อภิสิทธิ์ไม่หวั่นดีเอสไอตั้งข้อหาปมชายชุดดำอัดมีธง

ไทยรัฐ 13 ตุลาคม 2555 >>>




"อภิสิทธิ์" ยันไม่หวั่นกรมสอบสวนคดีพิเศษตั้งข้อกล่าวหา กรณีชายชุดดำ อัดตั้งธงเล่นงาน ลั่น "เหลิม" ได้ มท.1 เอาอัลไพน์คืนธรณีสงฆ์...

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 13 ต.ค. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวก่อนเดินทางลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก ว่า การจัดนิทรรศการ “ผ่าความจริง ใครบงการมัจจุราชชุดดำรับจ้างฆ่าประเทศไทย” ควบคู่ไปกับการเปิดเวทีผ่าความจริงหยุดล้มรัฐธรรมนูญ ออกกฎหมายล้างผิดคนโกงที่สวนลุมพินีในวันนี้ เป็นสิ่งที่พรรคพยายามให้ความจริงกับประชาชนเพื่อประโยชน์ที่จะให้ประเทศเดินไปข้างหน้าบนความปรองดองที่ถูกต้อง ซึ่งทุกคนต้องยอมรับข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่กระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย เพราะที่ผ่านมามีกระบวนการบิดเบือนเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการเมือง ทั้งนี้ตนคิดว่าสังคมส่วนใหญ่เข้าใจ และเราจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร แต่การที่พรรคเพื่อไทย หรือกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเฉพาะแกนนำปฏิเสธรายงานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) หรือกรรมการสิทธิมนุษยชนเพราะไม่ถูกใจ ก็มีความชัดเจนว่าไม่ต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า แต่ยืนอยู่ตรงจุดที่ตัวเองต้องการ
ส่วนกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าทำใจไว้แล้วว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะต้องตั้งข้อกล่าวหาแน่นอนนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราไม่ประมาท ซึ่งเตรียมข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอยู่ โดยตนได้คุยกับนายสุเทพและพูดต่อที่ประชุม ส.ส. ชัดเจนแล้วว่า ทั้งตนและนายสุเทพไม่หวั่นไหว และพรรคก็ไม่ควรหวั่นไหว แต่ต้องเดินหน้ายืนหยัดในความถูกต้อง แม้จะมีแรงกดดันพรรคก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงจุดยืน ซึ่งมีความชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกับผู้ที่เกี่ยวข้องมีธงที่จะเล่นงานตนและนายสุเทพ
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการมอบนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย ที่ระบุให้มีการเร่งจัดสานเสวนาเรื่องรัฐธรรมนูญว่าเรื่องนี้รัฐบาลอนุมัติเงินไปแล้วก็ต้องมีการเดินหน้า แต่ต้องตรวจสอบว่าทำในรูปแบบไหน แต่การที่ ร.ต.อ.เฉลิม กำหนดว่าจะส่งวิทยากร เช่น นายอดิศร เพียงเกษ ผู้อำนวยการสถานีดาวเทียมเอเชียอัพเดต และนายสุธรรม แสงประทุม อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ไปมีส่วนร่วมในการสานเสวนาที่กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการ ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การแสวงหาความเห็นจากประชาชนอย่างกว้างขวางตามที่มีการอ้าง แต่เป็นการชี้นำหรือพยายามผลักดันไปสู่ความต้องการของรัฐบาล ซึ่งไม่ได้สร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และจะทำให้เงินภาษีของประชาชนก็จะสูญเปล่าด้วย ซึ่งตนไม่คิดว่าการกระทำของรัฐบาลจะตบตาประชาชนได้ เพราะคนไทยน่าจะรู้เท่าทัน อย่างไรก็ตามตนขอเตือน ร.ต.อ.เฉลิม ที่มอบนโยบายกับผู้ว่าราชการจังหวัดในลักษณะให้ช่วยแก้ต่างกับชาวบ้านว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกกลั่นแกล้งว่า อยากให้ระมัดระวังเพราะหลายเรื่องเป็นเรื่องของศาล และหาก ร.ต.อ.เฉลิม ไปเป็น รมว.มหาดไทย ตามที่มีกระแสข่าวก็จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้ไปจัดการเรื่องสนามกอล์ฟอัลไพน์ให้กลับมาเป็นที่ธรณีสงฆ์อย่างที่เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้เมื่อปี 2545 แต่ถ้าเป็น รมว.มหาดไทยแล้วไม่จัดการเรื่องนี้ก็ต้องให้ ร.ต.อ.เฉลิม 10 ปีที่แล้วมาจัดการ ร.ต.อ.เฉลิม ในปีนี้