เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา นิตยสารชื่อดัง "ฟอร์บส์" ได้สัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะที่กำลังพำนักอยู่ที่นครดูไบ โดยยอมรับในหลายประเด็นตั้งแต่ชีวิตหลังการรัฐประหาร เบื้องหลังการทำงานร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และวังวนของปัญหาการเมืองไทย
คุณคิดอย่างไรต่อจีน อาเซียน และข้อพิพาทในทะเลจีนใต้
ผมเคยพบปะพูดคุยกับผู้นำอาเซียนหลายคน และได้ชี้แจงไปว่าข้อพิพาทในทะเลจีนใต้เกี่ยวข้องกับชาติสมาชิกอาเซียนหลายประเทศ โดยที่จีนถือเป็นประเทศคู่เจรจากับอาเซียนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ควรเป็นปัญหาระหว่างอาเซียนกับจีน แต่ควรเป็นการเจรจาระดับทวิภาคี จริงอยู่ที่ชาติสมาชิกอาเซียนอาจเกิดข้อกังวลบ้าง แต่อาเซียนไม่ควรมีส่วนเข้าไปเจรจาหรือกดดัน อาเซียนต้องปลอดจากความขัดแย้ง เพราะการประชุมระดับรัฐมนตรีที่กัมพูชาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาส่งสัญญาณที่เลวร้าย ทำให้สมาชิกอาเซียนไม่สามารถออกปฏิญญาร่วมกันได้ จากปัญหานี้ ทำให้ผมบอกนายกรัฐมนตรีฮุน เซนว่าว่าปัญหาข้อพิพาทนี้ไม่ควรเป็นเรื่องของชาติสมาชิกอาเซียน แต่ควรคงไว้ในกรอบของทวิภาคี โดยอาเซียนจะเป็นผู้ขับเคลื่อนการเจรจาให้เป็นไปอย่างราบรื่น
ขณะที่จุดยืนของคนดูเหมือนว่าเอื้อต่อประเทศจีน
ผมไม่คิดอย่างนั้นครับ ผมสนิทกับสหรัฐอเมริกา ผมเชื่อว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือสันติภาพ อาเซียนต้องมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ขณะนี้เรายังมีคนยากจนอีกมากมาย ทำไมเราไม่มองหาลู่ทางสันติและทำให้เกิดความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ คนจนไม่สามารถทนกับความจนไปได้อีกนานนัก ในขณะที่ปัญหาข้อพิพาทถ้าคุณเอาออกไปหรือรอก่อนได้ แต่ปัญหาเรื่องคนรอไม่ได้
สิ่งที่เราเรียกว่า การพัฒนาร่วมกันระหว่างไทยและมาเลเซีย ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เรากำลังนำแนวคิดนี้ไปใช้กับประเทศกัมพูชา เราควรจะร่วมมือกันมากกว่าจะต่อสู้กัน ขณะเดียวกันเราต้องการเห็นสัมพันธภาพที่ดีระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ถ้ามีอะไรที่ผมทำให้ความสัมพันธ์นี้ดีขึ้นได้ ผมก็จะทำครับ ผมรู้จักผู้นำในภูมิภาคนี้เป็นอย่างดี ผมต้องการนำเสนอทางออกแห่งสันติภาพ เพราะภูมิภาคนี้ต้องการความรุ่งเรือง โลกอยากเห็นเราสงบสุขและเจริญเติบโตเพราะขณะนี้โลกมีปัญหาทั้งในสหรัฐและยุโรป แอฟริกาก็ต้องมีความรุ่งเรืองเพื่อให้โลกเติบโต มิเช่นนั้นเศรษฐกิจโลกจะหยุดนิ่ง
คุณมีสายสัมพันธ์กับสมาชิกระดับคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาของจีนหรือไม่
ผมไม่รู้จักใครในระดับคณะกรรมาธิการสามัญ แต่ผมสนิทกับรัฐบาลจีน และมีโอกาสได้พูดคุยกัน ฟังความเห็น ผมเพิ่งไปสหรัฐอเมริกาและได้พบกับ "เฮนรี่ คิสซิงเจอร์" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เราได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับจีนและสหรัฐ จีนและอาเซียน แลกเปลี่ยนมุมมองในสิ่งที่ควรจะเป็น
เขาเป็นอย่างไรบ้าง
เขาเป็นคนฉลาด สมองยังทำงานได้ดี เดินมาส่งผมถึงลิฟต์ ยังแข็งแรงดี เราพูดคุยกันประมาณหนึ่งชั่วโมงเต็ม
ตอนนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในชีวิตคุณหรือไม่
ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นครับ เพราะผมเป็นผู้ค้นหาทางออก เมื่อใดก็ตามที่มีปัญหา ผมจะต้องหาทางแก้ไขให้ได้ เมื่อผมหาทางออกได้ ผมจะไม่รู้สึกแย่หรือยากลำบาก ผมพอใจ ผมเป็นคนที่มองโลกในแง่บวก มองและคิดไปข้างหน้า มากกว่ามองกลับไปข้างหลัง
ถ้าคุณมีโอกาสกลับประเทศไทย คุณต้องการตำแหน่งอะไรอีกหรือไม่
ผมอยากช่วยเหลือผู้คนด้วยวิธีการยังไงก็ได้ เท่าที่ผมสามารถทำได้ ผมจะทำ ผมมีประสบการณ์ที่จะช่วยเหลือทั้งในกระบวนการคิด หรืออะไรก็ตามแต่ ผมสามารถทำงานได้โดยที่คุณไม่ต้องจ่ายเงินให้ผม ถึงแม้ว่าผมจะกลายเป็นคนตกงาน แต่ยังไงผมก็ไม่ต้องการเงินเดือนครับ
ในช่วงนั้นหลายประเทศต้องการให้ผมตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น เพราะพวกเขาเห็นใจผมและเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผมไม่ต้องการ รัฐประหารเกิดขึ้นในไทยบ่อยครั้งมากและทุกอย่างก็กลับสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว ปกติแล้วจะไม่ค่อยทำอะไรกับนายกรัฐมนตรีที่ถูกโค่นอำนาจลง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นายกที่ถูกโค่นยังได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ทำให้พวกเขาพยายามล้างแค้น ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะประเทศที่เป็นเมืองพุทธ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว มันก็ต้องดำเนินต่อไป
สังเกตว่าคุณยังไม่พอใจจนกว่าคุณจะแก้ให้ทุกอย่างถูกต้องได้
ไม่ครับ ผมยังรอได้ แม้ว่าจะต้องนอนตายอยู่บนเตียงก็ตาม
คุณคิดถึงประเทศไทยหรือไม่ครับ
แน่นอนครับ ทุกคนคิดถึงประเทศของตัวเอง แต่เพราะผมจากบ้านมานาน ผมเริ่มปรับตัวได้แล้ว ผมอยู่ที่ไหนก็ได้ ผมพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ครับ
มีอะไรบ้างที่คุณอยากให้เราเข้าใจคุณ
ผมค่อนข้างโชคร้ายที่ประเทศไทยมีหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษอยู่แค่เพียง 2 ฉบับ และทั้ง 2 ฉบับอยู่ตรงข้ามกับผม ขณะที่คนนอกประเทศต้องติดตามข่าวสารของไทยจากหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับนี้ ตัวหนังสือที่เขียนเต็มไปด้วยอคติ ลำเอียงตั้งแต่ต้น ไม่เพียงแค่ในเนื้อหา รวมถึงการพาดหัว ดังนั้นอย่าไปเชื่อ ถ้าคุณอยากรู้จักตัวตนที่แท้จริงของคนชื่อทักษิณ และไปอ่านหนังสือพิมพ์เหล่านั้นแล้ว คุณจะไม่มีทางรู้จักทักษิณอย่างแท้จริง
แค่เพราะคุณต้องการช่วยเหลือชาวนา
ผมคงคิดแตกต่างจากคนอื่น โดยเฉพาะกลุ่มอนุรักษ์นิยม ผมอาจจะใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดนมาก จนเห็นว่ามีประเทศยากจนเพียงไม่กี่ประเทศ หนึ่งในนั้นรวมถึงไทย ผมจึงคิดว่าพรรคเพื่อไทยต้องหาทางช่วยคนรอดพ้นจากความยากจน ความมุ่งมั่นของผมไม่ได้อยู่แค่เรื่องการเมือง ถ้าผมจะกลับมาประเทศไทย ผมจะกลับไปช่วยเหลือคนยากจนให้ลืมตาอ้าปากได้ เพราะผมเชื่อว่าหากคนหลุดพ้นจากความยากจนได้ จะทำให้ประเทศชาติก้าวหน้า และเมื่อประเทศชาติก้าวหน้า เหล่าอำมาตย์ที่นั่งอยู่ข้างบนก็จะได้ประโยชน์ ขณะที่อำมาตย์พวกนั้นกลับไม่เข้าใจ พวกเขาต้องการอย่างที่เป็นอยู่
คุณรู้จัก บิล คลินตัน ใช่ไหม คุณมีแผนที่จะร่วมโครงการ "Clinton Global Initiative" (CGI) หรือเปล่า
ผมรู้จักครับ แต่โครงการดังกล่าวผมไม่แน่ใจ บางทีคลินตันอาจกำลังคิดว่าผมลี้ภัยอยู่ แต่จริง ๆ คลินตันเป็นคนแนะนำผมให้รู้จักกับชาวเปรูที่ชื่อ "เฮอร์นันโด เดอ โซโต" (Hernando de Soto) ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับทุนนิยม และสร้างพลังให้คนจน ซึ่งผมได้เคยเชิญมาที่ประเทศไทย ได้แลกเปลี่ยนกับความคิดและนำหลายนโยบายของเขาไปใช้
ผมอาจต้องถามว่าคุณยิ่งลักษณ์เข้ากับทหารได้ดีหรือไม่
ดีมากครับ
ดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เท่าที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไรกันครับ เราทำงานด้วยกันเป็นอย่างดี แต่อำนาจทางการเมืองไม่มีสูตรอะไรตายตัว สมัยที่ผมเป็นรัฐบาลผมก็ไม่มีปัญหา ผมได้แต่งตั้งหลายคนรวมถึงคนที่โค่นผมจากตำแหน่งนั่นคือ "พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน" แต่พอถึงเวลา พวกเขาก็ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติตาม
คุณเป็นนักการเมือง ขณะเดียวกันก็เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ คุณมีเงินมหาศาล แต่ทำไมคุณทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานะที่คนอื่นต้องวิจารณ์คุณว่ากระหายเงิน
นักการเมืองย่อมวิจารณ์คนอื่นในแนวทางที่แตกต่างกันไป ถ้าคุณเคยอ่านหนังสือการเล่นยูโด คุณจะพบว่าต้องโจมตีคู่ต่อสู้ในจุดที่แข็งแรงที่สุดยามเคลื่อนไหว ซึ่งจุดที่แข็งแรงที่สุดคือขา ที่เมื่อกำลังเคลื่อนแล้วโดนเตะสกัด คุณก็จะล้ม เช่นกัน ฝ่ายตรงข้ามผมพยายามโจมตีจุดที่แข็งที่สุดของผมตลอดเวลา ผมพยายามพูดมาตลอดว่าผมมีเท่าไหร่ก่อนเข้ามาเล่นการเมือง และเมื่อเล่นการเมืองผมมีลดลง หลังจากนั้นตลาดหุ้นก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น ไม่เพียงแต่ผมเท่านั้น แต่พวกเขาพยายามทำให้คนเข้าใจผิด เช่น เรื่องการหลีกเลี่ยงภาษี ก็จะบอกว่า ขนาดขายก๋วยเตี๋ยว ก็ต้องเสียภาษี เพราะฉะนั้นถ้าคุณขายกิจการ ก็ต้องเสียภาษีด้วย
ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ทำให้เข้าใจผิด เพราะขายก๋วยเตี๋ยวคือการขายสินค้า คุณต้องจ่ายภาษี ขณะที่บริษัทที่ขายโทรศัพท์มือถือจ่ายภาษีอยู่แล้ว และถ้าขายหุ้นในตลาดหุ้น ตามกฎหมายก็ไม่ต้องเสียภาษีกำไรส่วนต่าง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฝ่ายตรงข้ามผมนำมาใช้โจมตีว่าผมกระหายเงิน ผมมีเงินมหาศาลแต่กลับไม่ยอมเสียภาษี เพราะพวกเขารู้ดีว่าจุดอ่อนของสังคมไทยคือความอิจฉา คุณอาจจะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีในบางประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศก็แตกต่างกันไป จนถึงทุกวันนี้ ประเทศไทยยังไม่มีการเก็บภาษีส่วนต่างกำไร หรือ "ภาษีกําไรจากการขายทรัพย์สิน "capital gain tax" (CGX)