1 สิงหาคม 2556
สอดรับ ตรงกัน
สงสัยว่าทำไมแฟนๆ พรรคประชาธิปัตย์ถึงไม่ไปเรียกร้องเอากับพรรคประชาธิปัตย์ (ซึ่งมีผู้สนับสนุนลงคะแนนให้ถึง 12 ล้านคน และผู้บริหารพรรคไม่มีพันธนาการด้วยคำสั่งศาลใดๆ) ให้ออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเอาเองครับ
เป็นท่าทีจาก นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
อยากขอให้พรรคประชาธิปัตย์ประกาศตัวเป็นแกนนำชุมนุม ประกาศเป็นมติพรรคไปเลยว่า สมาชิกคนไหนตั้งใจจะออกมาเดินขบวนก็อนุมัติให้มา เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ว่าความขัดแย้งที่ผ่านมามีพรรคการเมืองใดอยู่เบื้องหลัง
เป็นท่าทีจาก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
หากประเมินจากท่าทีของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประสานกับท่าทีของ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย หรือแม้กระทั่ง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ
พูดตามสำนวนของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็ต้อง
มีความเข้มข้น เด็ดขาด ชัดเจน งานนี้เรียกว่าเปิดหน้าเล่น แตกเป็นแตก ตายเป็นตาย เตรียมนกหวีดเป่าทั้งพรรค
เพียงแต่ในความเห็นของ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ยังเสมอเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของ ส.ส.บางคน ยังมิได้เป็นมติของพรรคประชาธิปัตย์อย่างถูกต้อง สมบูรณ์
นั่นก็คือ รุนแรงแข็งกร้าวเฉพาะคำพูด แต่ยังไม่เป็นเรื่องของ พรรค ยังไม่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ โดยหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคหรือโฆษกพรรค
ยังเสมอเป็นเพียง อีแอบ
ความหงุดหงิดของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็น นายสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ว่าจะเป็น นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เพราะรู้สึกว่า
พรรคประชาธิปัตย์ยังเล่นบท อีแอบ
ในห้วงที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคลื่อนไหว พรรคประชาธิปัตย์ก็ช่วยเติมคนอย่างเงียบๆ
ส่ง ส.ส.บางคนไปปรากฏตัวในที่ชุมนุมให้กำลังใจ
และพอวันดีคืนร้ายเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล กลุ่มแรกที่ถูกถีบหัวส่งคือ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
แม้ถูกลอบยิงก็ยังไม่ลากตัว คนร้าย มา
สถานการณ์ในเดือนสิงหาคม 2556 พรรคประชาธิปัตย์แรงขึ้นแต่ก็แรงในบทของ อีแอบ
จึงมีน้ำเสียงมาจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงมีน้ำเสียงมาจากนปช.คนเสื้อแดง เรียกร้องให้ไสช้างออกมามากกว่านี้เลิกเล่นบท อีแอบ อย่างที่เคยแอบมาตลอด
สำเร็จหรือไม่อีกไม่นานคงได้เห็นกัน
