ศาลอาญากรุงเทพใต้ ไต่สวนคดีสลายการชุมนุม

ข่าวสด 13 กันยายน 2556



 วันที่ 12 ก.ย. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดไต่สวนชันสูตรพลิกศพคดีหมายเลขดำที่ ช.1/2556 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 2 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนชันสูตรพลิกศพนายมานะ แสนประเสริฐศรี และนายพรสวรรค์ นาคะไชย ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณปากซอยงามดูพลี ถนนพระราม 4 ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2553 โดยพนักงานอัยการนำพยานเข้าเบิกความจำนวน 3 ปาก

 พ.ต.ท.ชัยยา หัตถเสรีพงษ์ เบิกความสรุปว่า พยานเป็นผู้ตรวจสถานที่เกิดเหตุ เมื่อประมาณเดือน ต.ค.2554 ได้นำพยานที่เห็นเหตุการณ์ไปชี้จุดที่นายมานะถูกยิง พบรอยกระสุนทะลุผ่านเหล็กบริเวณธนาคารกสิกรไทย ปากซอยงามดูพลี และร้านค้าใกล้เคียงก็มีรอยกระสุนเจาะทะลุ โดยวิถีกระสุนถูกยิงมาจากแนวบังเกอร์บริเวณสะพานไทย-เบลเยียม ที่มีเจ้าหน้าที่ทหารประจำการอยู่

 ด้านพ.ต.ท.ไพชยนต์ สุขเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืน กองสรรพาวุธ เบิกความสรุปว่า ได้รับมอบหมายให้ตรวจกระสุนปืนขนาด .223 หรือ 5.56 ม.ม. โดยกระสุนปืนชนิดนี้จะใช้กับอาวุธปืนเอ็ม 16 และทาโวร์ ซึ่งอนุญาตให้ใช้ในหน่วยงานราชการเท่านั้น ประชาชนทั่วไปไม่สามารถมีไว้ในครอบครองได้

 จากนั้นทนายความญาติผู้ตายนำรูปศพของนายมานะให้พยานดูและถามพยานว่าบาดแผลที่ศีรษะของนายมานะเกิดจากกระสุนปืนชนิดใด พ.ต.ท.ไพชยนต์เบิกความว่า บาดแผลของนายมานะมีขนาด 0.3 ม.ม. คูณ 0.5 ม.ม. มีลักษณะใกล้เคียงกับบาดแผลที่เกิดจากกระสุนขนาด .223 หรือ 5.56 ม.ม.

 ขณะที่พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ ยาคุ้มภัย กลุ่มงานตรวจอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน เบิกความว่า พยานเข้าไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบรอยกระสุนปืนและวิถีกระสุน โดยตรวจบริเวณตึกเอซุสฝั่งซอยงามดูพลี ตู้ประชุมสายโทรศัพท์ของทีโอที ป้ายบอกทางลัดไปถนนสาทร พบรอยกระสุนปืนตามจุดต่างๆ ที่เข้าตรวจสอบ โดยทั้งหมดมีวิถีกระสุนมาจากสะพานไทย-เบลเยียม ซึ่งเป็นรอยของกระสุนขนาด .223 หรือ 5.56 ม.ม. แต่ไม่ปรากฏรอยกระสุนปืนจากฝั่งผู้ชุมนุมไปยังฝั่งที่เจ้าหน้าที่ประจำการอยู่

 ภายหลังการไต่สวนเสร็จสิ้น ศาลนัดไต่สวนครั้งต่อไปวันที่ 19 ก.ย. เวลา 09.00 น.