ประธานนปช.โต้ แบรด อดัมส์ ผอ.ฮิวแมนไรท์ฯ รับข้อมูลจาก คอป.เพียงแหล่งเดียว



ทีมข่าว นปช.
8 สิงหาคม 2556

ถอดคำพูดการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ในส่วนของ อ.ธิดา  ถาวรเศรษฐ
ณ ชั้น 5 อิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันพุธที่ 7 สิงหาคม 2556


สวัสดีค่ะพี่น้องที่นี่และทางบ้าน  เข้าใจว่าวันนี้คงจะมีคนดูการแถลงข่าวของเราหน้าจอมากเป็นพิเศษ  ในขณะที่มีเหตุการณ์การที่คนจำนวนหนึ่งไม่รู้จะไปทางไหนก็เลยเดินกันไปที่รัฐสภา  เพราะฉะนั้นเราก็เลยนั่งดูเขาว่าเขาเดินกันอย่างไรอยู่ที่หน้าจอแล้วมาที่นี่

ในวันนี้การที่เราไม่ออกไป  มีมวลชน  มีการเคลื่อนไหว  ขอให้พี่น้องคิดดูว่าถ้าวันนี้มีพี่น้องเราจำนวนหนึ่งหมายถึง นปช. ด้วย  ถ้าหากว่าเรามีการรวบรวมมวลชนที่มีลักษณะเผชิญหน้า  สถานการณ์ประเทศไทยจะตึงเครียดทันที  แล้วเท่ากับทำให้ราคาของมวลชนม็อบที่อยู่ที่สวนลุมพินีหรืออยู่ที่ตรงใต้ทางด่วนอุรุพงษ์ซึ่งอาจจะมีอยู่จำนวนไม่ได้มากมายเท่าไหร่  ถ้าหากเราไปตั้งไว้ด้วยก็จะทำให้มวลชนเหล่านี้มีราคาขึ้นมาอีกจำนวนมากใช่หรือเปล่าพี่น้อง  เพราะฉะนั้นการที่เราไม่ออกไปก็จะทำให้สังคมสามารถพิจารณาตรวจสอบตัดสินได้  ว่ามวลชนที่มาคัดค้านพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฉบับวรชัย  เหมะ  ซึ่งนำโดยพรรคประชาธิปัตย์นั้นเป็นอย่างไร?  ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรม  ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาในการพูด  และไม่ว่าจะเป็นจำนวนคนก็ตาม  เพราะฉะนั้น การที่เราไม่ออกไปก็ต้องถือว่าเราประสบความสำเร็จจำนวนหนึ่ง  ปรบมือให้กับพวกเราด้วย  เพราะฉะนั้นให้พี่น้องได้เรียนรู้ว่าบางครั้งความสำเร็จก็เกิดขึ้นจากการไม่ต้องทำอะไรก็ได้ค่ะ  เอาล่ะค่ะเราประสบความสำเร็จโดยที่เราอยู่เฉย ๆ  แล้วเราประสบความสำเร็จในเรื่องราวของการที่มีมวลชนระบอบอำมาตย์ออกมาแล้วเราอยู่เฉย ๆ  แต่ว่าขณะนี้มีเรื่องน่ายินดีและมีเรื่องที่เราต้องตอบโต้องค์กรระหว่างประเทศเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งซึ่งรับภาระหน้าที่มาชี้แจง

เมื่อวานนี้ อ.ธิดา ได้ไปรับฟังการไต่สวนอันเนื่องมาจากการชันสูตรพลิกศพ 6 ศพวัดปทุมวนาราม  ที่เราเรียกว่าคดี 6 ศพวัดปทุมฯ  ศาลได้ไต่สวนพยานต่าง ๆ และก็มีข้อสรุป  ขนาดข้อสรุปก็ยาว  ในข้อสรุปนี้ที่สำคัญก็ขอแจ้งพี่น้องซึ่งจำนวนหนึ่งคงได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์และดูโทรทัศน์ไปแล้ว  แต่นี่เป็นการสรุปในหมู่ประชาชน

ประการแรกเลยก็คือว่า  ผู้ตายทั้ง 6 ท่านมาจากอาวุธในฝั่งทหาร อันนี้เป็นข้อที่ 1 ที่สรุปทั้ง 6 ศพค่ะ  มาจากอาวุธฝั่งทหาร  ในประเด็นนี้  แทรกนิดหนึ่งก็คือว่ามีคนไปถามอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ ว่าศาลบอกว่าการตายเกิดขึ้นมาจากฝั่งทหารนี้อย่างไร  คุณอภิสิทธิ์ตอบว่า  ศาลบอกว่ามาจากฝั่งทหารแต่ไม่ได้บอกว่าทหารเป็นคนยิง (เสียงพี่น้องโห่) อันนี้คือวิธีพูด  นี่คือข้อที่ 1

ข้อที่ 2  ผู้ตายทั้งหมดนั้นไม่มีเขม่าดินปืน  หมายความว่าคนเหล่านี้เป็นผู้ไม่มีอาวุธ  ไม่ได้มีการต่อสู้ นี่คือข้อที่ 2  ศาลได้อธิบายเหตุผลมากว่าแม้นจะมีผลเรื่องเขม่าดินปืนต่างกัน  แต่ศาลเลือกจะเชื่อชุดที่ 1 ซึ่งได้ทำทันที

ข้อที่ 3  ชายชุดดำในบริเวณนี้  หรือการต่อสู้โดยมีการยิงจากประชาชนมายังฝั่งเจ้าหน้าที่นั้นไม่มี  ไม่มีชายชุดดำและไม่มีการยิงต่อสู้จากประชาชน  นี่คือข้อสรุปค่ะ  แม้จะมีคำให้การของทหารบางท่านบอกว่ามีการยิง  แต่ว่าก็มีความขัดแย้งเพราะว่าทหารอีกจำนวนหนึ่งชี้แจงว่าไม่มีคนยิงต่อสู้เขาก็เลยไม่ได้ยิงอะไรเลยซักนัด  แต่มีทหารบางส่วนนั้นบอกว่ามีการยิงต่อสู้   เพราะฉะนั้นที่ อ.ธิดา พูดนี้ก็คือข้อสรุปซึ่งอ่านได้ทั่วไปนะคะ

ข้อที่ 4 ข้อสำคัญ  อาวุธที่พบในวัดปทุมวนารามที่เอามาแสดงในวันหลัง  ศาลไม่เชื่อถือเพราะแม้แต่สุเทพ  เทือกสุบรรณและทหารได้บอกว่ามีด่านแข็งแรงทุกจุด  การมีด่านแข็งแรงมาตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม ทำให้ศาลเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการขนอาวุธมากขนาดนั้นเข้ามา  เพราะฉะนั้นนี่คือสาระสำคัญ   1. กระสุนปืนที่ใช้จากเจ้าหน้าที่รัฐ
                          2. ไม่มีเขม่าดินปืน
    3. อาวุธที่พบไม่ใช่  ไม่น่าเชื่อถือว่าเป็นอาวุธที่ผู้ชุมนุมสะสม
    4. ไม่มีชายชุดดำและไม่มีการยิงต่อสู้จากประชาชน

เพราะฉะนั้น  ในนามของประชาชนผู้ถูกกระทำ  เราก็ขอขอบพระคุณศาลสถิตยุติธรรมที่ทำให้เรามีความหวังว่า  ยังพอจะมีความยุติธรรมจำนวนหนึ่งอยู่ที่จะทำให้ประชาชนสามารถที่จะมีชีวิตและเดินหน้าต่อไปได้  ปรบมือให้กับศาลยุติธรรมด้วย

และจากอันนี้จึงนำมาสู่ซึ่งการต่อต้านในประเด็นอื่นนั้นเดี๋ยวจะให้ท่านจตุพรเป็นคนพูด  อ.ธิดา ขอพูดในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ คอป. และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ ฮิวแมนไรท์วอทช์และองค์กรสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ  และหลังจากนี้เราจะทำคำแถลงเป็นภาษาอังกฤษเพื่อคัดค้านความคิดเห็นที่ออกมา

แบรด อดัมส์ ฮิวแมนไรท์วอทช์ นั้นได้ออกคำแถลงและก็ทำให้โฆษกข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ คือ เซซิล พูอิลลี มีความกังวลกับพระราชบัญญัตินี้  แต่ว่าเนื้อหาของโฆษกข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนนั้น  ยังไม่ได้มีอะไรที่รุนแรง  เขาเพียงแต่มีความกังวลว่าหากผ่านกฎหมายจะทำให้ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการสลายการชุมนุมต้องพ้นจากความรับผิดชอบ  อันนี้เราก็เห็นด้วยกัน  และแนะนำรัฐบาลให้ทำตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบค้นหาความจริงคือ คอป.  ข้อนี้เรายังสงสัยและเราต้องการจะชี้แจงว่าท่านอาจจะเข้าใจผิดในบางอย่าง

ที่สำคัญก็คือ  เขาบอกว่าให้เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนเพื่อเป็นการวางรากฐานที่ดีในประเทศไทย  กล่าวได้ว่าข้อสรุปแล้วไม่ได้มีปัญหากับเราเพราะเขาเป็นกังวลกับผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนซึ่งเราก็เช่นกัน  เราก็ไม่ได้ต้องการให้เกิดขึ้น  แต่ปัญหาก็คือการทำตาม คอป. นั้นอาจจะมีปัญหา  แต่ที่อาจจะมีปัญหาในการแถลงก็คือองค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์  ซึ่งต้องขออภัยที่เอ่ยชื่อว่าอยากให้คุณสุนัย  ผาสุก ซึ่งเป็นตัวแทนฮิวแมนไรท์วอทช์ได้กรุณาติดตามข้อมูลโดยเฉพาะอย่างยิ่งคำไต่สวนและคำตัดสินที่ผู้พิพากษาได้ตัดสินในคดี 6 ศพ  เพื่อท่านจะได้เอามาดูว่าคำพูดของคณะกรรมการองค์กรอิสระ คอป. นั้น  ส่วนมากแล้วเกี่ยวข้องกับการปรักปรำเรื่องชายชุดดำและเรื่องการที่ นปช. มีกองกำลังอาวุธนั้น  เกือบทั้งหมดผิดทั้งสิ้น  ขอให้ท่านนำคำพิจารณา  คำตัดสินของศาลมาดูนะคะ

และที่สำคัญก็คือฮิวแมนไรท์วอทช์อ้างคำพูดของวรชัย  เหมะ ซึ่งเราไม่เห็นด้วยก็คือ  เขาเข้าใจผิดว่าร่างฯ นี้ คือมีข้อตำหนิว่า ทำไมไม่ระบุเกี่ยวข้องกับปัญหาการนิรโทษกรรมให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ  คือเขาเป็นกังวลในปัญหานี้  และนอกจากนั้นไม่พูดถึงเรื่องการเอาผิดทั้งเจ้าหน้าที่ทหารและนปช.  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาใช้คำว่ามีกลุ่มติดอาวุธชายชุดดำที่สร้างความรุนแรงและละเมิดสิทธิอย่างรุนแรง  เพราะฉะนั้นอยากจะให้พิจารณาว่า  องค์กรอิสระ คอป. พูดถึงเหตุการณ์ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัดปทุมวนารามอย่างไร  เมื่อพิจารณาคำพิพากษาของศาล  ของผู้พิพากษาจะเห็นได้ว่าแตกต่างกับข้อเสนอขององค์กรอิสระ คอป. โดยสิ้นเชิง

ในข้อเสนอขององค์กรนี้อ้างว่าเหตุการณ์วัดปทุมฯ ก่อนที่จะมีการยิงได้มีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารกับคนชุดดำ  แล้วก็มีการไล่ตามคนชุดดำมาจนถึงแยกเฉลิมเผ่า  นี่เป็นรายงาน คอป. นะ  แล้วอ้างว่าพบร่องรอยประจักษ์พยานว่ามีการยิงตอบโต้กันระหว่างชายชุดดำที่อยู่ใต้สกายวอล์คกับเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่บนสถานีรถไฟฟ้าสยาม  มีร่องรอยกระสุนปรากฏอยู่ทั้งสองส่วน  คือส่วนที่เจ้าหน้าที่อยู่แล้วก็ส่วนที่คนชุดดำอยู่  แล้วก็มีพยานหลักฐานว่า  คนชุดดำวิ่งเลียบกำแพงวัดปทุมวนารามในตอนเย็นวันนั้น

พี่น้องดูว่านี่แตกต่างกับคำพิพากษาของศาลโดยสิ้นเชิง  แสดงว่ารายงาน คอป. ส่วนหน้าวัดปทุมวนารามนี้เป็นเท็จทั้งสิ้นใช่หรือเปล่า?

แล้วในนี้ยังพูดถึงรอยกระสุนว่าน่าจะมีการยิงออกมาจากในวัด  และมีการ์ด นปช. ถืออาวุธอยู่ในวัด  แล้วก็มี  M16 กระบอกหนึ่งเป็นกระบอกเดียวกับที่ผู้ชุมนุมยึดไปจากทหารเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม  แล้วยังพูดถึงการเผาเซ็นทรัลเวิลด์  ในนี้ คอป. เขียนว่า ไฟได้ไหม้ไปจากห้าง ZEN เข้าไปในเซ็นทรัลเวิลด์ใช้คำพูดว่า ยังไม่ปรากฏมีเจ้าหน้าที่ทหารมาถึง  แต่มีผู้ชุมนุมอยู่บริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก  นี่ก็เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง  คำพิพากษาได้มีการยกฟ้อง พินิจ  จันทร์ณรงค์ และมีการยกฟ้อง สายชล  แพบัว  ซึ่งขณะนี้บวชอยู่  ชัดเจนว่าไม่ใช่ผู้ชุมนุมที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้  และเมื่อวานนี้ต้องขอบพระคุณอย่างยิ่งที่ศาลได้มีคำพิพากษามาว่าไม่มีการปะทะ  ไม่มีการยิงกัน  ไม่มีชายชุดดำ  ไม่มีอาวุธทิ้งเอาไว้  ของปลอมทั้งสิ้น  นี่เป็นคำพิพากษาของศาล  แต่ว่า คอป. ได้ทำให้สังคมส่วนหนึ่งเชื่อ  เพราะฉะนั้น  ในฐานะคุณสุนัย  ผาสุก เป็นตัวแทนฮิวแมนไรท์วอทช์ในประเทศไทย  และทั้งสองส่วนนี้ได้ดึงเอาญาติวีรชนไปจำนวนหนึ่งไปอธิบายว่าพระราชบัญญัติของวรชัย  เหมะ  จงใจที่จะให้ทหารไม่ต้องรับผิด  หมายความว่าไม่เขียนลงไปในประเด็นนิรโทษกรรมทหาร

ขอบอกอีกครั้งหนึ่ง  บอกไปยังฮิวแมนไรท์วอทช์  บอกไปยังสังคมไทย  และกระทั่งข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนว่า พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมของวรชัย  เหมะ ไม่ได้พูดถึงและไม่ได้มีการนิรโทษกรรมทหารหรือผู้ล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนแต่ประการใด  พระราชบัญญัติฉบับนี้นิรโทษกรรมให้กับประชาชนทุกสีเสื้อยกเว้นแกนนำผู้สั่งการ  เพราะว่าการเขียนกฎหมายในประเทศไทยถ้าคุณจะนิรโทษกรรมให้ใคร  ข้อ 1 ของประชาชนก็เขียน (2) เจ้าหน้าที่รัฐ  เขาต้องใช้คำว่าเจ้าหน้าที่รัฐ  การไม่เขียนแปลว่าไม่ได้นิรโทษกรรมให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ  เพราะด้วยเหตุผลที่สำคัญก็คือว่า  ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่รัฐนั้นได้รับการคุ้มครองโดยพระราชกำหนดฉุกเฉินอยู่แล้ว  และพระราชกำหนดฉุกเฉินได้เขียนไว้แล้วว่าเขาจะคุ้มครองคนที่ไม่ทำเกินกว่าเหตุ

เพราะฉะนั้น พระราชบัญญัติของวรชัย  เหมะ มุ่งนิรโทษประชาชนยกเว้นแกนนำ  อย่างอื่นไม่พูดถึงเลย  ไม่ได้เกี่ยวข้องว่าจงใจนิรโทษให้ใคร  เราจึงขอแจ้งมาอีกครั้งหนึ่งว่า  ในสังคมนี้การที่จะพูดกล่าวหาหรือการที่จะกล่าวโทษใครนั้น  ขอให้มีการตรวจสอบความจริงไว้ก่อน  และนี่เป็นตัวอย่างให้พี่น้องรากหญ้าให้เห็นว่า  องค์กรปัญญาชนในประเทศไทย  ต่างประเทศ  กระทั่งในระดับโลก  ไม่ได้หมายความว่าจะล้ำเลิศด้วยความรู้  เพราะว่าทั้งหมดนี้มันอยู่ที่ความจริงว่าเป็นอย่างไรค่ะ  ไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นองค์กรในระดับโลกแล้วคุณจะพูดถูกทุกอย่าง  เพราะวันนี้เราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเหตุการณ์วัดปทุมฯ และเซ็นทรัลเวิลด์นั้น คอป. องค์กรอิสระที่ตั้งในยุคของอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ .........มนุษยชนที่ไม่เท่าเทียมกันกับการฆ่าคนตายกลางถนนนั้นท่านได้ช่วยดูแลหรือเปล่า

เราเป็นคนเสื้อแดง  เราเป็นรากหญ้า  เราอาจจะไม่มีระดับของความได้รับการยอมรับบางส่วนในฐานะปัญญาชน  แต่เรามีเกียรติยศในฐานะที่มีความชอบธรรมและเป็นผู้ถูกกระทำ  เพราะฉะนั้นขอให้พี่น้องเรายืนได้อย่างองอาจสง่าผ่าเผย  เราพร้อมจะชี้แจงไม่ว่าคุณจะอยู่ในระดับไหนก็ตาม  เพราะเราเชื่อมั่นว่าเรายืนอยู่บนความเป็นจริงและเราพูดความจริงทุกคำเลยค่ะ  เพราะฉะนั้นเราก็จะทำคำชี้แจงเป็นภาษาอังกฤษนะคะ  ว่า พ.ร.บ. นี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการนิรโทษกรรมให้ทหาร และนปช. พร้อมที่จะให้ความร่วมมือการละเมิดสิทธิมนุษยชน การเอาคนผิดมาลงโทษ  แต่ว่าเราก็จำเป็นต้องช่วยคนเป็นที่ยังมีชีวิตอยู่  ที่ถูกดำเนินคดีเกือบสองพันคนด้วยค่ะ  เพราะว่าผู้ที่จะต้องได้รับการเมตตาจาก พระราชบัญญัติฉบับนี้  แน่นอนคนผิดต้องถูกนำมาลงโทษนั่นเป็นปณิธานของเรา  ถ้าเราชุบคนตายให้เป็นได้เราจะชุบ  แต่เมื่อคนตายฟื้นไม่ได้เราจำเป็นต้องช่วยคนเป็นที่ประสบชะตากรรมทั้งอยู่ในคุกและนอกคุกค่ะ

อันนี้ก็คิดว่าเราก็จะมีการชี้แจง  แล้วก็อยากให้พวกเราทั้งหลายที่สงสัยได้โปรดชัดเจนอีกครั้งหนึ่งว่าพระราชบัญญัตินี้มุ่งนิรโทษประชาชน  ยกเว้นแกนนำ  ส่วนผู้ที่เป็นผู้กระทำท่านก็มีการคุ้มครองแล้วระดับหนึ่ง  และใครที่ทำเกินกว่าเหตุอันนั้นอนาคต 20 ปียังไม่สายค่ะ สามารถฟ้องร้องได้ค่ะ