28 มีนาคม 2556
การแถลงข่าวเมื่อวานนี้ ที่ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว กลุ่มนปช. นำโดยนางธิดา โตจิราการ ประธานนปช. นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษกนปช. นายสมหวัง อัสราษี และแกนนำนปช. เปิดแถลงประจำสัปดาห์ นายธนาวุฒิกล่าวว่า จากการที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ยกฟ้องนายสายชล แพบัว และนายพินิจ จันทร์ณรงค์ คดีวางเพลิงเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อวันที่ 25 มี.ค. แสดงให้เห็นว่าวาทกรรมที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้หาเสียงว่าคนเสื้อแเดงเผาบ้าน เผาเมืองนั้นไม่เป็นความจริง ดังนั้น หากต่อไปนี้พี่น้อง นปช.ได้ยินใครใส่ร้ายเช่นนั้นอีกให้แจ้งความได้ทุกโรงพัก ทั้งนี้ อยากตั้งคำถามว่าหากคนเสื้อแดงไม่ได้เป็นคนเผา แล้วใครเป็นคนเผา และหลักฐานที่บ่งบอกว่ามีการเผา และยิงคนในช่วงสลายการชุมนุมอยู่ที่ไหน เป็นไปได้หรือไม่ว่าผู้มีอำนาจในขณะนั้นทำลายหลักฐานไปแล้ว
ด้าน นางธิดากล่าวว่า การยกฟ้องคดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ถือเป็นการประจานความเลวร้ายของกระบวนการ ยุติธรรมที่ไม่ยุติธรรมมาตั้งแต่กระบวนการจับ จนถึงการบิดเบือน และสร้างพยานเท็จ ทำให้เยาวชนต้องเสียอนาคต ไม่ได้รับการศึกษา ต้องถูกขังคุกอยู่ 3 ปี โดยไม่ได้ประกันตัว ตนตั้งข้อสังเกตว่าคดีเผาทั้งหลายนั้นผู้ต้องหามักไม่ได้ประกันตัว ทั้งที่หลักฐานอ่อน จึงสะท้อนให้เห็นอคติหรือคำสั่งที่อยู่เบื้องหลัง
ประธาน นปช.กล่าวอีกว่า ส่วนการจัดงานรำลึก 10 เม.ย.ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนั้น เป็นการรำลึกเหตุการณ์ 3 ปีที่แล้ว ที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สุเทพ เทือกสุบรรณ นำทหารเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนจนมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก และเรียกหาความยุติธรรมให้กับผู้ถูกดำเนินคดี ผู้ที่หลบหนี ผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือผู้ถูกกระทำทุกคน ทุกสีเสื้อ และเป็นโอกาสที่คนเสื้อแดงจะทวงความยุติธรรมจากการถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้เผา บ้าน เผาเมือง ทั้งนี้ ภายในงานจะมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ การแสดงบนท้องถนน การเดินพาเหรดการเมือง การแสดงนิทรรศการ จึงขอเชิญชวนให้พี่น้องมาร่วมรำลึก
นาง ธิดากล่าวต่อว่า กรณีนักโทษ 32 คนที่ยังถูกคุมขังในคดีการเมือง แบ่งเป็นเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 9 คน เรือนจำนครปฐม 1 คน เรือนจำเชียงใหม่ 1 คน และเรือนจำหลักสี่ 21 คน ถึงแม้จะไม่สามารถย้ายมาอยู่รวมกันที่เรือนจำหลักสี่ได้ทั้งหมด แต่ขอฝากกระทรวงยุติธรรมพิจารณาดูแลนักโทษการเมืองที่อยู่ปะปนกับนักโทษ อื่นๆ เร็วๆ นี้กลุ่มนปช.จะยื่นประกันตัวรอบใหม่ ระหว่างรอพ.ร.ก.นิรโทษกรรมเสร็จสิ้น ส่วนกรณีกลุ่มเสื้อแดงตามจังหวัดต่างๆ ที่ยังไม่ได้รับการเยียวยา ได้ให้คณะประสานงานตามจังหวัดต่างๆ รวบรวมรายชื่อส่งมาที่ นปช.ส่วนกลางเพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
ประธาน นปช.กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีศาลมีคำสั่งคดีการเสียชีวิตของนายฐานุทัศน์ อัศวสิริมั่นคง หรือลุงคิม ว่าเสียชีวิตจากปอดอักเสบ ระบบไหลเวียนโลหิต และการหายใจล้มเหลวจากโรคมะเร็งระยะลุกลาม ไม่ใช่ผลโดยตรงจากการถูกยิงในเหตุการณ์สลายการชุมนุมนั้น ตนมองว่าการถูกยิงที่ส่งผลให้ลุงคิมเป็นอัมพาตเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สุขภาพเลวร้ายลง นำมาสู่การเสียชีวิต
ประธาน นปช.ยังกล่าวถึงกรณีเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกง เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า เป็นการพบปะเพื่อพูดคุยเรื่องเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม ว่ารัฐบาลควรขยายการเยียวยาให้กว้างขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสได้รับความเป็นธรรม ไปจนถึงความเป็นไปได้ในการให้ความช่วยเหลือ กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบแบบนอกระบบ
ขณะที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงศาลมีคำสั่งคดีลุงคิมว่า คดีการเสียชีวิตของลุงคิมนั้น พนักงานสอบสวนดีเอสไอพิจารณาเบื้องต้นน่าเชื่อว่าเสียชีวิตจากการกระทำของ เจ้าหน้าที่รัฐเช่นเดียวกับคดีนายพัน คำกอง จึงส่งสำนวนชันสูตรต่อไปยังตำรวจ นครบาล และตำรวจก็ส่งอัยการพิจารณาเพื่อยื่นคำร้องต่อศาล วันนี้ศาลมีคำสั่งก็ถือว่าเป็นที่ยุติว่าไม่ได้เสียชีวิตจากการกระทำของเจ้า หน้าที่รัฐ แต่เสียชีวิตจากอาการป่วย ดังนั้นคดีฆ่าถือว่ายุติลง เมื่อสำนวนทั้งหมดส่งมาถึงดีเอสไอก็จะพิจารณาเกี่ยวกับคดีพยายามฆ่าและทำ ร้ายร่างกายต่อไป
นายธาริตกล่าวถึงกรณีศาลยกฟ้องนายสายชล แพบัว และนายพินิจ จันทร์ณรงค์ 2 จำเลยคดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ว่า ศาลได้วิเคราะห์ไปตามพยานหลักฐาน โดยยกประโยชน์ให้ฝ่ายจำเลย เพราะพยานหลักฐานของโจทก์ไม่ชัดเจนเพียงพอว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อไปดีเอสไอจะประชุมหารือในเรื่องนี้ เพื่อดูว่าแล้วอย่างนี้ใครเป็นผู้กระทำผิด ก็จะต้องหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป ไม่ใช่จบลงเพียงแค่ยกฟ้องจำเลย 2 คนนี้ ส่วนใครเป็นผู้กระทำผิด จะเป็นกลุ่มใดคงตอบตอนนี้ไม่ได้ ต้องดูผลคำวินิจฉัยของศาลด้วยว่ามีคำวินิจฉัยในการรับฟังพยานทั้งโจทก์ จำเลย บ่งชี้ไปที่กลุ่มใดหรือไม่ ซึ่งชัดเจนว่าทั้ง 2 คนนี้ไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีการกระทำความผิด เพราะกองพิสูจน์หลักฐานระบุแล้วว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ หรือไฟชอร์ต แต่เกิดจากการวางเพลิงเผาทรัพย์ซึ่งต้องพิสูจน์กันต่อไป ต้องพิสูจน์ความจริงต่อไป
