คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 "ยังเกาอยู่ที่เดิม" โดย นฤตย์ เสกธีระ :

มติชน
21 สิงหาคม 2556
การเคลื่อนไหวทางการเมืองล่าสุด พรรคประชาธิปัตย์ไปติดต่อกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแล้ว

นัยว่าจะร่วมมือกันเปิดแนวรบนอกสภาทำนองนั้น

ขณะที่ทางกลุ่มพันธมิตรเองก็มุ่งมั่นว่าหากทุกอย่างลงตัว อาจดีเดย์เข้าร่วม..ขับไล่รัฐบาล

แต่ปัญหายังคงเป็นโจทย์เดิม และเป็นโจทย์เดิมที่ยากขึ้น

โจทย์เดิมนั่นคือ เมื่อโค่นทักษิณแล้วจะก้าวขึ้นสู่อำนาจได้อย่างไร?

โจทย์ข้อนี้ พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มพันธมิตรเคยตอบมาแล้วหลายครั้ง

เริ่มแรก คือ ปลุกมวลชนขับไล่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ พอ พ.ต.ท.ทักษิณประกาศยุบสภา พรรคประชาธิปัตย์ก็ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมด้วยการปฏิเสธการลงเลือกตั้ง

หลังจากนั้นบ้านเมืองไม่มีทางออก เกิดมวลชนชุมนุมประท้วง สุดท้ายทหารออกมาปฏิวัติ

หลังจากนั้นก็คาดหวังว่า รัฐบาลแห่งความดีจะเอาชนะ พ.ต.ท. ทักษิณได้

บรรดาแนวร่วม พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นว่าเล่น ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณเองเข้าประเทศไม่ได้ เพราะต้องคดี

พอปี 2550 ประเทศไทยจัดการเลือกตั้ง ปรากฏว่า พลังประชาชนที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณได้เป็นรัฐบาล

นี่ย่อมแสดงว่า การปฏิวัติรัฐประหาร ไม่สามารถเปลี่ยนใจคนไทยส่วนใหญ่ได้

เมื่อคณะรัฐประหารทำไม่สำเร็จ กลไกทางการเมืองและราชการประจำก็ดำเนินการ

หลังจาก นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกฯ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีก และเผชิญหน้ากับกลุ่มพันธมิตรอย่างสาหัส

สุดท้ายนายสมชายก็พ้นจากตำแหน่งนายกฯ และเกิดสูตรจัดตั้งรัฐบาลใหม่

คราวนี้พรรคประชาธิปัตย์ โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี

นโยบายรัฐบาลประชาธิปัตย์ยึดแนวประชานิยมเข้าสู้ มีโครงการไทยเข้มแข็ง มีโครงการป่าชุมชน โครงการรักษาฟรี มีการจ่ายเงินเดือนให้อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน ฯลฯ

ปี 2553 เกิดการปราบปราม ประเทศจลาจล มีคนตายกลางเมือง คนเจ็บเยอะแยะ

ตอนนั้นมีวาทกรรมหลากหลาย ทั้งเผาบ้านเผาเมือง ทั้งฆาตกร โจมตีกันแหลก

ปี 2554 มีการเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้งวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทย ที่สนับสนุนแนวทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้รับเลือกตั้งอีก

นี่หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยถูกกดดันมากๆ เข้า หรือองค์กรอิสระมีคำวินิจฉัยที่เป็นโทษต่อรัฐบาล

รัฐบาลก็เตรียมยุบสภา เพราะมั่นใจว่า คำตอบสุดท้ายที่ประชาชนจะเลือกคือพรรคเพื่อไทย

เห็นไหมว่า ที่ผ่านมาฝ่ายต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ทำได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น คือ ทำลายรัฐบาลเดิม แต่ไม่สามารถสร้างรัฐบาลใหม่ขึ้นมาได้

เพราะรัฐบาลใหม่ในยุคนี้ต้องมาจากการเลือกตั้ง คือ ประชาชนส่วนใหญ่เลือก

แต่ที่ผ่านมา ฝ่ายต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่สามารถเอาชนะใจประชาชนส่วนใหญ่ได้ บทสรุปสุดท้ายของการต่อสู้จึงแพ้

นั่นคือ แพ้การเลือกตั้ง

แม้จะปฏิวัติ แม้จะพลิกขั้วในสภา แต่พอคืนอำนาจให้ประชาชน

คนส่วนใหญ่ก็เลือกเพื่อไทย

นี่แสดงว่า วิธีการที่ฝ่ายต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ดำเนินการกันอยู่ทั้งในสภาและนอกสภานั้น มีปัญหา

และถ้าวิธีที่ดำเนินการอยู่ ไม่สามารถเอาชนะใจประชาชนได้ แม้จะโค่นรัฐบาลได้ ก็ไร้ประโยชน์

เพราะเสียงส่วนใหญ่ยังเลือกพรรคเพื่อไทย

ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตรจึงต้องทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เปลี่ยนใจ

หากทำได้ก็เท่ากับตอบโจทย์ได้ถูกจุด...เกาได้ถูกที่คัน

แต่ทุกวันนี้ที่แลเห็น...ยังเกาอยู่ที่เดิม