Facebook นพ.เหวง โตจิราการ 2 ตุลาคม 2555 >>>
วานนี้ (1 ต.ค. 55) นพ.เหวง โตจิราการ ได้โพสท์ข้อความแสดงความเห็นต่อการคัดค้านนโยบายรับจำนำข้าวของอาจารย์ และนักศึกษาของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และการแฉเบื้องหลังเหตุการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพช่วงหลายวันที่ผ่านมาดังนี้
วันนี้ (1 ต.ค. 55) ผมได้แถลงข่าวสองเรื่อง
เรื่องแรก ผมให้สติคณาจารย์และนักศึกษานิด้าที่นำโดยคุณอดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ว่าขอให้ถอยเถอะครับ ก่อนที่พวกคุณจะทำลายตนเองอย่างน่าอัปยศ ก่อนที่จะเป็นการฆ่าตัวตายที่น่าอนาถที่สุด
เรื่องที่สองผมให้สติ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ด้วยเช่นกันครับว่า ยอมรับความจริงที่คุณไม่รับผิดชอบในการลอกท่อดีกว่า แล้วออกมาขอโทษประชาชนเสีย ยังพอจะกู้หน้าของคุณเองได้
ก็แล้วแต่ว่า พวกเขาเป็นดอก บัวเหล่าไหนนะครับ พวกคุณทั้งสองกลุ่มตัดสินใจกันเอาเอง
ในเรื่องแรก ผมได้บอกกับพวกอาจารย์นิด้าและบางคนของธรรมศาสตร์ว่า
1. ที่พวกคุณอ้าง รัฐธรรมนูญนั้น พวกคุณอ้างโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญครับ เพราะเรื่องจำนำข้าวทุกเม็ดเป็นนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว และรัฐบาลต้องทำตามนโยบายดังที่รัฐธรรมนูญบังคับไว้ด้วยซ้ำ
2. เป็นการแสดงความโง่เง่าของพวกอาจารย์นิด้า ที่ไม่เข้าใจว่า พรรคเพื่อไทย ที่สืบเนื่องจากไทยรักไทยได้ศึกษาปัญหาของประเทศไทย รากเหง้าของปัญหา ทางแก้ แล้วสรุปเป็นนโยบายนำไปหาเสียงในการเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนพิจารณาเลือกเข้ามาเป็นเสียงข้างมากในสภาเพื่อจัดตั้งรัฐบาล แล้วนี่แหละคือเรื่องสำคัญมากที่สุดเรื่องหนึ่งคือ ความยากจนของประชาชน ซึ่งเป็นเกษตรกรเป็นจำนวนมากที่สุด
ปัญหาความยากจนของเกษตรกรเกิดจากขายสินค้าได้ราคาต่ำมาก พรรคต้องการช่วยเกษตรกรจึงเสนอนโยบาย ”จำนำข้าวทุกเม็ด” ออกมา แล้วก็ได้ผลครับชาวนาขายข้าวได้ราคาสูง ข้าวขาวได้กว่าหมื่นทุกคน ขาวหอมมะลิได้เกือบสองหมื่นทุกคน เขาดีใจมากครับ พวกเขาไม่เคยได้ราคาดีเท่านี้มาก่อน เมื่อได้มาแล้วก็ไปใช้หนี้สินนอกระบบที่มีดอกเบี้ยมหาโหด และไปยกระดับการครองชีพของพวกเขา และการศึกษา อนาคตของลูกหลานของพวกเขา อาจารย์นิด้า อำมหิตพอที่จะบอกว่า ต้นทุน 7,500 ก็ให้ขายแค่ 8,000 ก็พอ นี่แสดงให้เห็นชัดเลยว่าพวกอาจารย์นี้รับใช้พวกนายทุนอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง แล้วต้องการให้ชาวนาตกนรกหมกไหม้ไปชั่วนาตาปี
3. เป็นการประจานพวกอาจารย์นิด้าว่า ไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์แม้แต่น้อย ครับ หลักการค้าเสรี การแข่งขันกันอย่างเป็นธรรมในเรื่องข้าวนั้น กำหนดโดยตลาดโลกครับ แล้วก็กำหนดโดยอุปสงค์ อุปทานระดับโลกไม่ใช่ระดับภายในประเทศ นี่โง่หรือแกล้งโง่ก็ไม่รู้ สงสัยจะรับใช้ประชาธิปัตย์จนโงหัวไม่ขึ้น ต้องการกระหน่ำตีรัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้พังพินาศลงไปในไม้เดียว เอาเข้าจริงกลายเป็น บูมเมอแรงกลับมาเฉือดคอตนเองมากกว่า แล้วตอนนี้ที่นักวิชาการเหลือง สื่อเหลือง แช่งชักหักกระดูกว่า รัฐบาลปูทำให้ประเทศขาดทุนสองแสนล้าน นี่ก็โง่อีก เพราะเนื่องจากวิกฤตอากาศทั่วโลก ตอนนี้ดัชนีอาหารเพิ่มสูงขึ้นหลายจุดครับ ราคาข้าวในตลาดโลกสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ข้าวขาวราคาพุ่งไปที่ 670 เหรียญต่อตันแล้วครับ (สองหมื่นเศษ) เราได้กำไรแล้วห้าพันถ้าขายตอนนี้ ข้าวหอมมะลิพุ่งไปที่ 1,300 เหรียญแล้วครับ (สามหมื่นเก้าพัน) เราได้กำไรหมื่นเก้าพันบาทต่อตันถ้าขายตอนนี้ เห็นไหมครับ ดีไม่ดีเราจะได้กำไรหลายแสนล้านบาท สามารถเอาเงินไปใช้ในการจำนำข้าวฤดูกาลต่อไป
4. อาจารย์พวกนี้ใจร้ายต่อชาวนาอย่างรุนแรง ต้องการให้ชาวนาตกนรกขุมยากจนไปชั่วกัลปาวสานหรือไร รับใช้พวกโรงสีนายทุนค้าข้าวและพรรคประชาธิปัตย์ อย่างลืมหูลืมตาไม่ขึ้นเลยครับ
เรื่องสุขุมพันธ์ ในวันนี้ (1 ต.ค. 55) คอลัมน์ลมเปลี่ยนทิศในไทยรัฐได้เปิดโปงการโกหกอย่างหน้าด้านๆของประชาธิปัตย์อย่างหมดเปลือก ที่บอกว่า ฝนตก 500 ล้าน ลบ.ม. แล้วทำให้ระดับน้ำสูง 721 มม. เป็นฝน 100 ปีก็กลายเป็นเรื่องโกหกเพราะกรมอุตุได้ออกมาประจานว่า กรมอุตุไม่มีสถิติ ฝนร้อยปี (นี่ก็ประจานจำลองศรีเมืองที่เคยโกหกว่าฝนพันปี) ที่มีสถิติน้ำฝนมากที่สุดก็ในปี 2515 ระดับแค่หกร้อยกว่ามม. แล้วก็ในปีนี้เดือนกันยายนทั้งเดือนปริมาณน้ำฝนทั้งหมดเท่ากับ 340 มม. เท่านั้น ที่ กทม. ของสุขุมพันธ์ออกมาโทษฟ้าฝนว่าตกหนักจนทำให้น้ำท่วมถนนสายต่างๆจึงเป็นเรื่องเท็จเรื่องโกหกพกลมไปวันๆ
แล้วฝนตกก็ตกเป็นหย่อมๆครับ หย่อมละประมาณนับสิบตารางกิโลเมตรเท่านั้น แต่ กทม. กว้างใหญ่ไพศาลมาก กินพื้นที่หลายพันตารางกิโลเมตร ฝนไม่ได้ตกทั่วฟ้า กทม. ครับ ดังนั้นหากท่อระบายน้ำใช้งานได้ไม่ต้อง 100% ดอกครับ เอาแค่ 60% ก็พอ น้ำก็ไม่ท่วมแล้วหรือก็ท่วมไม่ถึงสิบห้านาที เพราะจะไหลลงคูคลองและแม่น้ำเจ้าพระยาได้หมด แล้วพอฝนตก รถก็ติด ก็เลยทำให้รัฐบาลต้องสั่งให้ ราชทัณฑ์ และตำรวจไปช่วยกันลอกท่อ 12 จุดที่รถติด ก็เลยไปพบความจริงว่า กทม. ไม่สนใจลอกท่อ มีก้อนหินขนาดยักษ์จำนวนมากอัดในท่อ มีถุงทรายบิ๊กแบ๊คอัดอยู่ในท่อ ปชป. ยังหน้าด้านมาเถียงฉอดๆว่า เพื่อไทยยัดเข้าไป ทักษิณสั่งให้ ตำรวจ และราชทัณฑ์ยัดเข้าไป พูดได้ไม่อายฟ้าอายดินเลยครับ เวลาไปลอกท่อเขาไม่ได้ไปลอกกลางคืน ผู้คนเห็นทั่วบ้านทั่วเมือง หากเอาก้อนหินถุงทรายยัดใส่ ดีไม่ดี ราชทัณฑ์และตำรวจคงถูกรุมประชาทัณฑ์ตายเสียก่อน บอกว่าเป็นถุงทรายใหม่ๆ ผมสงสัยว่า ปชป. เอาลิ้นไปเลียดู เอาจมูกไปดมหรือย่างไรจึงรู้ได้ถ่องแท้ขนาดนี้ แล้วเมื่อวานนี้ราชทัณฑ์และตำรวจก็ไปลอกที่สุขุมวิท ก็กวาดได้ไขมันจำนวนมหาศาลที่อุดตันท่ออยู่ คราวนี้ กทม. เงียบเป็นเป่าสาก แล้วไปด่าราชทัณฑ์ว่า เอ้าราชทัณฑ์รายงานกทม.ว่าไม่มีขยะค้างท่อ ก็เลยถึงบางอ้อว่า กทม. จ้างราชทัณฑ์ แค่ 70 ล้านจากงบพันล้านบาท ที่เหลือไม่รู้เข้ากระเป๋าใครหรือกลายเป็นไวน์รสเลิศหรือเปล่า แล้วที่จ้างราชทัณฑ์ก็เช่น บางเขตมี 600 ซอย แต่จ้างแค่ 40 ซอยเป็นต้น แล้ว กทม. มีถนนเกือบหมื่นกิโลเมตร จ้างราชทัณฑ์ลอกแค่ 3,983 กม. เท่านั้นแล้วจะด่าว่าราชทัณฑ์ได้อย่างไร พอโดนจับผิดเต็มเปาก็หันมาขู่ราชทัณฑ์ว่า ต่อไปไม่จ้างลอกท่ออีกต่อไป ราชทัณฑ์สวนกลับครับ ว่าเชิญไปจ้าง เอกชนเลยครับ เพราะประสบการณ์ราชทัณฑ์ยาวนานกว่าหกสิบปีแล้วครับ ไม่มีเอกชนในไทยหรือในโลกนี้ที่จะมีประสบการณ์เท่าราชทัณฑ์อีกต่อไป แล้วครับ
คอลัมน์ลมเปลี่ยนทิศวันนี้ในไทยรัฐถึงกับไล่ กทม. สุขุมพันธ์เลยว่า “ออกไป๊” ผมก็ชักเห็นด้วยแล้วครับ ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ครับ ออกไป ออกไป ออกไป ดีกว่าครับ