ยัน2ศพแดง ลูกปืนฝั่งจนท.

ข่าวสด
2 สิงหาคม 2556

ไต่สวนตร.พยาน ชี้กระสุนเร็วสูง

ศาล ไต่สวนชันสูตรพลิกศพ 2 ผู้ชุมนุมเสื้อแดง"จรูญ-สยาม" หาสาเหตุการตายในคืน 10 เม.ย.53 หน้าร.ร.สตรีวิทยา ตร.พิสูจน์หลักฐานระบุพบเศษกระสุนปืน .223 ใช้กับปืนเอ็ม 16 เอชเค ทาโวร์ ผลตรวจจุดเกิดเหตุพบรอยกระสุนปืน 108 รอย มีวิถีมาจากสะพานวันชาติ จุดเจ้าหน้าที่ประจำการ สูงระดับเอวถึงหน้าอก ไม่พบรอยกระสุนที่ยิงมาจากฝั่งผู้ชุมนุม ด้านนิติเวชฯ ก็ยืนยันทั้ง 2 ศพ ตายด้วยกระสุนปืนความเร็วสูง

วันเดียวกัน ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลไต่สวนชันสูตรพลิกศพ คดีที่พนักงานอัยการ สำนักอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนการเสียชีวิตของนายจรูญ ฉายแม้น ผู้ตายที่ 1 และนายสยาม วัฒนนุกูล ผู้ตายที่ 2 โดยถูกยิงเสียชีวิตหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ถนนดินสอ ในเหตุการณ์สลายม็อบแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 และในวันนี้ อัยการนำพยานเข้าเบิกความจำนวน 3 ปาก

พ.ต.อ.พิภพ ไกรวัฒนพงศ์ นวท. (สบ 4) กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เบิกความโดยสรุปว่ามีหน้าที่ตรวจพิสูจน์อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2553 ได้รับของกลางจากสถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเศษกระสุนจากผู้เสียชีวิต 7 ศพ รวมทั้งนายจรูญ และนายสยาม ด้วย สำหรับของกลางที่ได้จากศพนายจรูญมี 3 รายการ คือ เศษกระสุนตะกั่วหุ้มทองแดง ขนาด .223 (5.56 ม.ม.) 1 ชิ้น ยิงจากอาวุธปืนที่มีขนาด .223 มีร่องเกลียว 6 ร่อง เกลียววนขวา เศษตะกั่วและเหล็กอีกอย่างละ 1 ชิ้น แต่รอยสันเกลียวไม่ชัดเจน จึงไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้ ส่วนของกลางที่ได้จากศพนายสยามเป็นเศษตะกั่ว 1 ชิ้น

จากนั้นพนักงานอัยการถามพยานว่า เศษกระสุนขนาด .223 ใช้กับอาวุธปืนชนิดใดบ้าง พยานเบิกความว่าใช้ได้หลายชนิด เช่น เอ็ม 16 เอชเค ทาโวร์ แต่จะยิงจากปืนชนิดใดนั้นพยานไม่ทราบ และหากมีอาวุธปืนให้ตรวจเทียบ ก็ต้องดูว่ามีตำหนิเพียงพอให้ตรวจ หรือไม่

ส่วน พ.ต.อ.นพสิทธิ์ อัครนพหงส์ นวท. (สบ 3) กลุ่มงานตรวจอาวุธปืนและเครื่องกระสุน กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เบิกความโดยสรุปว่า มีหน้าที่ตรวจอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน เขม่าดินปืนและวิถีกระสุน เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 ได้รับแจ้งจาก สน.นางเลิ้ง ให้เข้าตรวจวิถีกระสุนที่ถนนดินสอ ตั้งแต่ช่วงแยกสะพานวันชาติจนถึงบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุมกลุ่มนปช. จึงยังไม่สามารถเข้าไปในที่เกิดเหตุในวันดังกล่าวได้

พยาน เบิกความว่า จากนั้นวันที่ 12 เม.ย. จึงเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุ ขณะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ยังมีผู้ชุมนุมอยู่ในพื้นที่ พยานถามตำรวจในสถานที่เกิดเหตุว่าพบรอยกระสุนที่ใดบ้าง และในการตรวจจะดูว่ารอยที่พบเป็นรอยกระสุนปืนหรือไม่ ต้องใช้น้ำยาเคมีในการตรวจ หากทำไม่ได้ต้องดูจากรอยว่าเป็นรอยกระสุนหรือไม่ ต้องใช้ประสบการณ์ในการตรวจ หากตรวจพบว่าเป็นรอยกระสุน จึงจะตรวจต่อไปว่ายิงมาจากทิศทางใด ในคดีนี้ตรวจพบทั้งหมด 120 รอย มี 108 รอยที่ยืนยันได้ว่ามีวิถีกระสุนมาจากด้านสะพานวันชาติ, 6 รอย ระบุวิถีกระสุนไม่ได้ และอีก 6 รอย ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นรอยกระสุนหรือไม่ สำหรับรอยกระสุนทั้ง 108 รอย มีทิศทางการยิงเป็นมุมเงย แต่ไม่สามารถระบุชนิดและขนาดกระสุนได้ เพราะไม่พบหัวกระสุน ตกอยู่

จากนั้นทนายความญาติผู้ตายถาม พยานว่า รอยกระสุนที่พบนั้น พบตามเสาไฟฟ้า ต้นไม้ รั้ว รถยนต์ และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยใช่หรือไม่ พยานเบิกความว่าใช่ ทนายความญาติผู้ตายถามต่อว่า รอยที่พบมีความสูงตั้งแต่ระดับขา เอว และหน้าอกใช่หรือไม่ พยานเบิกความว่าใช่ ทนายความญาติผู้ตายถามอีกว่า พบรอยกระสุนที่ยิงมาจากฝั่งผู้ชุมนุมหรือไม่ พยานเบิกความว่า ไม่พบรอยกระสุนที่ยิงมาจากฝั่งผู้ชุมนุม

ต่อมา พล.ต.ต.พรชัย สุธีรกุล ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา ร.พ.ตำรวจ เบิกความโดยสรุปว่าเมื่อวันที่ 11 เม.ย.2553 พนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 ส่งศพนายจรูญ และนายสยาม มาให้สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อตรวจหาสาเหตุการตาย พยานตรวจศพในวันที่ 12 เม.ย.2553 จากการตรวจศพนายจรูญพบบาดแผลทางเข้าของกระสุนที่ทรวงอกด้านขวา ทะลุซี่โครง ปอด ตับ และพบเศษคล้ายหัวกระสุนที่กระดูกไขสันหลัง บาดแผลมีทิศทางเฉียงจากบนลงล่างเล็กน้อย ขวาไปซ้าย สาเหตุการตายเกิดจากถูกกระสุนปืนความเร็วสูงเข้าทรวงอกด้านขวา ทำลายปอดและตับ

จากนั้นพนักงานอัยการถามพยานว่า ทราบได้อย่างไรว่าเป็นกระสุนปืนความเร็วสูง พยานเบิกความว่าดูจากลักษณะการแตกของเศษวัสดุกลุ่มโลหะในอวัยวะภายใน แต่จะเป็นกระสุนปืนชนิดและขนาดใด ต้องถาม ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืน ส่วนการตรวจศพนายสยาม พบบาดแผลทางเข้าของกระสุนปืนที่สะบักขวา ทะลุซี่โครงขวา ปอด และตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ในช่องอก พบเศษโลหะอยู่ในตัว แต่ไม่ทราบว่าเป็นเศษกระสุนปืนชนิดและขนาดใด สำหรับสาเหตุการตายเกิดจากกระสุนปืนความเร็วสูง ทำลายปอดและเส้นเลือดแดงใหญ่ในช่องอก ทิศทางจากขวาไปซ้าย ล่างขึ้นบนเล็กน้อย จากนั้นนำเศษโลหะส่งให้กองพิสูจน์หลักฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการไต่สวนเสร็จสิ้น ศาลนัดไต่สวนครั้งต่อไป วันที่ 2 ส.ค. เวลา 09.00 น.

(กรอบบ่าย)