'มาร์ค' อัด 'ทักษิณ' อำมหิต เหยียบศพคนหนุนกลับบ้าน

ไทยรัฐ 14 ตุลาคม 2555 >>>




“มาร์ค” ขึ้นเวทีสวนลุม ยันการตีแผ่ความจริงของประชาธิปัตย์ มีเป้าหมายชัด ไม่ได้ทำให้เกิดความขัดแย้ง ลั่นต่อสู้ตามหน้าที่ พร้อมใช้สิทธิตรวจสอบตามกฎหมาย อัด “ทักษิณ” อำมหิต เหยียบศพคนหนุนกลับบ้าน ...

เวลา 21.00 น. วันที่ 13 ต.ค. ที่อาคารสโมสรพลเมืองอาวุโสแห่งเมืองกรุงเทพฯ สวนลุมพินี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยงาน “เดินหน้าผ่าความจริง ใครบงการคนชุดดำ รับจ้างฆ่าประเทศไทย” ในหัวข้อ “เปิดใจเหตุการณ์รุนแรง ปี 53” ว่า การเผยแพร่ความจริงทั้งหมดที่พรรคประชาธิปัตย์ทำมา มีเป้าหมายชัดเจน ไม่ได้มาทำให้เกิดความขัดแย้ง แต่บ้านเมืองจะเดินไปข้างหน้าได้ต้องมีการเรียนรู้ทุกเหตุการณ์ในอดีตบนพื้นฐานข้อเท็จจริงและความยุติธรรม การจัดเวทีที่ผ่านมาไม่มีเวทีไหนที่เราต้องการให้ใช้ความรุนแรง ไปล้มล้างรัฐบาล ไปเผาบ้านเผาเมืองทั้งสิ้น ซึ่งความจริงที่ตนจะพูดเพื่อความปรองดอง และความสงบสุข แต่ต้องรู้ว่าสาเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นจากใคร หลายคนบอกว่าเป็นอดีตไปแล้วมาพูดทำไม แต่ 2 ปีที่ผ่านมามีกระบวนการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างเป็นระบบ และเพิ่มความขัดแย้งในสังคม พร้อมทั้งเอาคำโกหกมาบังหน้าว่าตนและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีใช้ความรุนแรงมาฆ่าประชาชน ทั้งนี้ กระบวนการโกหกยังไม่หยุด เพราะยอมไม่ได้ว่ามีชายชุดดำ ทำให้สิ่งที่โกหกว่ามีชายชุดดำกลับไม่จริง ซึ่งรายงาน คอป. หรือหลักฐานวันนี้ทำให้เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ต่อไป อย่างไรก็ตาม ในวันนี้รัฐบาลยังแบ่งฝ่ายหลับหูหลับตาช่วยคนผิด เช่น คนที่ทุจริตต้องติดคุกยังช่วยไม่หยุด และสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ยังแย่ โดยเฉพาะที่ทำกับข้าวไทย ถ้าไม่รีบแก้ไขจะให้อภัยไม่ได้ อย่างไรก็ตาม พวกตนจะต่อสู้ตามหน้าที่ และจะยืนยันสิทธิในการตรวจสอบตามกฎหมาย พร้อมทั้งเรียนรู้ว่าคนที่พอใจหรือไม่พอใจรัฐบาลขอให้ดำเนินการระบบการเมือง อย่าให้มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และขอให้ทุกคดีเดินต่อไป หากตนและนายสุเทพจะต่อสู้กับคดีเพื่อรักษาระบบของประเทศ
   “ถ้าชนะคดี เตรียมตัวไปติดคุกแทนผมได้เลย และขอเตือนข้าราชการหากทำผิดพวกเขาจะไม่ช่วยคุณ และทักษิณคุณไม่ต้องมานิรโทษกรรมผม สุเทพและผู้ก่อการร้ายเพียงจะนิรโทษกรรมคดีทุจริตของคุณ ถ้าคุณเดินหน้าทำและกลับบ้านมาได้กลับมาเลย และได้ชื่อว่าเป็นคนที่อำมหิตที่สุด เหยียบศพของผู้ที่สนับสนุนคุณกลับมา" นายอภิสิทธิ์ กล่าว