูพระบรมฉายาลักษณ์แบบจงใจบนเวทีราชดำเนินทั้งตัวผู้พูดที่น่าเห็นใจ แต่คนสนับสนุนคือคนดำเนินรายการและคนที่อนุญาตให้ขึ้นเวที ผมได้ทราบข่าวจากทางรัฐบาลซึ่งเขาเองหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะว่า ถ้าไม่ดำเนินการใดๆนั้นก็จะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ขณะนี้ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อดำเนินคดี ตั้งแต่สุเทพ เทือกสุบรรณ สาธิต วงศ์หนองเตย สำราญ รอดเพชร ร่วมกระทั่งผู้พูด ซึ่งเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะการกระทำดังกล่าวนั้นต้องการจะสื่อสารไปยังรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ และคนเสื้อแดงว่าไม่มีความจงรักภักดี แต่ด้วยความที่มีเจตนามุ่งร้าย บัดนี้ได้สนองบักคอตัวเองเรียบร้อยแล้ว  ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่าผมให้เอาน้ำมันไปเผาศาลากลาง พร้อมเงินค่าจ้าง 1,500,000 บาทนั้น คุณปราริชาติได้ให้การในชั้นพนักงานสอบสวนและในชั้นศาลทั้งหมด ไม่เคยมีการพูดหรือมีการเชื่อมโยงถึงแกนนำแต่อย่างใด และผมเองบนเวทีปราศรัยถ้ามีข้อความว่า "ผมให้เอาน้ำมันไปเผาศาลากลาง" ป่านนี้ผมไม่เหลือซากแล้ว เพราะฉะนั้นการที่มีการจ้างเผาจำนวนเงินหนึ่งล้านห้าแสนบาทนั้นเป็นการพูดเท็จ ร่วมถึงต้องการโยงสถาบันพระมหากษัตริย์นำมาสู่เรื่องการเผา

เพราะฉะนั้นการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ใช้วิธีมารเหล่านี้ เพราะที่ต้องการจัดการคนเสื้อแดงที่เป็นปัญหาหลักอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเราจะต้องดำเนินการตามกฎหมายซึ่งก็เห็นในคุณปาริชาติ แต่ตัวเธอก็เป็นตัวละครตัวหนึ่งซึ่งพรรคประชาธิปัตย์นำมาหยิบใช้ และเมื่อคืนนี้หลังเธอพูดจบมีคนของผมไปรอถามว่าขึ้นมาได้อย่างไร กว่า 2 ชั่วโมงบรรดาพรรคประชาธิปัตย์ก็ดูแลควบคุมไม่ให้ออกมา ปรากฏว่าจะโดยอย่างไรก็แล้วแต่การที่เธอเป็นคนเสื้อแดงเธอจะถูกดำเนินอย่างไรก็แล้วแต่เธอก็มีพิษร้ายต่อพรรคประชาธิปัตย์เสมอ แม้ว่าจะจงใจหรือไม่จงใจก็ตาม

เพราะฉะนั้นในกรณีนี้ให้พี่น้องประชาชนเข้าใจได้ว่า พวกเรานั้นไม่มีใครที่จะไปสั่งการแบบนั้น และคิดแบบนั้น แต่การนี้เหมือนได้มีการเตรียมตัวแม้ตัวพิธีกรเองก็มีการเตรียมตัวกันมา เดี๋ยวก็ต้องมีชายชุดดำขึ้นมาอีก เพราะเขาคิดว่า การใช้เวทีล้างเลือดของเขานั้น โดยกำลังได้สร้างความเชื่อให้กับประชาชน คือวันนี้สุเทพ เทือกสุบรรณและพวกกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ คือเกิดมาในชีวิตไม่ฆ่าไม่โกง เพราะฉะนั้นเป้าหมายหนึ่ง เขาต้องการที่จะสกัดกั้นอารมณ์ความรู้สึกของพี่น้องเสื้อแดงที่จะมาราชมังคลา การประกาศระดมคนล้านหนึ่งสำหรับนายสุเทพเทือกสุบรรณ ผมว่าดีกว่าเสธอ้ายแต่ไม่มีทางจะได้ถึงล้านแต่ว่าจะถูกเคล็มไปด้วยกระแสที่เขามีความคาดหวังสูงจากศาลรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นในวันพรุ่งนี้ที่ต้องเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องคนเสื้อแดง สมัยก่อนตอนผมจัดเวทีความจริงวันนี้ที่ราชมังคลาเป็นการเอาใจประชาชนโดยเฉพาะ โดยวันพรุ่งนี้เพื่อต้องการสอนพรรคประชาธิปัตย์ว่า ถ้าคนแสนคนต้องแบบนี้ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์บอกว่าคนเต็มแสนสองแสนนั้นไม่มีตัวเลขอย่างนั้นแต่ต้องการสร้างกระแสและก็ปูพื้นในวันที่ 24 และก็มีความหวังว่า การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องแก้ไขที่มาของสว.ให้มีการเลือกตั้ง 200 คนโดยยกเลิกสว.สรรหา 73 คนและสว.ซึ่งมาจากการเลือกตั้งครบวาระ 3 มีนาคมเมื่อได้สว.ทั้ง 200 คนแล้วสว.ซึ่งมาจากการสรรหาหรือแต่งตั้งจำนวน 73 คนต้องพ้นจากตำแหน่งทันที อำนาจการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ท่านอ.ธิดา ได้เรียนกับท่านทั้งหลายนั้นตามกลไกของรัฐธรรมนูญตามระบบรัฐสภาเป็นอำนาจของสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น ตามมาตรา 391ซึ่งไม่ให้อำนาจหน้าอื่นใดมาแก้ไขรัฐธรรมนูญได้

รัฐบาลเสนอได้ วุฒิสภาเสนอได้ ส.ส.เสนอได้ประชาชน 50,000 รายชื่อเสนอได้แต่คนพิจารณาคือสมาชิกรัฐสภา ยกเว้นถ้ามีการแก้ไขมาตรา 291 อำนาจจะไปอยู่ที่ สสร. สสร.พิจารณาเสร็จส่งให้ประชาชนทำมติ ซึ่งประชามติทำไม่ได้ถ้าไม่แก้ไขมาตรา 291 ก่อน เพราะฉะนั้นถ้ามาตรา 291 ยังแก้ไขไม่ได้อำนาจการแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงเป็นอำนาจโดยชอบและเป็นเอกสิทธิ์โดยเด็ดขาดของสมาชิกรัฐสภา ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจใดมารับยับยั้งได้ ซึ่งถ้าว่ากันตามตัวบทกฎหมายตามเจตนารมณ์นั้นศาลรัฐธรรมนูญไม่มีสิทธิ์รับวินิจฉัย ไม่มีสิทธิ์ที่จะพิจารณาและไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินแต่ว่ามีหมายเหตุว่า “ที่นี่คือประเทศไทย”

เพราะฉะนั้นวันพรุ่งนี้ผมต้องสื่อสารไปยังคนไทยทั้งชาติว่า เวทีของพี่น้องเสื้อแดงร่วมกับบรรดาหมู่มิตรพรรคเพื่อไทยนั้นเป็นเวทีเพื่อแสดงความรู้สึกแสดงพลังโดยไม่มีลักษณะการกดชัดหรือเผชิญหน้าแต่เป็นเวทีซึ่งคนถามหา ซึ่งความยุติธรรมและเป็นการป้องปรามว่าถ้าเหตุการณ์ซึ่งหลายฝ่ายบางฝ่ายได้มีความประสงค์ให้ได้มาซึ่งรัฐบาลไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย ไม่ว่าจะมาด้วยกระบอกปืน การรัฐประหารหรือจะมาโดยความเป็นรัฐบาลแห่งชาติที่มีการพูดกันนั้น โดยคนเสื้อแดงไม่อาจจะยอมรับได้ โดยพรุ่งนี้นั้นจึงอยากให้พี่น้องได้มากันเร็วๆ พอมาถึงเรื่องอาหารการกินครบแม้ว่าจะไม่เท่าพรรคประชาธิปัตย์เพราะคนเขาน้อย

เพราะฉะนั้นในวันพรุ่งนี้ในเรื่องส่วนการรักษาความปลอดภัยทางคุณอารีย์ ไกรนาราร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอย่างเรียบร้อย ซึ่งกำหนดการเดิมเราคือ 19-20 ส่วนกำหนดการใหม่นั้นก็ขึ้นอยู่ในสถานการณ์ แต่ทั้งหมดเราจะไม่มีในลักษณะการกดดัน การเผชิญหน้า และก้จะรักษาความปลอดภัย ในพื้นที่ของหัวหมาก ซึ่งมีความพ้อมทุกอย่างและอยากให้พี่น้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ไม่เคลื่อนไหวอย่างพลการณ์ ใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างที่สุด เพราะเราต้องการจะแสดงออกให้เห็นว่า คนเสื้อแดงเราชุมนุมโดยยึดคำว่าวินัยเป็นที่สุด และที่สำคัญมากกว่านั้นคือ ว่าจะเป็นการบอกกับพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 24นี้ด่วย ว่าจะอย่างไรก็ตามคุณไม่มีวันตามทันคนเสื้อแดง ส่วนพี่น้องซึ่งไม่ได้มาในวันที่ 19 และ20 ตามที่คุณนิสิทธิ์จะได้อธิบายความกันโดยเราก็เตรียมแผน 2 เหมือนกันโดยคนเสื้อแดงเรามีเป็น10ผลัดซึ่งหมุนเวียนตลอดระยะเวลาการชุมนุม เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคนก็จะมีขึ้นอยู่เรื่อยๆ ซึ่งอยากให้พี่น้องเชื่อกันว่า เราจะทำหน้าที่เพื่อรักษาประชาธิปไตย ทุกวิถีทาง ด้วยชีวิตและอิสรภาพ