จากกรณีการเสียชีวิตของนายกิตติชัย พยานปากสำคัญคดี 6 ศพวัดปทุมฯ ว่าเสียชีวิตอย่างกะทันหันที่โรงพยาบาลศิริราชนั้น ล่าสุด นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความคดี 6 ศพวัดปทุมฯ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หลังจากทราบข่าวการเสียชีวิตของนายกิตติชัยก็ประสานไปทางญาติ โดยแนะนำให้ชะลอการฌาปนกิจศพออกไปก่อน จากเดิมที่กำหนดไว้เป็นวันที่ 5 ต.ค. นี้ เนื่องจากเชื่อว่าสาเหตุการเสียชีวิตน่าจะสืบเนื่อง จากการที่นายกิตติชัยถูกยิงเข้าที่ปอดและมือ จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 ที่วัดปทุมฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่ ร.พ.ศิริราช หลังออกจาก ร.พ. นายกิตติชัยต้องพบแพทย์เป็นประจำ พร้อมกันนี้ทีมทนายยังแจ้งให้พนักงานสอบสวนทราบเพื่อให้ส่งศพคืนมาผ่าพิสูจน์ใหม่ เพราะตอนเสีย ชีวิตที่ ร.พ.ศิริราช ยังไม่ได้ผ่าพิสูจน์
"เท่าที่ทราบเขาเจ็บป่วยรักษาตัวมาตลอด ทางกฎหมายถือว่าเป็นเหตุเชื่อมโยงทำให้อ่อนแอ เพราะจากการถูกยิงอาจทำให้มีโรคอื่นแทรกซ้อนเข้ามาจึงอยากให้ผ่าพิสูจน์ก่อน เพราะอาจจะเป็นศพที่ 99 ในการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ?" ทนายความคดี 6 ศพวัดปทุมฯ กล่าว
นายโชคชัยกล่าวอีกครั้งว่า แต่ล่าสุดทราบว่าญาติทำพิธีฌาปนกิจศพไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตของนายกิตติชัยไม่ส่งผลกระทบต่อรูปคดี เพราะนายกิตติชัยให้การในชั้นพนักงานสอบสวนอย่างละเอียดชัดเจนแล้ว ดังนั้น เมื่อให้การไว้แล้วจึงไม่มีอะไรต้องห่วง อีกทั้งทนายได้แถลงต่อศาลไปแล้วเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมาว่าขอนำคำให้การของนายกิตติชัยมาพิจารณาในศาลด้วย นอกจากนี้ ยังมีประจักษ์พยานอีกหลายปากที่รอให้การในศาล จึงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อคดี 6 ศพวัดปทุมฯ แต่อย่างใด
ต่อมาผู้สื่อข่าวตรวจสอบไปยังญาติพี่น้องของนายกิตติชัยที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น โดยนายไวพจน์ ปะวะสาเท น้องเขยของนายกิตติชัยเปิดเผยว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 5 ต.ค. ญาติพี่น้องได้ร่วมกันทำพิธีฌาปนกิจศพนายกิตติชัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วที่วัดศิลาอาสน์ บ้านหินลาด ต.พังทุย อ.น้ำพอง แต่ก่อนหน้านี้ทางญาติพี่น้องได้รับการติดต่อจากทนายความคดีวัดปทุมฯ ว่าอย่าเพิ่งฌาปนกิจศพ พร้อมทั้งแนะนำว่าให้นำศพผ่าพิสูจน์ก่อน แต่ทางพ่อแม่ของนายกิตติชัยไม่ติดใจการเสียชีวิต เพราะได้ดูศพแล้วไม่เห็นว่ามีร่องรอยบาดแผลใด จึงอยากประกอบพิธีกรรมทางศาสนาให้เสร็จสิ้นไป
ด้านนางธิดา ถาวรเศรษฐ ได้กล่าวหลังจากทราบข่าวกรณีพยานปากเอกวัดปทุม “กิตติชัย แข็งขัน” เสียชีวิตว่า ทราบข่าวจาก พล.ต.อ.วิรุฬ ฟื้นแสน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ว่านายกิตติชัยเสียชีวิตจากเส้นเลือดอุดตัน จึงประสานงานไปที่ภรรยาของนายกิตติชัยเพื่อจะส่งเงินช่วยเหลือ ในตอนแรกคาดว่าจะไปร่วมงานศพแต่ไปไม่ทัน ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นยังตอบไม่ได้ว่ามาจากสาเหตุอะไร แต่เป็นที่น่าสงสัยว่านายกิตติชัยยังมีสภาพร่างกายแข็งแรงอยู่ ทำไมถึงได้เสียชีวิตอย่างรวดเร็วกะทันหัน คงต้องตรวจสอบรายละเอียดจากแพทย์ที่ดูแลรักษา
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 7 บ้านหินลาด ต.พังทุย อ.น้ำพอง บ้านของนายปราณี แข็งขัน นางเหรียญทอง แข็งขัน พ่อแม่ของนายกิตติชัย โดยนางเหรียญทองกล่าวว่า ลูกชายไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ มีอาชีพเป็นช่างก่อสร้างรับจ้างทั่วไป และไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดง จนกระทั่งวันที่ 19 พ.ค. 2553 ลูกชายถูกยิงขณะหลบอยู่ใต้ท้องรถในวัดปทุมฯ ถูกยิงเข้าที่สะโพกด้านหลังและฝ่ามือขวา บาดเจ็บสาหัส นำส่ง ร.พ.กลาง รักษาตัวอยู่ 25 วัน อาการบาดเจ็บค่อยยังชั่ว จึงกลับมาพักฟื้นที่บ้าน ระหว่างนั้นมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาเยี่ยมให้กำลังใจ ส่วนค่ารักษาทางพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงช่วยเหลือ
นางเหรียญทอง มารดาผู้ตายกล่าวว่า ก่อนเสียชีวิตนายกิตติชัยทำงานเป็นหัวหน้า รปภ. อยู่ที่หมู่บ้านฮันนี่วิว พุทธมณฑลสาย 2 เขตตลิ่งชัน หลังจากเลิกงานออกเวรนอนพักผ่อนอยู่ในป้อมยาม ระหว่างนั้นมีอาการนอนสะดุ้งหลายครั้ง เพื่อนๆ จึงปลุกและถามว่าเป็นอะไร ต่อมามีอาการปวดหัวจึงให้เพื่อนไปซื้อยาแก้ปวดมาให้กินแล้วนอนต่อ จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 1 ต.ค. เพื่อนมาปลุกแต่ไม่ตื่นและมารู้ว่าเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งให้ตำรวจมาดู และนำศพส่ง ร.พ.ศิริราช ผลการตรวจทางแพทย์บอกว่าหัวใจล้มเหลว ทางพ่อแม่และญาติพี่น้องไม่ติดใจและทำพิธีฌาปนกิจศพไปแล้ว โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยมอบเงิน 120,000 บาทช่วยเหลือ