มอง 3 มุมถอนคดี "ก่อการร้าย"

ข่าวสด วันอังคารที่ 23 เมษายน 2556

                                               

รายงานพิเศษ

กรณี นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช. ร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถอนฟ้องแกนนำ นปช.ในคดีก่อการร้าย

โดยนำคำตัดสินคดีเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นหลักฐานนั้น

มีความเห็นจากนักวิชาการทั้งในมุมของความ ยุติธรรม การเมือง และความเป็นไปได้ในแง่กฎหมาย

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์
นักวิชาการอิสระ

การที่ นพ.เหวง ขอให้ถอนคดีก่อการร้ายทั้งหมด ถือว่าเป็นการเดินหน้าที่ดีในการปลดปล่อยนักโทษทางการเมืองให้ได้รับอิสระ

การเรียกร้องให้ถอนคดีกล่าวหา คนเสื้อแดงว่าเป็นผู้ก่อการร้าย หรือ การให้คนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังได้รับการประกันตัว เป็นสิ่งที่ควรจะดำเนินการมาตั้งนานแล้ว

เพราะคนเสื้อแดงที่ถูกจับเนื่องจากออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น ในข้อเท็จจริงระบอบประชาธิปไตย ประชาชนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้

สาเหตุที่ต้องมีการทบทวน หรือดำเนินการเรื่องถอนคดีและการให้ประกันตัว เพราะ

1.ตั้งแต่การสลายการชุมนุมและการจับกุมดำเนินการภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

2.รัฐบาลที่แล้วใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อเป็นการกดดันทางการเมือง

และ 3.ช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา มีนักโทษทางการเมืองถูกปล่อยตัวเนื่องจากศาลพิจารณาแล้วไม่สามารถชี้มูลความผิดได้

ล่าสุด ศาลมีคำสั่งยกฟ้องผู้ต้องหา เสื้อแดงที่ตกเป็นจำเลยในคดีเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นการลบคำครหาว่าเป็นพวกเผาบ้านเผาเมืองโดยปริยาย และแสดงได้อย่างชัดเจนว่า เป็นการกล่าวหาที่หลักฐานไร้น้ำหนัก ยังไม่นับข้อกล่าวหาเรื่องชายชุดดำ หรือครอบครองอาวุธ

ส่วนการถอนคดีหรือการให้ประกันตัว จะไม่ถือว่าองค์กรต่างๆ ดำเนินการผิดพลาด หรือจับแพะ หากแต่เป็นการให้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน ซึ่งเป็นการให้ผู้ถูกกล่าวหามีโอกาสที่จะต่อสู้ทางกฎหมาย ต่อสู้ทางคดี ไม่ใช่ถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียว

แต่การที่ไม่ให้มีการประกันตัวและกล่าวหาผู้เคลื่อน ไหวทางการเมืองว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ย่อมเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพและจะถูกมองว่าไม่มีความยุติธรรม

ดังนั้น การที่คนเสื้อแดงถูกคุมขังอยู่ในขณะนี้ อยู่ในสถานะที่เรียกว่า "ติดคุกฟรี" ยิ่งติดนานยิ่งมีแต่ส่งผลเสีย ทั้งสภาพจิตใจ ร่างกาย และประวัติ แม้ว่าจะให้เงินชดเชยก็ไม่สามารถทดแทนกันได้

การที่ นพ.เหวง ไปยื่นตรงต่อกระทรวงยุติธรรม ถือว่าทำถูกต้องแล้ว และเริ่มมีสัญญาณออกมาว่าน่าจะเป็นไปตามที่ นพ.เหวง ร้องขอ

เพราะก่อนหน้านี้ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม อาสาจะเป็นผู้วางเงินประกันตัวนักโทษทางการเมืองให้ได้รับการปลดปล่อย ถือว่าเป็นผลงานที่น่าชื่นชมและควรเร่งดำเนินการ

แม้ว่าขณะนี้จะมีการผลักดันเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่คาดว่ากว่าจะผ่านรัฐสภาได้คงต้องล่าช้า แต่นักโทษทางการเมืองต้องได้รับการปลดปล่อย ได้รับการประกันตัวออกมา ไม่จำเป็นต้องรอกฎหมายนิรโทษกรรม เพราะการแสดงออกถึงอุดมการณ์ทางการเมือง เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ดังที่กล่าวไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ที่สุดแล้วแม้นักโทษทางการเมืองจะได้อิสรภาพแต่ก็อยู่ในฐานะที่เป็นผู้เสียหาย รวมทั้งผู้ที่เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม เพราะฉะนั้นเหตุ การณ์ที่เกิดขึ้นต้องมีผู้รับผิดชอบ

สมชาย ปรีชาศิลปกุล
นิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่

การที่ นพ.เหวง ใช้คดีเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ที่ศาลแพ่งมีคำตัดสินออกมาแล้วทั้ง 3 คดี ยื่นต่อกระทรวงยุติธรรมใช้เป็นหลักฐานถอนฟ้องคดีก่อการร้ายนั้นสามารถทำได้ เพราะเป็นสิทธิของฝ่ายจำเลยหรือผู้ต้องหา ที่สามารถยื่นขอความเป็นธรรมได้หากเห็นว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม

แต่อย่าลืมว่าคดีก่อการร้ายเป็นคดีอาญา ซึ่งเป็นคดีคนละประเภทกับคดีแพ่ง และมีข้อหาความผิดต่างกัน

รวมถึงบุคคลที่ถูกฟ้องร้องในคดีอาญาก็ไม่ได้เป็นคนเดียวกับที่ศาลพิพากษายกฟ้องในคดีแพ่ง อีกทั้งการยกฟ้องอีกคดีหนึ่งไม่สามารถจะนำไปใช้พิจารณาในการยกฟ้องคดีอื่นๆ ได้

จึงน่าจะอยู่นอกเหนือการพิจารณา แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดีเอสไอว่าจะนำมาสัมพันธ์กันอย่างไร

สำหรับกระบวนการส่งฟ้องจะพิจารณาจากพยานหลักฐาน ในกรณีนี้เรื่องอยู่ในชั้นศาลแล้ว แสดงว่าอัยการต้องดูพยานหลักฐานเรียบร้อยแล้ว และเห็นว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอจึงส่งฟ้อง

แม้ว่าอัยการจะมีอำนาจถอนฟ้องได้ แต่อาจถูกกล่าวหาว่าทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์และไม่รอบคอบ รวมถึงการถูกครหาว่าถูกครอบงำทางการเมือง

ดังนั้น กระบวนการพิจารณาทางศาลคงต้องเดินหน้าต่อไป ซึ่งผู้ถูกฟ้องสามารถนำพยานหลักฐานเข้ามาต่อสู้คดีได้

สำหรับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชนของรัฐบาล เป็นช่องทางของรัฐสภาที่จะดำเนินการในส่วนของกฎหมาย

ส่วนตัวคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกันกับเรื่องที่ นพ.เหวงไปยื่นเรื่องถอนฟ้อง เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการทางศาล

พวงทอง ภวัครพันธุ์
คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
ผู้ประสานงานศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ
จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 (ศปช.)

ดีเอสไอ และกระทรวงยุติธรรม จะถอนคดีก่อการร้ายให้กับคนเสื้อแดงหรือไม่ คงไม่ได้ขึ้นอยู่กับการที่ นพ.เหวง และแกนนำคนเสื้อแดง ไปยื่นหนังสือพร้อมแนบเอกสารให้ถอนคดีก่อการร้าย

เพราะส่วนตัวเชื่อว่าดีเอสไอคงพิจารณาจากข้อมูลและหลักฐานประกอบคำตัดสินของศาล กรณีคนเสื้อแดงอื่นๆ ที่ได้รับการปล่อยตัวจากคดีเผาห้าง สรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์แล้วว่าไม่ได้เป็นการก่อการร้าย ซึ่งต้องพิจารณาว่าคนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับแกนนำด้วยหรือไม่

ส่วนตัวเห็นว่าพฤติกรรมของแกนนำเสื้อแดงไม่เข้าข่ายก่อการร้าย และไม่มีหลักฐานเรื่องการใช้กำลังอย่างเป็นระบบ

อย่างไรก็ตาม นพ.เหวง คงต้องระมัด ระวังไม่ให้ถูกมองว่าการไปยื่นให้ดีเอสไอถอนคดีครั้งนี้เป็นการสร้างแรงกดดันทาง การเมืองต่อการทำหน้าที่ของดีเอสไอ ดีเอสไออาจจะอยากถอนคดีอยู่แล้วก็ได้ แต่พอ นพ.เหวง ไปยื่นเรื่องแบบนี้ก็อาจเปิดช่องให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีได้ว่าดีเอสไอถอนคดีเพราะถูกกดดันทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม หากปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการในชั้นศาล ส่วนตัวเชื่อว่าทั้งหมดคงหลุดอยู่แล้ว ขณะนี้กระบวน การก็เดินหน้าอยู่ไม่มีอะไรต้องกังวล

แต่ก็เข้าใจว่าการต้องเดินทางไปขึ้นศาลบ่อยๆ ก็เป็นภาระของเขา อีกทั้งบางคนเป็นส.ส.เมื่อต้องเดินทางออกนอกประเทศก็ต้องขออนุญาตจากศาล อาจต้องการความสะดวกมากขึ้นจึงใช้ช่องทางในการยื่นให้มีการถอนคดี

และแม้ว่าการยื่นถอนคดีก่อการร้ายครั้งนี้เป็นคนละเรื่องกับการเดินหน้าร่างพ.ร.บ. นิรโทษกรรม เป็นคนละกระบวน การไม่เกี่ยวข้องกันเลย แต่เป็นธรรมดาที่ฝ่ายตรงข้ามอาจหยิบยกขึ้นมาโจมตีว่ายื่นถอนคดีเพื่อที่แกนนำจะได้ไม่ต้องรับโทษในข้อหาก่อการร้าย

หากมีการนำมาเชื่อมโยงกันก็ไม่ต้องแปลกใจ แต่เชื่อว่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่และไม่มีปัญหา