วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09:45 (มติชนรายวัน)
| ′ปู′ย้ำทีมกฎหมายคดีพระวิหาร ให้สู้เต็มที่-รอบคอบ ′พงศ์เทพ′ชี้ข้อดีเขมรแถลงวาจาต่อศาลโลกก่อนไทย เมื่อ วันที่ 26 มีนาคม นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะทำงานต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารต่อศาลโลก ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เน้นย้ำให้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่และใช้ความรอบคอบ ทั้งนี้ กัมพูชาจะเป็นผู้แถลงด้วยวาจาก่อนในวันที่ 15 เมษายนนี้ และไทยจะแถลงในวันที่ 16 เมษายน จากนั้นจะเว้นไปหนึ่งวันก่อนจะแถลงอีกครั้งในวันที่ 18 เมษายน โดยกัมพูชาจะเริ่มแถลงก่อนเช่นเดิม การที่ไทยแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลก ภายหลังกัมพูชานั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่อย่างน้อยสามารถปรับถ้อยแถลงด้วยวาจาให้ตรงประเด็นได้ยิ่งขึ้น นายพงศ์เทพกล่าว และว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงความพยายามในการถ่ายทอดสดการแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลก มายังประเทศไทยให้ประชาชนได้รับชม แต่ยังไม่สรุปว่าเป็นรูปแบบใดและสถานีใดเป็นผู้รับผิดชอบ แต่เบื้องต้นสามารถติดตามได้ทางอินเตอร์เน็ต รายงานข่าวเปิดเผยว่า การหารือในครั้งนี้เป็นไปด้วยดี นายกรัฐมนตรีไม่ได้แสดงความกังวลอะไร เพียงแต่ได้เน้นย้ำเรื่องการประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลกับประชาชน เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับคดีปราสาทพระวิหาร นอกจากนี้ที่ประชุมได้หารือถึงการให้มีการถ่ายทอดสดมายังประเทศไทย ซึ่งคงเป็นในลักษณะที่ใช้ล่ามผู้เชี่ยวชาญแปลจากภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาไทย ถ่ายทอดผ่านสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุ ขณะนี้อยู่ระหว่างวางระบบว่าจะเป็นช่องและสถานีใดบ้าง ส่วนการแถลงข่าวและชี้แจงนั้น ได้มอบหมายให้นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ทำหน้าที่ชี้แจงหลัก "ที่ประชุมไม่ ได้กังวลว่าจะเกิดผลกระทบหรือเกิดสถานการณ์ใดๆ ตามมาหลังการชี้แจงด้วยวาจาต่อศาลโลกในครั้งนี้ เพราะฝ่ายทหารยืนยันว่าสถานการณ์ตามแนวชายแดนและความสัมพันธ์ระหว่าง ไทย-กัมพูชายังคงดีเหมือนเดิม" แหล่งข่าวกล่าว ด้านที่ประชุมใหญ่ ศาลฎีกา ได้ลงมติเลือกองค์คณะผู้พิพากษา 9 คน เพื่อพิจารณาคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นจำเลยฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กรณีที่นายนพดลไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ฉบับลงวันที่ 18 มิถุนายน 2551 ที่สนับสนุนให้ประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยไม่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาไทย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ทั้งนี้ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีมติเลือกองค์คณะ 9 คน ประกอบด้วย นายเอกชัย ชินณพงศ์ ประธานแผนกคดีผู้บริโภคในศาลฎีกา, นายชินวิทย์ จินดา แต้มแก้ว ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา, นายวีระพล ตั้งสุวรรณ, นายนิยุต สุภัทรพาหิรผล, นายกรองเกียรติ คมสัน, นายชาติชาย อัครวิบูลย์, นายศรีอัมพร ศาลิคุปต์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา, นายกำพล ภู่สุดแสวง และนายปัญญา ถนอมรอด ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา (อดีตประธานศาลฎีกา) ซึ่งหลังจากนี้องค์คณะทั้ง 9 คนจะร่วมกันประชุมภายในเพื่อลงมติเลือกผู้พิพากษา 1 ใน 9 เป็นเจ้าของสำนวน และนัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องคดีดังกล่าวหรือไม่ ในวันที่ 26 เมษายน เวลา 10.00 น.
(ที่มา:หน้า 1 มติชนรายวัน 27 มีนาคม 2556)
|
