'เหวง' แฉหลักฐานการตาย "ฮิโรยูกิ" อัด "สมชาย" ทำตัวเป็นเกราะของ ศอฉ.

Facebook นพ.เหวง โตจิราการ 11 ตุลาคม 2555 >>>




วันนี้ (11 ต.ค. 55) นพ.เหวง โตจิราการ โพสท์ข้อความแฉหลักฐานการเสียชีวิตของ ฮิโรยูกิ มูราโมโต้ และตอบโต้ สมชาย หอมลออ กรณีอ้าง "ชายชุดดำ" ดังนี้

แฉหลักฐาน "ฮิโรยูกิ" ตายจากกระสุน M16

เพื่อนๆครับ นี่เป็นภาพสเก็ตการตรวจศพ ฮิโรยูกิ มูราโมโต้ บันทึกโดย นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ เป็นผู้ร่วมตรวจด้วยตนเอง จึงเป็นความจริงที่ไม่มีใครโต้แย้งได้ หลักฐานจากศพยืนยันว่ากระสุนเข้าทางด้านหน้ายิงเข้าตรงเหนือหัวใจเล็กน้อย (แสดงคนยิงตั้งใจฆ่า) กระสุนทะลวงเหนือหัวใจเล็กน้อยตัดขั้วเส้นเลือดใหญ่เป็นโพรงใหญ่ 1.5 ซม. 3 เท่าของรูเข้าครับแล้วพุ่งทะลวงออกเป็นโพลงใหญ่ 1.5×3 ซม. ใหญ่กว่ารูเข้า 0.5 ซม. ถึง 6 เท่าครับ กระสุนชนิดเดียวที่รูออกใหญ่กว่ารูเข้าถึง 6 เท่าเช่นนี้มีแต่เอ็ม 16 เท่านั้นครับ อาก้าทำไม่ได้ครับ แล้วยิงจากด้านฟน้าทะแยงซ้ายก็มีแต่ทหารเท่านั้นครับ นี่จะพยายามยัดให้ชายชุดดำอีก เพราะหาว่าชายชุดดำไงทหารไม่มีอาก้า ก็แปลว่ายัดความตายของฮิโรยูกิมาให้คนเสื้อแดงฆ่าอีกแล้วบ้าบอคอแตกได้สุดจักรวาลจริงๆ


อัด "สมชาย" ทำตัวเป็นเกราะคุ้มกัน ศอฉ.


วันนี้จากข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆก็ยืนยันชัดได้ว่า ที่ สมชาย หอมละออ เขียนรายงานฉบับสมบูรณ์นั้น เอามาจากฝ่ายทหารทั้งนั้น
(ผมไม่ได้เข้าฟังการพิจารณาของคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าว พวกประชาธิปัตย์เป็นคนดูแลครับ)

คำพูดของสมชายที่สื่อเอามาลงกล่าวว่า “จากการพูดคุยกับหน่วยข่าวกรองทำให้เชื่อได้ว่ามีการปฏิบัติของคนชุดดำจริงในหลายเหตุการณ์ทั้งก่อนและหลัง 10 เมษายน 53” ยังพูดต่อนะครับว่า “โดยที่กลุ่มนี้มีความเกี่ยวพันกันกับทหารพรานค่ายปักธงชัย”

นายสมชายยังเป็นเกราะคุ้มกันให้ ศอฉ. ด้วยตัวเองว่า “จากการตรวจสอบการปฎิบัติหน้าที่ของทหารไม่ได้มีการเบิกใช้เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 และระเบิดเอ็ม 67” ยิ่งพูดยิ่งเลอะเทอะครับ

สมชาย หอมลออ คุณเป็นคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ นะครับ คุณพูดอย่างนี้ คุณไม่ใช่กรรมการอิสระแล้วละครับ คุณเป็น “กระบอกเสียงของทหารของ ศอฉ. ของรัฐบาลอภิสิทธิ์เสียแล้วครับ”

คุณไม่ได้ทำหน้าที่ในการ “ตรวจสอบและค้นหาความจริง” เลย แต่คุณทำหน้าที่เสมียนจดชวเลข บันทึกคำพูดที่ “ปกป้องตนเอง ใส่ร้ายคนเสื้อแดงแต่ประการเดียวล้วนๆ”ของพวกทหารแล้วละครับ

น่าเสียดายจริงๆ ที่ คอป. กลายเป็น “คณะตลกที่คอยอุ้มปกป้องทหาร” ไปเสียแล้วใช่ไหมนี่ ??? นี่คุณทำลาย งานของคุณด้วยตัวคุณเองนะครับ แล้วคุณทำไมไม่ไปถามตำรวจและแพทย์ที่เขาได้มีโอกาสตรวจชิ้นโลหะจากร่างกายของร่มเกล้าดูว่า เป็นอะไร คุณไม่รู้หรือว่า ในหน่วยทหารระดับหมวดนั้นต้องติด ระเบิดขว้างเป็นประจำโดยปกติอยู่แล้ว และในระดับหมวดหรือระดับกองร้อยต้องมี ปืนเอ็ม 79 เสมอครับ และปัจจุบันปืนเอ็ม 16 บางประเภทเขามีเอ็ม 79 ติดพร้อมในกระบอกเดียวกันครับ แล้วสมชายไปบอกว่าทหารไม่ได้เบิกระเบิดขว้างและไม่ได้เบิกเครืืองยิงกระสุนเอ็ม 79 ก็คนที่ตั้้งใจจะสังหารร่มเกล้านั้น ต้องมีเอ็ม 67 อยู่แน่นอนแล้วครับ เรื่องเบิกจากที่ไหน ก็ต้องสอบค้นกันอีกทีครับ ส่วนสมุนอันธพาลของนายอภิสิทธิ์ผมไม่ต้องการไปตอบโต้เขาครับ

เรื่อง ฮิโรยูกิ มูราโมโต้ ผู้ที่ให้ความเห็นว่า ตายจากอาก้า นั้นเป็นนายตำรวจยศ พล.ต.ท. คนหนึ่งที่ไม่ได้ตรวจศพด้วยตนเอง แต่ไปเอาหนังสือรายงานของแพทย์ผู้ที่ตรวจศพมาประมวลเข้าแล้วทำความเห็น
การสรุปจากเอกสารเช่นนี้รับฟังไม่ได้ครับ

ลักษณะของบาดแผลของฮิโรยูกิ ผมเองได้อ่านในวันที่ 12 เมษายน 2553 ที่เวทีสี่แยกราชประสงค์ ทั้งคุณหมอเชิดชัย ตันติศิรินทร์ และคุณหมอหวาย เอามาให้ผมอ่าน เพราะผมเอง ไม่ควรเข้าไปตรวจศพด้วยตนเอง เนื่องจากเป็นคู่กรณีกับ ศอฉ. และรัฐบาลอภิสิทธิ์โดยตรง

ภายหลังจากที่คณะแพทย์จากหลายสถาบัน (กว่าสิบสถาบัน ในนั้นมีหมอชลน่าน หมอเชิดชัยตันติศิรินทร์เข้าร่วม และ มีหมอหวายสังเกตการณ์อยู่) คณะแพทย์บันทึกไว้ว่า

แผลเข้าเล็กๆครับ เป็นรูคล้ายรูกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 7 มม. ส่วนแผลออกเป็นช่องขนาดใหญ่ คล้ายๆสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดเป็นเซนติเมตรxเซ็นติเมตร ครับ คือรูเข้าเท่ากับปลายนิ้วก้อย แผลออกเป็นโพรงเท่ามะนาวผลใหญ่ๆ ปืนที่ก่อแผลเช่นนี้ได้ เท่าที่ผมค้นคว้ามา มีเอ็ม 16 เท่านั้นครับ อาก้าไม่สามารถทำให้เกิดแผลเช่นนี้ได้

พล.ต.ท. ท่านนั้น ต้องการมารับใช้ฝ่าย ศอฉ. ในตอนนั้นมากกว่าจึงทำข้อสรุปว่าเป็นปืนอาก้า หรือศูนย์ห้านาโต้ คำถามแรกคือ คุณไม่ได้ตรวจศพด้วยตนเอง แล้วคุณออกความเห็นได้อย่างไร (ศพส่งไปประเทศญี่ปุ่นแล้ว) คุณอ่านรายงานแล้วคุณก็จินตนาการเอาแล้วหาตรรกะมารองรับ รับฟังไม่ได้ครับ
ส่วนเรื่อง “รุมยิงนกในกรง” คนเขียนเขาเพิ่งส่งมาให้อาจารย์ธิดาถาวรเศรษฐในวันที่ 6 ตุลาคม 2555 นี้เองครับ ย่อมแสดงว่าหนังสือเสนาธิปัตย์ของ ยศ.ทบ. ยังคงความเห็นเดิมของ ทบ. อยู่ ดังนั้นผู้เขียนเขาจึงยังยืนยันความคิดเห็นของตนเองอยู่ นี่พอจะนับได้ว่าเป็นชายชาติทหารที่ออกความเห็นตรงไปตรงมา ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกว่ามีการเปลี่ยนเนื้อหาไปแล้ว ก็คงไม่จริง ครับ ที่ผมกังวลใจเป็นอย่างยิ่งก็คือ ยศ.ทบ. ทำข้อเสนอแนะว่าควรจะเอาบทเรียนนี้ไปร่ำเรียนกันในโรงเรียนนายร้อย จปร. นี่จะแปลว่าจะสอนทหารใช้จำนวนพลสี่กองพล ไปฆ่าประชาชนสองมือเปล่ากลางกรุงเทพมหานครอย่างนั้นเลยหรือเปล่าครับ ? พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

และเรียนว่า จดหมายฉบับนี้เผยแพร่ใน uddred.blogspot.com ครับ จึงขอเรียนเชิญเพื่อนๆทุกท่านเข้าไปชมบล็อกดังกล่าวได้ทุกวันนะครับ และหากท่านสะดวกก็ช่วยให้ความคิดเห็นไว้ด้วยนะครับจักขอบพระคุณยิ่ง