ทีมข่าว นปช.
5 พฤศจิกายน 2555
วานนี้ (4 พ.ย. 55) อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ และแกนนำ นปช. ร่วมงานโรงเรียนการเมือง นปช. ณ สวนสาธารณะเทศบาลเมืองหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ผลพวงรัฐประหารยังคงอยู่
อ.ธิดา กล่าวว่า การจัดตั้งโรงเรียน นปช. เพราะต้องการให้การขับเคลื่อนขบวนการของคนเสื้อแดงเป็นเอกภาพ เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของคนเสื้อแดงคือ การลบล้างผลพวงของการรัฐประหาร
แม้ว่าการรัฐประหารจะผ่านพ้นมากว่า 6 ปีแล้ว แต่ผลพวงการรัฐประหารยังคงอยู่ โดยเฉพาะ รธน.50 ซึ่งทำให้ระบอบอำมาตย์มีอำนาจมากขึ้น
ฝ่ายอำมาตย์ต้องการสิ่งที่ตรงข้ามกับฝ่ายประชาธิปไตย ขณะนี้ฝ่ายตรงข้ามอ้างว่า จะล้มรัฐบาลชุดนี้ให้ได้ภายใน ธ.ค. นี้ ฝ่ายตรงข้ามมีเครือข่ายขนาดใหญ่ ทั้งหน่วยงานความมั่นคงของรัฐ, นักธุรกิจที่เสียผลประโยชน์, ธุรกิจผิด กม. และพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคการเมือง
คนเสื้อแดงต้องไม่ยอมให้ผู้ที่มาจากการเลือกตั้งถูกทำรัฐประหาร ในทาง "ยุทธศาสตร์" คนเสื้อแดงต้องรักษาชัยชนะจากการเลือกตั้ง ส่วนในทาง "ยุทธวิธี" คนเสื้อแดงอาจรุก หรือถอยในบางครั้งได้ แต่อย่างไรก็ตามคนเสื้อแดงต้องไม่ถอยทาง "ยุทธศาสตร์"
ความคิดปิดประเทศเคยมีในยุค 6 ตุลาคม 2519
นพ.เหวง โตจิราการ กล่าวว่า ขณะนี้ใกล้เวลาที่ฝ่ายตรงข้ามต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ พวกเขาจึงต้องดิ้นรนสุดแรงเกิด โดยเห็นได้จากที่ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ (เสธ.อ้าย) จัดชุมนุมที่สนามม้านางเลิ้ง
เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มีการกล่าวหาฝ่ายนักศึกษาว่า ไม่จงรักภักดีเช่นเดียวกับ การรัฐประหารปี 2549 ในตอนนั้นกระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาลเกือบจะสามารถกระชากคอผู้สังหารประชาชนได้ แต่เกิดการรัฐประหารขึ้นเสียก่อน
นอกจากนี้ ธานินทร์ กรัยวิเชียร นายกรัฐมนตรีในยุคนั้นเคยมีความคิดที่จะปิดประเทศ 12 ปี เพื่อสอนประชาธิปไตยให้กับประชาชน เช่นเดียวกับ พล.อ.บุญเลิศ ในขณะนี้
ต่างประเทศยังคงมั่นใจในประเทศไทย
วีระกานต์ มุสิกพงศ์ ยืนยันว่า ต่างประเทศยังคงมองประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ และไม่ได้มองประเทศไทยใกล้จะเกิดเหตุการณ์นองเลือดแต่อย่างใด
หลักประกันประชาธิปไตยคือ รธน. ดังนั้นตราบใดที่ รธน. ยังเป็นเผด็จการ หรือยังคงมีวาระซ่อนเร้น ประเทศจะไม่มีวันเป็นประชาธิปไตยได้
แม้ รธน.50 จะไม่ใช่ รธน. ประชาธิปไตย แต่การที่มีบุคคลบางกลุ่มพยายามโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยถือเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง แต่คนเสื้อแดงจำเป็นต้องอดทนกับความเห็นต่าง
แฉรัฐประหาร 49 เกิดจากคนในรัฐบาลทรยศ
จตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า ตนเองได้้ติดตามการเคลื่อนไหวของ เสธ.อ้าย มาตั้งแต่ต้น ขณะนี้คนเสื้อแดงมีสถานีโทรทัศน์แห่งเดียว แต่ฝ่ายตรงข้ามมีถึง 3 สถานี
ในตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี สนธิ ลิ้มทองกุล และ พธม. พยายามโจมตีใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ที่เลวร้ายกว่านั้นคือ คนที่แวดล้อม พ.ต.ท.ทักษิณ ล้วนทรยศ
การโจมตีใส่ร้ายในครั้งนั้นมีมากจน พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อาจชี้แจงได้หมด จนในที่สุดก็สายไปเสียแล้ว การรัฐประหารปี 2549 ไม่ได้เกิดจากการที่ สนธิ ลิ้มทองกุล เป็นผู้เปิดประตู แต่เกิดจากการที่คนรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้เปิดประตูเอง
เตรียม "ดาบประหาร" เล่นงานยิ่งลักษณ์
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวว่า คนเสื้อแดงรวมตัวกันต่อสู้ เพื่อต่อต้านการรัฐประหาร, 2 มาตรฐาน และการกดขี่ทางชนชั้น ด้วยหลักการที่ถูกต้องนี้จึงทำให้คนเสื้อแดงมีมากขึ้นเรื่อยๆ
ตนเองไม่เชื่อว่า เสธ.อ้าย จะสามารถระดมคนได้มากถึง 1 ล้านคน แต่เขาสามารถใช้ประชาชนหลักหมื่นเคลื่อนไหวเพื่อกดดันรัฐบาลได้ เพื่อสร้าง "ดาบประหาร" ขึ้น โดยมีเป้าหมายคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ฝ่ายตรงข้ามจะไม่ยุบพรรค หรือเล่นงานรัฐมนตรี เพราะแม้จะสำเร็จยิ่งลักษณ์ก็ยังคงอยู่
ถ้าเล่นยิ่งลักษณ์ได้ คณะรัฐมนตรีก็อยู่ไม่ได้ หลังจากนั้นฝ่ายตรงข้ามจะขัดขวาง เพื่อไม่ให้เกิดการประชุม ส.ส. เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และนำพาประเทศไทยไปสู่การแช่แข็ง