ทิ้งหมัดเข้ามุม
สมิงสามผลัด
เข้า ใจได้ไม่ยากว่า ทำไมข่าวการตั้งข้อกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตผอ.ศอฉ. ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าโดยเจตนาเล็งเห็นผลกลายเป็นข่าวที่สุดแห่งปี
2555เหตุผลง่ายๆ ก็คือในเมื่อมีการตาย 99 ศพ ขณะที่ มีปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้รับอนุญาตให้ใช้กระสุนจริง ก็ต้องมีผู้รับผิดชอบผู้สั่งการทำให้เกิดความผิดพลาดและสูญเสียต้องถูก ดำเนินคดี !?
การตั้งข้อหาฆ่า "พัน คำกอง" เป็นบันไดก้าวแรกในการทวงความยุติธรรมให้กับญาติพี่น้องผู้สูญเสียและยังมีคดีการตายศพที่ 2 3 4 ไปจนถึง 99 แต่ก็ไม่ได้จบแค่นั้น เพราะยังมีคดี"พยายามฆ่า"จ่อคออยู่อีกนับไม่ถ้วน ล่าสุดมีเหยื่อปืนผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลาย ม็อบแดงปี 53 ชุดแรก 15 ราย ทยอยเข้าแจ้งดีเอสไอให้ดำเนินคดีฐานพยายามฆ่า-ทำร้ายร่างกาย ในจำนวนนี้ มีลุงสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ที่ถูกยิงในเหตุการณ์เดียวกับ"พัน คำกอง" ร่วมอยู่ด้วย นาย บดินทร์ วัชโรบล 1 ในผู้บาดเจ็บ ระบุว่า "ถูกยิงเข้าที่ท้อง 1 นัดเมื่อ 2 ทุ่มของวันที่ 10 เม.ย.53 ที่หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ถนนดินสอ ทุกวันนี้กระสุนยังค้างอยู่ในร่างกาย"
นายเสกสิทธิ์ ช้างทอง ซึ่งถูกยิง 2 ครั้งในเหตุการณ์สลายม็อบแดง เล่าให้ฟังว่า "ครั้งแรกวันที่ 10 เม.ย.53 ถูกยิงเข้าที่ขา 2 นัด บริเวณหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ส่วนครั้งที่ 2 ถูกยิงที่กลางหน้าผาก ทำให้ตาบอดทั้ง 2 ข้างที่หน้าพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53" นี่เป็นแค่ส่วนแรกของผู้บาดเจ็บที่มีกว่า 2 พันคน บางรายมีหลักฐานใบรับรองผลการตรวจของแพทย์ และผลเอกซเรย์ บางรายมีหัวกระสุนที่ผ่าออกมาเป็นหลักฐาน
แต่ก็ไม่สำคัญเท่าผู้เสียหายยังมีชีวิตอยู่ เป็นพยานตัวเป็นๆ ที่สามารถให้การถึงเหตุที่เกิดขึ้น ฉะนั้น หากมีการตั้งข้อหาพยายามฆ่าเหยื่อปืน ปี 53 ในเร็วๆ นี้
ก็จะถือเป็นข่าวแห่งปีอีกข่าวเลยทีเดียว
