ปาฐกถาของธีรยุทธ บุญมี
ธิดา ถาวรเศรษฐ
19 ตุลาคม 2556
ข้อควรโต้แย้ง
แรกเลยคือสิ่งที่ธีรยุทธกล่าวว่า “ประชาธิปไตยไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องเกิด มาเลเซีย
สิงคโปร์ จีน ซึ่งเจริญทางเศรษฐกิจ การศึกษากว่าไทย ปัจจุบันยังไม่เป็นประชาธิปไตย” แถมยังบอกว่า “14 ตุลา 16
ก็ไม่จำเป็นต้องเกิด เพราะประเทศอื่น ๆ
ในเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์, เกาหลี,
พม่า, อินโดนีเซีย ยังไม่เป็นประชาธิปไตยในเวลานั้น”
ข้อนี้ผู้เขียนถือว่าเป็นการฟ้องร้องตัวตนและจุดยืนของธีรยุทธชัดแจ้ง หมายความว่า
เขาไม่เห็นความจำเป็นต้องมีการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และแม้แต่ 14 ตุลา 16 ก็ไม่จำเป็นต้องเกิด (รอพม่าและประเทศอื่น ๆ ก็ได้)
น่าสนใจคือ มีการระบุว่าจาก 2475 ถึง 14 ตุลาคม 2516 สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นหลักคือ
กองทัพและสถาบันอนุรักษ์แย่งชิงการเป็นอธิปัตย์แล้วมาผนึกกำลังต่อต้านคอมมิวนิสต์ หลัง 6 ตุลาคม 2519 จนหลังเหตุการณ์พฤษภาคม
2535 กองทัพยอมกลับมาอยู่ใต้สถาบันพระมหากษัตริย์โดยสิ้นเชิง เปลี่ยนคำขวัญจาก ชาติ เกียรติ วินัย กล้าหาญ
มาเป็น “ชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์”
เปลี่ยนจากการเน้นประชาธิปไตยมาอยู่ที่ความมั่นคงของชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ นี่จะสรุปว่า กองทัพเพิ่งเปลี่ยนแปลงมาอยู่ใต้สถาบันพระมหากษัตริย์หลังปี
2535 เช่นนั้นหรือ??
การพูดถึงอุดมการณ์นับว่ายังโจมตีปัญญาชนอนุรักษ์นิยม
(ตัวเองด้วยหรือไม่)
วิพากษ์ชนชั้นนำอนุรักษ์นิยมทหารและกลุ่มทุนดั้งเดิม ตลอดจนพรรคการเมืองจากนายทุนท้องถิ่น
ระบุว่า
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มทุนใหม่ขนาดใหญ่ได้ยกระดับฐานอำนาจและผลประโยชน์ภาคการเมืองจากการเป็นกาฝากเกาะกินรัฐมาเป็นการควบคุมรัฐและภาคชนบทโดยตรง
จนเป็นชนวนความขัดแย้งครั้งใหญ่ระหว่างกลุ่มอนุรักษ์ที่เคยกุมอำนาจรัฐมาแต่เดิมกับกลุ่มทุนใหม่ เก็งกำไรทางอำนาจซึ่งอยู่ในรูปของพรรคการเมือง
นี่หมายความถึงคู่ขัดแย้งหลักแบบเดียวกันกับคุณเสกสรรค์ ประเสริฐกุล
การพูดถึงวัฒนธรรมการเมืองแบบอุปถัมภ์หรือสังคมขี้ข้า นี่ทำให้วาทะกรรม อุจจาระ
เต็มไปหมด
คุณทักษิณเป็นขี้ขำค้างคารูทวาร
คุณยิ่งลักษณ์เป็นขี้หย้องกับขี้แบ๊ะ
อนุรักษ์นิยมเป็น
ขี้หักถ่อง
การประดิษฐ์วาทะกรรมชนชั้นนำ
“ขี้” ดูจะได้ผลที่ทำให้คนปิดจมูกเหม็นไปทั่วประเทศ ร้องยี้
มองไม่เห็นข้อดีที่เหลือในคำปาฐกถาอีกเลย
การวิพากษ์สังคมขี้ข้าดูจะเป็นการแสดงทัศนะดูหมิ่นประชาชนผู้ถูกปกครอง เป็นทัศนะที่มองสังคมหยุดนิ่งเหมือนหลายร้อยปีก่อน
ที่เข้าท่าหน่อยคือ คำกล่าวที่ว่า
การแก้ปัญหาโดยวิธีการรัฐประหารพิสูจน์แล้วว่าเป็นวิธีการที่ผิดพลาด
ข้อเสนอต่อเสื้อแดงคือ
ถามว่าทำไมแกนนำเสื้อแดงไม่เสนอพรรคเพื่อไทยเพื่อกระจายอำนาจ รวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์แง่ต่าง ๆ
ของนโยบายประชานิยม
ผู้เขียนใคร่แสดงความคิดเห็นว่า ปัญหาหลักคือ
การที่พลังอนุรักษ์นิยมไม่ยอมคืนอำนาจให้ประชาชน
ถ้าประชาชนไม่มีอำนาจการเมืองการปกครองเสียก่อนแล้วจะเอาอำนาจแบบไหนไปกระจายอำนาจให้กับประชาชน จะให้เสนอเอาอำนาจระบอบอำมาตย์ไปกระจายให้กับประชาชนรากหญ้าเช่นนั้นหรืออย่างไร? นี่ไม่ใช่การดำเนินการต่อสู้อย่างมีขั้นตอนและจัดลำดับความสำคัญไม่ถูกต้อง
ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงนโยบายทางเศรษฐกิจ สังคม
ถ้าแม้นว่าเป้าหมายหลักทางการเมืองยังไม่อาจบรรลุได้
สำหรับข้อแนะนำจากปัญญาชนเสรีนิยมส่วนมากก็จะสอดคล้องกับแนวทางคนเสื้อแดงและ
นปช. อยู่แล้ว
แต่ข้อแนะนำจากปัญญาชนอนุรักษ์นิยมที่มีจุดยืนตรงข้ามกับประชาชนก็ต้องขอตรวจสอบ

