26 พฤศจิกายน 2555
เสธ.อ้ายวางแผนปฏิบัติการดีเดย์ม้วนเดียวจบดังนี้
1.วิธีม้วนเดียวจบได้แก่การ "รอคอยมวลชน" หลายแสนหรือเป็นล้านคน เมื่อได้มวลชนเข้าข่ายเป็นเสียงประชามติ 1คูณ 10 หรือ1 คูณ18 ก็จะได้ความชอบธรรมทาง"กายภาพ"เอามาใช้ทำการปฏิวัติชาติ โดยไม่ใช้กำลังทหาร
2. เมื่อได้ทางกายภาพเป็นที่แน่ชัด ประธาน อพส.(องค์การพิทักษ์สยาม) จะประกาศถวายคืนพระราชอำนาจ เวลา 0901น. เมื่อประธาน อพส. ประกาศถวายคืนพระราชอำนาจแล้ว ถือว่าคณะของ อพส. ได้ควบคุมระบบการปกครองเอาไว้เบ็ดเสร็จต่อไป ประชาชนทั้งประเทศ จักต้องแสดงตนเข้าถวายความจงรักภักดี ไม่ยินยอมให้ผู้ใดขัดขืนเป็นอันขาด รัฐบาลยิ่งลักษณ์ จะต้องรีบไปแสดงตน ถวายความจงรักภักดี ถ้าขัดขืนจะถูกปราบปราม เพราะถือว่าเป็นพวกเดียวกับ ผกค.
3.หากมวลชนไม่เป็นไปตามคาดหมาย คณะ อพส. จะดำเนินการ"กดดัน" 4 หรือ 5 แพกเก็จ คือ
(package 1) ปิดน้ำ ดับไฟ(กดดันให้ประชาชนจำเข้าข้าง)
(package 2) รัฐวิสาหกิจเข้าร่วมประท้วง หยุดการเดินรถ ปิดแบงค์ (กดดันต่อ)
(package 3) ปิดโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ปิดท่อแก๊ส ปิดปั้ม(ยกระดับการกดดัน)
(package 4) เงินเดือนข้าราชการ(พฤศจิกายน) จะไม่ออกตามปกติ (กดดันข้าราชการทั่วประเทศ)
(package 5) ถ้าคนเสื้อแดงลุกขึ้นสู้ ทหารจะออกมาช่วย อพส. (รักษาความสงบ)
4. ถ้าทำสำเร็จ จะปฏิวัติสังคมใหม่ ปิดประเทศ 5 ปี ไม่มีรัฐธรรมนูญ ไม่มีการเลือกตั้ง คณะผู้ปกครองใหม่และคณะผู้บริหารประเทศในแนวใหม่ ฝ่ายสันติอโศก(ท่านพ่อโพธิรักษ์) จะได้ส่วนแบ่ง50-50 นอกนั้นเป็นพันธมิตรและประชาชนที่ อพส. เลือกเฟ้นแล้ว(ตามมาตรฐานของโรงเรียนผู้นำ)
5. แนวทางของเสธ.อ้าย (กับสันติอโศก) ที่ประกาศดีเดย์วันที่ 24 พ.ย.ดังกล่าวนี้ ไม่ใช่เป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้องอะไรเลย มีเป้าหมายเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น คือ "ล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์" แล้วสถาปนารัฐบาลในแนวใหม่ที่พวกเขาเรียกกันเองว่า "รัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ด้วยเหตุนี้ จึงต้องจัดการเปลี่ยนแปลง ถวายคืนพระราชอำนาจให้สำเร็จ