26 สิงหาคม 2556
นี่นับเป็นการสร้างความแข็งแรงทางโครงสร้างการรวมตัวของประชาชนในระดับพื้นฐาน เพราะต้องมีการเลือกตั้งกรรมการ และให้ประชาชนเป็นผู้กำหนดโครงการว่าต้องการอะไรมาเพิ่มคุณภาพชีวิตของตนเอง นอกจากนี้ผมก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า รัฐบาลปูยังมีโครงการ "พัฒนาเมือง"คล้ายกับ SML เพียงแต่ต้องมี จำนวนครัวเรือนตั้งแต่ 100 ครัวเรือนขึ้นไปเท่านั้น และให้ตั้งกรรมการร่วม และประชุมตกลงโครงการร่วม
อันนี้แหละที่ทำให้รากฐานประชาธิปไตยแข็งแกร่ง ประชาธิปัตย์หลับหูหลับตาโจมตีรัฐบาลนี้ หาว่าเป็น "เผด็จการเสียงข้างมาก"ทั้งที่ปชป.เองไม่เคยคิดอะไรสร้างสรรค์แบบนี้เลย
ผมก็เลยแลกเปลี่ยนความเห็นกับพี่น้องในสวนหลวง ทั้งที่รู้ว่า พื้นที่นี้ปชป.เขาแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่มีปัญหา เพราะประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง เราควรชี้แจงในประเด็นที่เราเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและต่อประเทศ
ผมก็เลย นำเสนอหลายประเด็นแต่ขอ เล่าให้เพื่อนๆทราบเพียงสองประเด็นนะครับ
1.ผมตั้งคำถามกับประชาชนในเขตสวนหลวงว่า ตลอดเวลา68ปีนับตั้งแต่ตั้งพรรคมาปชป.เคยมีนวัตกรรมทางความคิดสร้างสรรค์อะไรบ้างที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและประชาชนไทยแม้เพียงสักหนึ่งเรื่อง ไม่มีเลยครับ
นอกจากการรับใช้คณะรัฐประหารชุดต่างๆ ตั้งแต่ต้นเลยครับ ควงอภัยวงศ์รับใช้รัฐประหาร จอมพลผิน-จอมพลปอ. ตลอดมาจนยุคอภิสิทธิ์เวชชาชีวะที่ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร นั่นก็เป็นการรับใช้พวกทหารรัฐประหารเช่นกัน
เมื่อเปรียบเทียบกับ ยุคทักษิณ หรือยุคยิ่งลักษณ์แล้ว มีนวัตกรรมมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน อย่างเรื่องยาง ไม่ใช่ทักษิณหรือที่ทำให้ราคายางพุ่งเป็น100จาก13บาท ผมบอกประชาชนว่าผมเองมีสวนยาง40ไร่(ตอนนี้ขายไปแล้ว)ที่ภาคใต้สมัยชวน ราคาเหลือ13บาท ชวนบอกให้ตัดทิ้งให้หมดแล้วปลูกจำปาดะ แล้วไปไงครับ ขาดทุนยับเยิน พอหลังนั้น5-6ปี ทักษิณมา ราคาพุ่งไป 100 บาท ได้แต่เสียดายเพราะ ขายไปหมดแล้ว แล้วตอนนี้่ราคาตกเพราะตลาดโลก ทำไมต้องปลุกปั่นให้มาปิดถนน แม้ว่าการชุนนุมประท้วงจะเป็นสิทธิ์พื้นฐานที่ผมเคารพก็ตาม
2.สมัยอภิสิทธิ์และสมัยสุรยุทธจุฬานนท์พยายามทำลายโครงการดีๆของทักษิณแต่ไม่สำเร็จ พอมาขโมยลอกแบบเอาไปใช้ ก็ทำลายรากฐานที่ถูกต้องเสีย สมัยอภิสิทธิ์ทำโครงการไทยเข้มแข็ง ชุมชนพอเพียงก็คือขโมยลอกSMLนี่แหละไปใช้แต่กลายเป็นว่าเอาไปเป็นการหาเงินใส่กระเป๋าปชป. โดยบังคับให้ชาวบ้านเลือกเอารายการที่พวกเขาพิมพ์ใส่กระดาษมาแล้วว่า ต้องซื้อสินค้าอย่างนี้ๆจากบริษัทนี้ๆที่พวกเขาพิมม์ใส่กระดาษมา หาไม่แล้ว ก็จะยึดเงินกลับคืนคลัง
ก็ให้ประชาชนเลือกเอาระหว่าง พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ก็แล้วกันว่า ใครจะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประเทศและประชาชนได้ดีกว่า กัน
ผมดีใจมาก ทุกคนตั้งใจฟังครับ ไม่มีใครแสดงความไม่เห็นด้วยหรือไม่พอใจเลย และไม่มีใครตอบโต้อย่างไรเลย ทั้งที่ผมเดาว่าบางคนคงเป็นหัวคะแนนประชาธิปัตย์ครับ เขาอาจจะรักษามารยาทก็เป็นได้ครับ
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า วันข้างหน้าผมจะได้มีไปพูดให้ประชาชนในเขตของประชาธิปัตย์ได้ฟังบ้าง เชื่อว่าน่าจะทำให้ประชาชนเหล่านั้นได้ข้อมูลอีกด้านเพื่อเอาไปพิจารณาครับ
นพ.เหวง โตจิราการ 26สค56 8.35 น.
