9 สิงหาคม 2556
กล่าวสำหรับม็อบจาก “เวทีผ่าความจริง” ยังต้องรอติดตามต่อไปเมื่อร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมผ่านวาระ 3 เพราะนั่นคือเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์จะเป่านกหวีดอีกครั้ง
ขณะที่ม็อบ “กองทัพประชาชน” พอจะอ่านออกได้แล้ว
อ่านออกได้แล้วว่าชะตากรรมไม่น่าจะแตกต่างไปจากม็อบ “แช่แข็ง ภาค 1” ขององค์การพิทักษ์สยาม เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555
นั่นก็คือ ไปต่ออีกไม่ได้ หรือถึงพยายามก็ลำบาก
ลำบากเหมือนที่ นายไชยวัฒน์ สิงสุวงศ์ และ นายสมบูรณ์ ทองบุราณ พยายามเข็นม็อบดาวแดงที่ท้องสนามหลวง
นั่นก็คือ เริ่มจากเดือนพฤษภาคมแต่ก็ต้องยุติในเดือนกรกฎาคม
จากการวิเคราะห์ของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ระบุว่าเป็นเพราะขาดท่อน้ำเลี้ยง จึงไม่สามารถเลี้ยงและขยายปริมาณของม็อบได้
“ท่อน้ำเลี้ยง” จึงทรงความหมาย
ถึงแม้ว่า “ท่อน้ำเลี้ยง” จะทรงความหมาย แต่ก็ต้องยอมรับว่าองค์ประกอบอันก่อรูปขึ้นเป็นแกนนำของ “กองทัพประชาชน” ก็มีความสำคัญ
น่าเชื่อถือ น่าศรัทธาหรือไม่
หากน่าเชื่อถือก็จะมีการต่อ “ท่อน้ำเลี้ยง” เข้ามาอย่างไม่ขาดสาย หากน่าศรัทธาก็จะเป็นเหมือนแท่งแม่เหล็กดูดดึงให้ “มวลชน” เข้ามาร่วมอย่างคึกคัก
น่าเสียใจ “กองทัพประชาชน” ไม่ขลัง
คนอย่าง พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ ขาดเสน่ห์ คนอย่าง พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ไม่ชวนให้เข้าใกล้ คนอย่าง พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี ชวนให้น่าสงสัย คนอย่าง นายไทกร พลสุวรรณ เมื่อมองย้อนไปยังอดีตยิ่งทำให้คลางแคลงใจ
จึงระดมได้เพียง “เรือนพัน”
ยิ่งกว่านั้น หากประเมินจากชื่อของม็อบที่เรียกตนว่า “กองทัพประชาชน โค่นระบอบทักษิณ” ยิ่งชวนให้สงสัยว่าเป้าหมายคืออะไรกันแน่
เพราะ พล.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอริเรตส์
รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ใช่ว่าจะลอยมาจาก “ค่ายทหาร” เหมือนบางรัฐบาลที่ชุบมือเปิบเมื่อเดือนธันวาคม 2551
หากแต่มาจากกระบวนการ “เลือกตั้ง” ของประชาชน
หากแต่มาจากเสียงสนับสนุนอย่างอบอุ่นของพรรคชาติไทยพัฒนา ของพรรคชาติพัฒนาของพรรคพลังชน อันกระจายกันอยู่ในขอบเขตทั่วประเทศ
แล้วม็อบ “เรือนพัน” นี่หรือจะ “โค่น”
จากนี้จึงเด่นชัดยิ่งว่า “กองทัพประชาชน” เคลื่อนไม่ออกอย่างแน่นอน เลี้ยงอย่างไรก็ไม่โตกว่านี้
ที่ต้องจับตาต่อไปก็คือม็อบจากเวที “ผ่าความจริง” ของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะให้ฤกษ์เดินลงท้องถนน ทำตัวเหมือน “ม็อบแช่แข็ง” ทำตัวเหมือนม็อบ “พันธมิตร”
เป็นสงครามครั้งสุดท้าย “ประชาธิปัตย์”