มิติ การเมือง ของ ประชาธิปัตย์ มิติ ล้มรัฐบาล :

ข่าวสด
8 สิงหาคม 2556
นับแต่เช้าวันที่ 7 สิงหาคม 2556 เป็นต้นไป พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ก้าวเข้าสู่อีกบาทก้าว 1 ของกระบวนการต่อสู้ในทางการเมือง

 แตกต่างไปจากยุคของ นายชวน หลีกภัย

 ที่เด่นชัดเป็นอย่างมากก็คือ ในการเคลื่อนไหวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินไปในลักษณะของ อีแอบ

 เป็น แนวหลัง มิได้เป็น แนวหน้า

 ขณะเดียวกัน เมื่อสถานการณ์ความขัดแย้งในเดือนพฤษภาคม 2535 คลี่คลาย พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ลังเลที่จะปล่อยทีเด็ดผ่านวาทกรรม

 จำลองพาคนไปตาย

 ทำให้พรรคประชาธิปัตย์กำชัยในการเลือกตั้งเดือนกันยายน 2535 ในขอบเขตทั่วประเทศ กระทั่งได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลพร้อมกับคำขวัญ

 เราเชื่อมั่นระบบรัฐสภา

 กล่าวสำหรับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อเข้าดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังยึดแนวทางหลักของพรรคอย่างมั่นแน่ว

 เห็นได้จากการเคลื่อนไหวก่อนรัฐประหาร 2549

 แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการ ล้ม รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างเต็มที่แต่ก็ดำเนินไปในแบบ แนวหลัง ตั้งใจหนุนช่วย

 เป็นการช่วยในการ เติมคน

 หรือเมื่อแพ้การเลือกตั้งเดือนธันวาคม 2550 และมีการต่อต้านรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช และ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2551 เป็นต้นมา ก็ยังยึดหลักซุ่มซ่อนยาวนานไม่แปรเปลี่ยน

 กระทั่งได้เป็น รัฐบาล

 ครั้นมาถึงสถานการณ์หลังการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554 ที่พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ให้แก่พรรคเพื่อไทย ครานี้พรรคประชาธิปัตย์มิอาจครองความเยือกเย็นเอาไว้ได้

 เมื่อปะเข้ากับร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม

 ตอนแรกพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังกระมิดกระเมี้ยน ดำเนินการผ่าน เวทีผ่าความจริง ในต่างจังหวัด แต่ต่อมาก็รุกคืบเข้ามาในกทม.

 เชิญชวน มวลชน เข้าร่วมอย่างเปิดเผย

 วางเป้าหมายไม่เพียงแต่จะต้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม หากแต่ยังมุ่งหวังถึงขั้นให้สถานการณ์นำไปสู่การโค่นล้มรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

 ใช้ ม็อบ ใช้ มวลชน เป็น เครื่องมือ

 พัฒนาการการเคลื่อนไหวต่อสู้ของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพัฒนาการอันควรศึกษา วิเคราะห์

 หากพรรคประชาธิปัตย์สามารถระดม มวลชน เรือนแสนมาเป็นกระแสคลื่นสาดใส่จนล้มรัฐบาลลงได้ อาจกลายเป็นมิติใหม่ทางการเมือง มิติใหม่พรรคประชาธิปัตย์

 คำถามอยู่ที่ว่า มวลชน จะเอาด้วยหรือไม่