เหยือปืนแห่ดู ส่งฟ้องมาร์ค "ผบ.พัน"ให้การ ไต่สวนศพแดง

ข่าวสด 25 มิถุนายน 2556




พี่ชายพัน คำกอง กับลุงสมร ขับรถตู้ เหยื่อปืนพ.ค.53 ขอร่วมไปสังเกตการณ์วันที่ 26 มิ.ย. นี้ l ฟ้องมาร์คดีเอสไอนำตัว "มาร์ค-เทือก" ส่งฟ้องต่ออัยการ ในคดีร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตาย และพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล "ลุงสมร" ที่ถูกจนท.ยิงสาหัส ลั่นหากมีโอกาสเจอหน้าทั้ง 2 คนก็จะถามถึงความรู้สึกด้วย ส่วนศาลอาญาไต่สวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของ "ถวิล คำมูล" ผู้ชุมนุมนปช. ถูกยิงตายบริเวณแยกสารสิน เมื่อ 19 พ.ค. มีนายทหารระดับ "พันเอก" และ "พันโท" ขึ้นเบิกความ

จากกรณีพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะนำตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีตผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการคดีพิเศษ ฐานตกเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล และร่วมกันก่อให้ผู้อื่นพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล สืบเนื่องจากกรณีเจ้าหน้าที่ยิงนายพัน คำกอง ด.ช.คุณากร หรือน้องอีซา ศรีสุวรรณ เสียชีวิต และยิงนายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ในเหตุการณ์กระชับพื้นที่เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2553 ที่บริเวณถนนราชปรารภ กทม. ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปตามลำดับแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นายผัน คำกอง พี่ชายนายพัน คำกอง กล่าวว่า มีความเชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่ ดีเอสไอยื่นฟ้องต่ออัยการในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ เพื่อดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ โดยเฉพาะคดีการเสียชีวิตของนายพัน น้องชายนั้น มีความชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่เป็นผู้กระทำ ตามที่ศาลมีคำสั่งผลไต่สวนชันสูตรพลิกศพ และหากในวันที่ 26 มิ.ย. ที่ดีเอสไอนำตัวนายอภิสิทธิ์และนายพส่งฟ้องต่ออัยการแล้วตนไม่ติดธุระอะไรก็จะเดินทางไปที่สำนักงานอัยการ คดีพิเศษด้วย

ส่วนนายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ กล่าวว่า ในวันที่ 26 มิ.ย. จะเดินทางไปสำนักงานอัยการคดีพิเศษ เพื่อร่วมสังเกต การณ์ขณะที่ดีเอสไอนำตัวนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพส่งฟ้อง และเพื่อต้องการเห็นหน้านายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ หากมีโอกาสจะถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ต้องตกเป็นผู้ต้องหา เพราะตลอด 3 ปีที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพไม่เคยแสดงความรับผิดชอบ และไม่ออกมาขอโทษต่อญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเลย มีแต่โยนความผิดให้ชายชุดดำ และยังเชิดหน้าอยู่ในสังคมได้ โดยส่วนตัวเชื่อมั่นว่าพยานหลักฐานที่ดีเอสไอส่งให้อัยการนั้น ครบถ้วนสมบูรณ์ สามารถเอาผิดผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์สลายม็อบ 99 ศพได้

วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ศาลไต่สวนคำร้องชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนการเสียชีวิตของนายถวิล คำมูล อายุ 38 ปี ผู้ชุมนุมแนวร่วมกลุ่มประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณแยกสารสิน ถนนราชดำริ ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ

พนักงานอัยการนำพยานขึ้นเบิกความ 3 ปาก ประกอบด้วย พ.อ.โกญจนาท ธูปเทียนรัตน์ เสธ.กรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ พ.ท.ณัฐพงศ์ บัวจันทร์ รอง เสธ.กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และพ.ท.จิรภัทร เศวตเศรณี หัวหน้าฝ่ายส่งกำลังบำรุง กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ โดยพยานทั้ง 3 ปากเบิกความสรุปว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 นำกำลังทหารกระชับพื้นที่กลุ่มนปช. ที่ถนนวิทยุและบริเวณ อาคารเคี่ยนหงวน ตามคำสั่งของศอฉ. จากการตรวจสอบภายในอาคารเคี่ยนหงวนพบกลุ่ม ผู้ต้องสงสัย 10-20 คน จึงตรวจค้นภายในตัวแต่ไม่พบอาวุธ แต่จากการตรวจสอบภายในอาคาร พบอาวุธปืนเอ็ม 16 และเอชเค 3 กระบอก จึงนำตัวผู้ต้องสงสัยส่งตำรวจ สน. ลุมพินี

พยานเบิกความต่อว่า นอกจากนี้ยังทราบว่ามีกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายอยู่ในบริเวณสวนลุมพินีด้วย แต่จุดที่พยานนำกองกำลังทหารเคลื่อนพลนั้น ไม่ได้มีเหตุการณ์ปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด และยืนยันว่าการปฏิบัติการดังกล่าวใช้เพียงอาวุธปืนลูกซองและกระสุนยาง ด้วยการยิงขึ้นฟ้าขู่ผู้ชุมนุมเท่านั้น ไม่มีการใช้กระสุนปืนจริงแต่อย่างใด อีกทั้งการใช้กระสุนจริงต้องขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นก่อน และในวันที่ 19 พ.ค. 2553 พยานไม่ทราบว่ามีผู้เสียชีวิต ก่อนจะรับทราบจากข่าวสารในเวลาต่อมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดี มีทหารกว่า 20 นาย เข้าร่วมรับฟังการไต่สวน และมาให้กำลังใจผู้บังคับบัญชา แต่ไม่มีญาติฝ่ายผู้เสียชีวิตเข้าฟังการไต่สวนแต่อย่างใด และภายหลังพยานเบิกความเสร็จแล้ว ศาลนัดไต่สวนครั้งต่อไปในวันที่ 29 ก.ค. เวลา 09.00 น.