โรคเกลียดชาวบ้าน โดย ฐากูร บุนปาน


15 สิงหาคม 2556

คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 (ที่มา:มติชนรายวัน 14 สิงหาคม 2556)

เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม 2554 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เคยเกือบจะเผยแพร่รายงานสรุปเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของประชาชนเมื่อปี 2553 มาครั้งหนึ่งแล้ว

ติดอยู่ตรงที่ว่าเมื่อรายงานบางส่วน "รั่ว"Ž ออกมาก่อน และคนจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นรายงานที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนชนิดหน้ามือเป็นหลังอวัยวะที่ใช้เดิน

กสม.จึงชะงักการเผยแพร่รายงานดังกล่าว

แล้วอ้างว่าเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ นายชูชัย ศุภวงศ์ อดีตเลขาธิการ รวบรวมไว้ ยังไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการไปนั่น

สองปีผ่านไป รายงานที่ว่าก็ปรากฏสู่สายตาประชาชน

ผ่านกรรมการมาแล้ว แบบที่แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในเนื้อหาสาระสำคัญ

นั่นคือ 1.ไม่เคารพข้อเท็จจริง 2.แสดงจุดยืนทางการเมืองที่เอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งอย่างชัดเจน

และ 3.ไม่ยึดมั่นในหลักการสิทธิมนุษยชนตามชื่อองค์กรและภารกิจหลักที่จะต้องปฏิบัติ

การออกมาแถลงชี้แจงของ นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธาน กสม. นอกจากไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นแล้ว ยังทำ กสม. จมดินลึกลงไปกว่าเก่า

เอาเรื่องเล็กมาเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ได้จับประเด็นหลักว่าชีวิตเลือดเนื้อของคนมีค่ากว่าอย่างอื่นทั้งหมด

ไม่น่าแปลกใจที่จะมีคนแห่ออกมาเรียกร้องให้ กสม. ทั้งคณะลาออกไปเสีย

อย่าสร้างหายนะให้กับสังคมต่อไปเลย

อย่าอยู่เป็นพาหะเผยแพร่ โรคเกลียดชาวบ้านŽ ให้แพร่กระจายยิ่งไปกว่านี้เลย

ลำพังแค่มีนักการเมืองกลุ่มหนึ่ง หรือสาวกสุดขั้วสุดปลาย

ที่พร้อมจะงัดวาทะประเภทเผาบ้านเผาเมือง ชายชุดดำ โชคร้ายที่มีบางคนตาย ม็อบผู้ดี-ม็อบไพร่ ฯลฯ มาใช้เมื่อจวนตัว (ทั้งที่เรื่องส่วนใหญ่ มีคำพิพากษา-คำวินิจฉัยของศาลออกมาแล้วว่าไม่มีมูลความจริง)

คนในสังคมนี้ก็ถูกปลุกปั่นให้เกลียดชังกันมากพออยู่แล้ว

โดยไม่ต้องมี กสม. หรือรายงานที่ไร้ความรับผิดชอบ-ขาดจริยธรม เข้ามาซ้ำเติม

ที่แย่กว่าคนอื่นๆ เขาก็คือ โดยภาระหน้าที่ กสม. จะต้องสนับสนุนให้เกิดความยุติธรรม ความเสมอภาคเท่าเทียมกันขึ้นในสังคม

ไม่ทำหน้าที่ก็ว่าแย่อยู่แล้ว ทำตรงกันข้ามยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

แต่ทำไปโดยไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ไม่รู้ว่าที่ทำไปนั้นถูกหรือผิดนั้นแย่ที่สุด

ถ้ามีอคติบังตา ถึงขนาดมองไม่เห็นความจริงตรงๆ ง่ายๆ ที่อยู่ข้างหน้า ไม่เห็นแม้กระทั่งศพ น้ำตา ความโศกเศร้าของผู้สูญเสีย และบาดแผลของสังคมที่ตามมา

แล้วยังแสดงออกเหมือนรังเกียจและเกลียดชังชาวบ้านอย่างออกหน้าออกตา

ออกมาเล่นการเมืองตรงๆ เลยดีกว่าครับ อย่าเป็นอีแอบอยู่เลย

จะมาเข้ากับ "พรรคเกลียดชาวบ้าน"Ž ที่ท่านรักเอ็นดูหนักหนาไปเลยก็ได้

สมกันดี