หากระเดื่องมัด มือบึ้ม "ร่มเกล้า"

ข่าวสด 9 พฤศจิกายน 2555 >>>




เผยพยาน คดีฮิโรยูกิ เบิกความ ถูกลูกปืน ฝั่ง "จนท."

ดีเอสไอควานหากระเดื่องปริศนาตกอยู่ในบ้านโบราณหน้าโรงเรียนสตรีวิทย์ มัดมือปาบึ้ม "ร่มเกล้า" ดับวันที่ 10 เม.ย. 53 พร้อมเรียกสอบเจ้าของบ้านหาจุดกระเดื่องตก เพื่อวัดระยะขว้าง เตรียมทำหนังสือแจ้งโรงพยาบาลที่ดูแลคนเจ็บจากเหตุการณ์ พ.ค. 53 ส่งใบชันสูตรบาดแผลประกอบสำนวน ส่วนนายทหารคุมกำลังทยอยให้การหลังวันที่ 13 นี้ เชื่อภายในสิ้นปีแจ้งข้อกล่าวหาครบหมดแน่ ศาลสอบพยานเพิ่มคดี ฮิโรยูกิ และ 2 เสื้อแดงถูกยิงดับที่คอกวัว วันที่ 10 เม.ย. ย้ำอีกกระสุนถูกยิงมาจากฝั่งทหารทะลุหัว "วสันต์ ภู่ทอง"
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 พ.ย. พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ 99 ศพ ในเหตุความรุนแรงทางการเมืองเมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 พร้อม พ.ต.อ.กำธร อุ้ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้ บก.สปพ.บช.น. เดินทางไปยังบริเวณบ้านไม้โบราณ 2 ชั้น ตรงข้ามโรงเรียนสตรีวิทยา ถนนดินสอ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. พื้นที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อตรวจสอบพื้นที่และเก็บหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากรับข้อมูลจากรายงานของคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบและค้นหาความจริง (คอป.) ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน ระบุว่าเหตุการณ์เสียชีวิตของกลุ่มทหาร และ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 เม.ย. 53 มีกลุ่มคนร้ายเข้าไปใช้สถานที่ในบ้านหลังดังกล่าว เพื่อปาระเบิดออกมาใส่กลุ่มทหารจนเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พ.ต.อ.ประเวศน์ และเจ้าหน้าที่ พฐ. เดินทางไปถึงบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว พบว่าประตูใหญ่หน้าบ้านซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนสตรีวิทยาถูกปิดล็อก คล้องกุญแจด้านใน และไม่มีใครอยู่ในบ้าน ซึ่งบ้านหลัง ดังกล่าวมีอายุกว่า 100 ปี มีเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ภายในมีสิ่งปลูกสร้างแยกเป็น 3 ส่วน โดยด้านหน้าเป็นลานกว้าง ลึกเข้าไปประมาณ 10 เมตร เป็นที่ตั้งของบ้านไม้โบราณหลังใหญ่สูง 2 ชั้น ฝั่งขวาเป็นเรือนไม้โบราณหลังเล็ก และฝั่งซ้ายลานจอดรถ
เมื่อสอบถามผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง บอกว่า เจ้าของบ้านไปอยู่ต่างประเทศนานแล้ว ปัจจุบันมีลูกหลานเข้ามาอาศัยดูแลแทน จากนั้น พ.ต.อ.ประเวศน์ และ พ.ต.อ.กำธร ลงพื้นที่ตรวจสอบรอบบ้านทั้งด้านข้างและด้านหลังอย่างละเอียดโดยใช้เวลา ประมาณ 30 นาที จากนั้นตรวจสอบจุดที่ระเบิดตกใส่ ซึ่งอยู่บริเวณหน้าประตูบ้าน กลางถนนดินสอ ห่างจากประตูใหญ่หน้าบ้านประมาณ 10 เมตร ซึ่งพบว่าร่องรอยดังกล่าวถูกซ่อมแซมนำยางมะตอยมากลบไว้แล้ว แต่ก็ยังมองเห็นได้ชัดเจน มีความกว้างหลุมประมาณ 10 ซ.ม. จากนั้น พ.ต.อ.ประเวศน์ และคณะจึงเดินทางกลับมาประชุมพนักงานสอบสวนคดี 99 ศพต่อที่ดีเอสไอ
พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวว่า การเดินทางมาตรวจสอบบ้านไม้โบราณ เนื่องจากพนักงานสอบสวนได้ข้อมูลจากรายงานของ คอป. และจากสำนวนการสอบสวนของตำรวจ ซึ่งเคยสอบปากคำเจ้าของบ้านพักหลังนี้หลังจากเกิดเหตุรุนแรงเมื่อเดือน เม.ย. 53 คำให้การระบุว่าพบกระเดื่องระเบิด 2 ชิ้น ตกอยู่ภายในบ้านหลังนี้ โดยเจ้าของบ้านเป็นคนเก็บมอบให้ตำรวจ แต่ไม่ทราบว่ามอบให้กับตำรวจหน่วยใด และกระเดื่องที่พบก็อยู่ในระยะที่ใกล้กับจุดที่ พ.อ.ร่มเกล้า และพวกเสียชีวิต จึงต้องการทราบว่ากระเดื่องดังกล่าวพบอยู่บริเวณใดภายในบ้าน ซึ่งเมื่อทราบจุดที่พบกระเดื่องแล้ว จะให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะวิเคราะห์ว่าจุดที่พบกระเดื่องในบ้านกับระยะที่ ปาระเบิดออกไปนั้น คนปาควรจะอยู่ตรงไหนอย่างไร แต่ปรากฏว่าเจ้าของบ้านไม่กล้าเดินทางมาพบ ซึ่งอาจจะกลัวอันตราย
พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ตนติดต่อกับเจ้าของบ้านแล้วว่าจะเดินทางมาชี้จุดที่พบกระเดื่อง ดังกล่าวให้ แต่ก็ไม่มา รวมทั้งเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมาศาลนัดไต่สวนก็ไม่ไปพบเช่นกัน ทั้งนี้สำนวนคดีของ พ.อ.ร่มเกล้า ยังคงอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนอยู่ เนื่องจากยังต้องหาหลักฐานและพยานเพิ่มเติม และเจ้าของบ้านหลังนี้ก็เป็นหนึ่งในพยานคดีทหารกลุ่มนี้ด้วย
ต่อมาเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.ประเวศน์เป็นประธานการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดี 99 ศพ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ตำรวจ และอัยการคดีพิเศษ เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของสำนวนคดีในแต่ละชุดที่ได้มอบหมายไป
โดย พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวว่า ขณะนี้สำนวนคดี 99 ศพ ที่รับผิดชอบดูแลอยู่คืบหน้าไปมาก โดยมอบหมายให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอและตำรวจแต่ละชุด ลงพื้นที่สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ในปี"53 ไว้ทุกคนซึ่งมีจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นอุปสรรคในการทำคดี คือ ใบผลการชันสูตรบาดแผลของผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์ปี"53 และกลุ่มผู้เสียชีวิต ยังไม่ได้รับจากทางโรงพยาบาลที่ผู้บาดเจ็บเข้ารักษา ซึ่งจะทำหนังสือส่งไปตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเหล่านี้เข้าไปรักษาตัวในขณะนั้น เพื่อขอความร่วมมือส่งใบชันสูตรบาดแผลของผู้บาดเจ็บทุกรายที่เข้ามารักษามา ให้พนักงานสอบสวนโดยเร็ว
พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวว่า ส่วนกลุ่มนายทหารที่คุมกำลังพลในปี"53 นั้น รับการประสานมาว่านับตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. เป็นต้นไป จะทยอยมาพบเพื่อให้ข้อมูล และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้สำนวนคดีต่างๆ จะสมบูรณ์ จากนั้นจะนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนชุดใหญ่ 3 ฝ่าย เพื่อหารือว่าจะเรียกใครมารับทราบข้อกล่าวหาบ้าง ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าจะเป็นใคร เพราะต้องดูที่พยานหลักฐานเป็นหลัก ซึ่งก็จะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
วันเดียวกันที่ศาลอาญาใต้ ศาลนัดไต่สวนชันสูตรพลิกศพคดีที่พนักงานฝ่ายคดีอาญาใต้ยื่นคำร้องให้ศาลไต่ สวนการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ชาวญี่ปุ่น นายวสันต์ ภู่ทอง และนายทศชัย เมฆงามฟ้า ผู้ชุมนุมนปช. โดยทั้ง 3 ถูกยิงเสียชีวิตหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ถนนดินสอ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 โดยพนักงานอัยการนำพยานขึ้นเบิกความ 2 ปาก ประกอบด้วย น.ส.ศิริพร เมืองศรีนุ่น ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากญาติผู้ตาย และนายปรีชา ณุวงษ์ศรี เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์วชิรพยาบาล
น.ส.ศิริพร เบิกความว่า เข้าร่วมชุมนุมกับ นปช.ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 2553 โดยผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ชุมนุมอย่างสงบปราศจากอาวุธ และไม่มีการทำลายทรัพย์สินทางราชการแต่อย่างใด จนกระทั่งวันที่ 10 เม.ย. 2553 ตนสังเกตการณ์อยู่ที่สะพานนางเลิ้ง เห็นเฮลิคอปเตอร์บินอยู่เหนืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและโปรยแก๊สน้ำตาลงมาใส่ ผู้ชุมนุม จากนั้นช่วงกลางคืน ผู้ชุมนุมนำศพและอาวุธปืน ลูกกระสุน ปลอกกระสุน และกระป๋องแก๊สน้ำตา ไปไว้บนเวทีต่อมาวันที่ 11 เม.ย. 2553 ขณะเดินไปตรวจสอบบริเวณถนนดินสอ พบร่องรอยลักษณะเป็นหลุม มีคราบเลือดบริเวณทางม้าลาย หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา บริเวณต้นไม้หน้าโรงเรียน และตู้โทรศัพท์สาธารณะยังมีรูและรอยถากคล้ายถูกกระสุนปืน ส่วนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยฝั่งถนนดินสอ ยังพบร่องรอยความเสียหายที่ความสูงประมาณ 2 เมตร ทั้งนี้จากการร่วมชุมนุมมา เห็นว่าการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ไม่มีเหตุจำเป็นที่เจ้าหน้าที่จะต้องใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ชุมนุม
ขณะที่นายปรีชาเบิกความว่า รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและดูแลคนป่วย ที่เวทีการชุมนุมบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 2553 โดยตั้งเต็นท์บริเวณถนนราชดำเนิน มีรถกู้ชีพ 5 คัน และมีผู้ปฏิบัติงานประมาณ 20 คน ทุกคนจะสวมใส่เครื่องแบบเป็นชุดสีขาว ติดสัญลักษณ์หน่วยแพทย์กู้ชีวิตวชิรพยาบาลชัดเจน ซึ่งเหตุการณ์การชุมนุมเป็นไปอย่างปกติและปราศจากอาวุธ
นาย ปรีชากล่าวว่า วันเกิดเหตุมีการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับทหาร ขณะที่บนเวทีประกาศไม่ให้ผู้ชุมนุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งเวลา 15.00 น. มีเฮลิคอปเตอร์บินวนมาเหนืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยคนสวมชุดลายพรางแบบทหารขว้างแก๊สน้ำตาลงมาใส่ผู้ชุมนุม บางส่วนตกลงบริเวณเต็นท์พยาบาลที่พยานประจำอยู่ ซึ่งตลอดการปฏิบัติการไม่มีการประกาศเตือนล่วงหน้า จนกระทั่งเวลา 18.00 น. มีทหารตั้งแถวมาจากทางสะพานวันชาติและหยุดที่หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ผู้ชุมนุมบางส่วนนำแผงเหล็กมากั้นบริเวณทางม้าลาย ถนนดินสอ แต่ถูกทหารใช้กระสุนปืนยางยิงใส่ ผู้ชุมนุมจึงถอยร่นกลับไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
นาย ปรีชา กล่าวว่า ทหารที่เข้ามาบริเวณถนนดินสอมีประมาณ 100 คน แต่งกายชุดสีเขียวลายพราง สวมหมวกเหล็ก แถวหน้าถือโล่และกระบองไม้ แถวหลังพกอาวุธปืนสั้นและถืออาวุธปืนยาว ด้านหลังทหารมีรถหุ้มเกราะ รถฮัมวี่ และรถสายพานลำเลียง รวมกว่า 10 คัน โดยทหารผลักดันกลุ่ม นปช. ไปถึงบริเวณหัวถนนดินสอ ก่อนกระจายกำลังออกมาตั้งแถว ขณะนั้นตนเดินไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะฝั่งตรงข้ามโรงเรียนสตรีวิทยา เพื่อช่วยผู้บาดเจ็บ โดยเห็นผู้ชุมนุมชายคนหนึ่งยืนถือธงสีแดง บริเวณทางม้าลายที่ 2 หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา หันหน้าไปทางที่ทหารประจำการอยู่
   "สักพักได้ยินเสียงดัง คล้ายเสียงปืน ขณะที่ชายคนดังกล่าวถูกยิงสมองกระจายและล้มลง ห่างจากจุดที่ผมอยู่ประมาณ 10 เมตร กลุ่มผู้ชุมนุมจึงแตกกระจาย ก่อนกลับเข้าไปดูและร้องเรียกรถพยาบาล ซึ่งมาทราบภายหลังว่าคือนายวสันต์ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความโกรธแค้น ขว้างก้อนหินและไม้ใส่ทหาร ระหว่างนั้นมีเสียงยิงปืนจากฝั่งทหารกระทบกับฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตลอด ผมต้องหมอบคลานไปหลบที่ตู้โทรศัพท์" นายปรีชา กล่าว
นาย ปรีชากล่าวอีกว่า จากนั้นเห็นว่ามีผู้ชายถูกยิงอีก 2 คน ใกล้กับจุดที่นายวสันต์ถูกยิง คนหนึ่งนอนนิ่งอยู่ใกล้กับนายวสันต์ ส่วนอีกคนถูกยิงที่ขาและคลานไปหลบที่กำแพงฝั่งโรงเรียนสตรีวิทยา ต่อมากลุ่ม นปช. เข้าไปแบกร่างชายคนที่นอนข้างนายวสันต์ไปไว้ปากทางถนนดินสอ จึงตามไปชวยปั๊มหัวใจ ทราบภายหลังว่าเป็นนายทศชัย หลังจากนำร่างนายทศชัยขึ้นรถพยาบาลแล้ว สักพักเห็นกลุ่ม นปช. แบกร่างชายคล้ายผู้สื่อข่าวมาจากบริเวณทางม้าลายที่ 2 หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา จึงเข้าไปช่วยเหลือ แต่ไม่พบสัญญาณการเต้นของชีพจรแล้ว ต่อมาทราบว่าเป็นนายฮิโรยูกิ
นาย ปรีชากล่าวว่า จากนั้นมีเสียงปืนดังต่อเนื่อง จนต้องนำผู้บาดเจ็บออกมาเรื่อยๆ จนมีเสียงประกาศจากเวทีว่าเจรจากับทหารให้ยุติความรุนแรงแล้ว สักพักทหารถอยไปทางสะพานวันชาติและเสียงปืนสงบลง จึงเดินสำรวจผู้บาดเจ็บรายอื่น พบรถที่จอดอยู่มีรอยกระสุนจำนวนมาก และมีคราบเลือดบนถนนหลายจุด โดยมีกลุ่ม ผู้ชุมนุมเดินเก็บปลอกกระสุนปืนได้
นาย ปรีชา กล่าวว่า สำหรับทหารที่บาดเจ็บส่งไปรักษาตัวที่ ร.พ.วชิระ มี 12 คน ส่วนมากถูกตีด้วยของแข็ง แต่ไม่พบว่าบาดเจ็บจากระเบิดหรืออาวุธปืน ระหว่างที่ตนช่วยเหลือพยาบาลทหารอยู่ ได้ถามทหารนายหนึ่งว่า ทำไมไม่ใช้โล่และกระบอง แต่ใช้อาวุธปืนแทน ทหารรายนั้นตอบว่า ไม่รู้ ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติอย่างนี้
จากนั้นทนายความญาติผู้ตาย ถามพยานว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยิงปืนเข้ามา ยังมีเหตุการณ์อื่นอีกหรือไม่ นายปรีชาเบิกความว่า ได้ยินเสียงดังกว่าเสียงปืน 2 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันประมาณ 10 นาที แต่จำไม่ได้ว่าก่อนหรือหลังนายวสันต์ถูกยิง ดังมาจากบริเวณที่ทหารประจำการอยู่ ห่างจากประตูโรงเรียนสตรีวิทยาประมาณ 10 เมตร และไม่เห็นว่าการหามร่างผู้บาดเจ็บออกมาบริเวณถนนดินสอ แต่ไม่ทราบว่าจะมีการหามออกไปทางสะพานวันชาติหรือไม่นายปรีชายังกล่าวถึงบ้านที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ว่า เป็นบ้านโบราณที่มีรั้วรอบขอบชิด ผู้ชุมนุมไม่สามารถเข้าไปได้ และมีรถถังจอดขวางหน้าบ้านอยู่ด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการไต่สวนเสร็จสิ้น ศาลนัดไต่สวนครั้งต่อไปวันที่ 13 พ.ย.