มติชน 18 ธันวาคม 2555
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 จำนวน 99 ศพ ว่า ในวันที่ 19 ธ.ค. นี้ เวลา 09.00 น. ได้นัดประชุมคณะพนักงานสอบสวนในส่วนของตำรวจกับดีเอสไอ เพียงสองหน่วยเนื่องจากพนักงานอัยการที่ร่วมดำเนินคดีมีภารกิจสำคัญ จึงไม่สามารถเดินทางมาร่วมประชุมกับคณะทำงานได้ ดังนั้น ที่ประชุมจะยังไม่มีการลงมติการแจ้งข้อหาพยายามฆ่า คดีของนายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ ที่ถูกยิงในพื้นที่เดียวกับนายพัน คำกอง ถูกยิงเสียขีวิต กับนายอภิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีนรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ทั้งนี้ ที่ประชุมจะเป็นการหารือในเรื่องของการทำงานและการรายงานความคืบหน้าในภาพรวมของคดีพยายามฆ่ารายอื่นๆ ที่มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับทางตำรวจนครบาล รวมทั้งการรายงานสถานการณ์การทำงานของพนักงานสอบในแต่ละชุดว่ามีปัญหาอุปสรรคในเรื่องใดบ้างเพื่อจะหาช่วยกันทางออกและแก้ปัญหา อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมร่วมกับอัยการเพื่อหารือการแจ้งข้อหาพยายามฆ่าในสัปดาห์หน้า
นายธาริต ยังเปิดเผยอีกว่า ได้รับการประสานจากผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวนหนึ่ง จะเดินทางมายังดีเอสไอเพื่อแจ้งเรื่องร้องทุกข์กับดีเอสไอให้ดำเนินคดีกับนายสุเทพและนายอภิสิทธิ์ในข้อหาพยายามฆ่า ในส่วนสำนวนคดีการเสียชีวิตของประชาชน ที่รับเป็นคดีพิเศษมีจำนวนทั้งหมด 35 คดี ซึ่งขณะนี้ได้ส่งสำนวนทั้งหมดไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อส่งสำนวนคดีให้ศาลไต่สวนสาเหตุการตายเรียบร้อยแล้ว
“สำหรับคดีพยายามฆ่าหากพนักงานสอบสวนพิจารณาสำนวนคดีแล้ว มีความเห็นร่วมกันว่าสมควรแจ้งข้อหากับนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ แนวทางปฏิบัติจะทำได้ 2 ทาง คือ 1.รอให้ปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 19 เม.ย. 55 หรือ 2.ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ส่งตัวนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพมาให้ดีเอสไอดำเนินคดี ทั้งนี้ หากพนักงานสอบสวนมองว่าการเรียกมารับทราบข้อหาในสมัยประชุมสภาฯ อาจไม่สมเกียรติก็จะต้องรอจนปิดสมัยประชุมสภาฯ”นายธาริตกล่าว