Facebook นพ.เหวง โตจิราการ
เรื่องสนธิลิ้มนั้น มีสองประเด็นครับ
ประเด็นแรก สนธิลิ้มบอกว่า ยินดีจับมือกับนปช.ถ้า นปช.ก้าวข้ามทักษิณ ถ้านปช.ไม่ก้าวล่วงสถาบัน
ข้อแรกนี้ ก่อนอื่น นปช.ให้ความเคารพสถาบันเช่นเดียวกับคนไทย 67 ล้านคน
ผู้เคารพสถาบันทุกคนต้องเทิดสถาบันไว้เหนือเกล้าเหนือเศียร ไม่มีผู้ใดกล้าบังอาจที่จะนำเอาสถาบันมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพียงเพื่อนำไปทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของตนเป็นอันขาด
ผู้ที่ทำเช่นนั้นเป็นผู้ที่ทำลายสถาบันอย่างแท้จริง เป็นผู้ที่ "ดึงฟ้าต่ำ" แล้วนี่ไม่ใช่สิ่งที่สนธิลิ้่มทำเป็นประจำดอกหรือ
นี่ไม่ใช่นิสัยสันดาน(ไม่ได้หยาบคายนะครับ สันดานให้ความหมายว่านิสัยที่ทำเป็นประจำจนไม่อาจแก้ไขได้หรือแก้ได้อย่างยากยิ่ง) ของสนธิลิ้มดอกหรือ
ดังนั้น การกล่าวเช่นนี้ เป็นการ "โยนสิ่งปฏิกูลให้ผู้อื่นของสนธิลิ้มตามนิสัยสันดานของเขาอีกครั้ง"
"ก้าวข้ามทักษิณ" สนธิลิ้มหมายความว่าอะไรครับ
หมายความว่าไม่ให้พวกเรา "ทวงความยุติธรรมคืนให้คุณทักษิณ"หรือเปล่า ถ้าเช่นนี้นั้น "ไม่มีทาง"
เพราะไม่เพียงแต่ "นายกทักษิณ"เท่านั้น แม้เพียงประชาชนทั่วไป ที่เป็นไพร่ทุกคน นปช.ก็ต้องทวงความเป็นธรรมคืนให้แก่ "ไพร่"ทุกคนทั้งสิ้น
นี่ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความอยุติธรรมโดยสิ้นเชิงจากการทำรัฐประหาร ใช้ปลายกระบอกปืนไล่ท่านออกจากสถานภาพที่ประชาชนมอบหมายให้ท่านด้วยความยินยอมพร้อมใจ และยัดเยียดความผิดทางอาญา ทางสังคม ทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ ทางวัฒนธรรมทุกอย่างให้ "ทักษิณ" จนเพ้อคลั่งไปสร้างเรื่องโกหกหลอกตนเองจนหลงเพ้อไปว่า มี "ระบอบทักษิณ"จริง แล้วยังคงจ้องล้ม"ระบอบทักษิณ"ต่อไป เช่นนี้
ในความหมายนี้ ในความหมายที่ว่า เราต้องทวงความยุติธรรมคืนให้แก่คนไทยทุกคน ไม่เว้่นแม้แต่ทักษิณ เราจะไม่ก้าวข้ามทักษิณแน่นอนครับ
แต่ถ้าอธิบายว่า ต่อสู้ทุกอย่างเพื่อทักษิณ ละก็ ไม่ใช่ครับ เราต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง(แน่นอนครับอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข)และต่อสู้เพื่อให้เกิดความยุติธรรมที่เที่ยงธรรม(ไม่ใช่สองมาตรฐาน ไม่ใช่หลายมาตรฐานเช่นที่เป็นอยู่) ถ้าในความหมายนี่ละก็ ใช่ครับ "การต่อสู้ของนปช.ไม่ใช่เป็นไปเพื่อทักษิณเพียงคนเดียว" และ "ไม่ใช่ การโค่นล้มระบอบทักษิณ แต่เป็นการโค่นล้มระบอบอำมาตยาธิปไตยหรือจะเรียกว่า อภิชนาธิปไตยก็ได้"
ประเด็นที่สองคือ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศยุติบทบาท แม้ว่าเราต้องยอมรับเพราะเป็นสิทธิโดยธรรมชาติ โดยชอบธรรมของพวกเขาที่จะยุติบทบาท เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะของพวกเขา
แต่พวกเขาก็ยังซ่อนหางไว้โดยกล่าวว่า เมื่อเวลาเหมาะสมพวกเขาก็จะออกมาอีก แม้ระหว่างนี้พวกเขาแต่ละคน โดยปัจเจกภาพก็สามารถจะไปร่วมเคลื่อนไหวตามแต่จะตัดสินใจเอง
โดยอ้างสองเหตุผลสำคัญในการยุติบทบาท
คือเงื่อนไขประกันตัวของศาลของแกนนำพันธมิตร และประชาธิปัตย์ไม่ยอมลาออกทั้งพรรคเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ของพวกเขา
ข้อแรก แสดงให้เห็นความขี้ขลาดตาขาวของพวกเขาอย่างชัดเจน แสดงว่าการต่อสู้ของพวกเขามีประโยชน์แฝงเร้น เพราะหากว่า พวกเขาต้องสูญเสียหรือต้องลงทุนมากกว่าผลประโยชน์ที่พวกเขาได้รับ
เมื่อดีดลูกคิดรางแก้วแล้วขาดทุนพวกเขาก็จะไม่ยอมทำ
ข้อต่อมา ที่พวกเขาเรียกร้องให้ปชป.ลาออกจากสส.ทั้งพรรค ข้อเรียกร้องนี้ เหลวไหลสิ้นเชิง ไม่มีเหตุผลเลย และฟ้องอยู่ในตัวว่า นี่เป็นเพียงการหาเหตุเพื่อยกเลิกชัดๆ
การเรียกร้องให้ นักเลือกตั้งปชป.ลาออกทั้่งพรรค ไม่ต่างอะไรกับการเรียกร้องให้
"ไก่ออกลูกเป็นตัว และสุนัขออกลูกเป็นไข่ "ยังไงอย่างนั้นเลยทีเดียวครับ
นอกจากนี้ทัศนะทั้งหมดของพวกเขา ที่ตอกย้ำในแถลงการณ์ฉบับสุดท้าย ฉบับที่5/2556ก็ยังเต็มไปด้วยจุดยืนทางการเมืองที่จะ "โค่นล้มระบอบทักษิณ โค่นล้มระบอบเสียงข้างมากที่มาจากการเลือกตั้ง"
ซึ่งเท่ากับตอกย้ำ การดูถูกเหยียด หยามประชาชน แบ่งแยกประเทศไทย เป็นสองขั้ว ขั้วหนึ่งคือขั้วพวกเขา ที่ผูกขาดความถูกต้อง ผูกขาดอำนาจในการตัดสินใจวินิจฉัยทุกเรื่องของประเทศไทย ผูกขาดอำนาจในการปกครองบัญชาการไว้ในอุ้งมือพวกเขา ในอีกขั้วหนึ่ง เขาต้อนประชาชนไทยทั้งหมดไปเข้า
"คอกฝ่ายเสียงข้างมาก"ว่า โง่ ว่าชั่ว ว่าผิด ดังนั้น อะไรก็ตามที่ "เป็นเผด็จการเลือกตั้งมาจากเสียงข้างมาก"พวกเขาปฎิเสธ และพวกเขาต่อต้านพวกเขาโค่นล้มทั้งสิ้น แล้วนี่เราจะไป "ร่วมสังฆกรรมกับเขาได้อย่างไร"
นอกจากนี้ในแถลงการณ์ของพธม.ยังแสดงการดูถูกประชาชนเอาไว้อย่างเลวทรามโดยกล่าวอ้างว่า ประชาชนยังไม่มีความตื่นรู้เพียงพอ พวกเขาจะรอจนกว่าประชาชนตื่นรู้เพียงพอ ก็จะมานำประชาชน อีก
ดูซิครับว่า ทัศนะดูถูกดูหมิ่นประชาชนอย่างเลวทรามร้ายแรงของพวกเขาเช่นนี้ พวกเราจะไปจับมือร่วมกับพวกเขาได้หรือครับ
อันที่จริงพวกเราไม่ใช่พวกที่ "หลับหูหลับตาต่อสู้" ไม่ยอมรับไมตรีของคนอื่น ไม่ต้องการการปรองดองสมานฉันท์แต่อย่างไร
เราต้อนรับ ทุกคนที่เคารพ และจริงใจ ในหลักการ "อำนาจสูงสุดของประเทศนี้เป็นของราษฎรทั้งหลาย และประชาชนไทยทุกคนเกิดมาต่างเท่าเทียมกันครับ" ใครที่ยอมรับและปฎิบัติตาม "หลักการ" ดังกล่าว เราพร้อมเป็นมิตร ปรองดอง สมานฉันท์ด้วยทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่นายสนธิลิ้่มทองกุล
ถ้าหากนายสนธิลิ้มทองกุล แสดงออกอย่างชัดเจนว่า นิยมชมชอบ เคารพและปฎิบัติตามหลักการ
"อำนาจสูงสุดของประเทศนี้เป็นของราษฎรทั้งหลาย และประชาชนไทยทุกคนเกิดมาต่างเท่าเทียมกัน" อย่างจริงจัง เราก็พร้อมที่จะจับมือกันเพื่อเดินไปบนเส้นทางที่สร้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขโดยที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนไทยอย่างแท้จริง แต่หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว อย่าหวังเลยว่า นปช.จะจับมือร่วมสังฆกรรมด้วยครับ
นพ.เหวง โตจิราการ
28สค56 8.00น.