แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ พยายามโหมกระพือเรื่องชายชุดดำเชื่อมโยงเข้ากับคนเสื้อแดง เพื่อเน้นย้ำว่ามีผู้ก่อการร้ายแฝงอยู่ในม็อบ คงหวังรองรับความชอบธรรม ในการส่งทหารติดอาวุธจริงเข้าสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 แต่คงลืมนึกไปว่า ในยุคสมัยนี้ ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้กว้างขวางมากมาย คลิกหาคลิปชายชุดดำ เห็นอยู่แค่ไม่กี่วินาที แต่เห็นคลิปชายชุดเขียวภายใต้คำสั่ง ศอฉ. ยิงคนล้มร่วง หลายจุด หลายเหตุการณ์
อีกทั้งการจุดประเด็นว่า เสื้อแดงมีชุดดำแอบแฝงเพื่อเข่นฆ่าทหารบ้าง หรือชุดดำฆ่าคนเสื้อแดงกันเองเพื่อป้ายสีรัฐบาลบ้าง ลืมนึกไปว่า ประชาชนในวันนี้ สามารถประมวลข้อมูลมาคิดวิเคราะห์กันเองได้หลายแง่มุม เช่น วิเคราะห์ได้ไม่ยากเลยว่า คืน 10 เมษายน คือเครื่องบ่งชี้ว่าเสื้อแดงไม่เกี่ยวข้องกับชายชุดดำอย่างชัดเจน !
เพราะเป็นคืนแรกที่เกิดความรุนแรงทั้งประชาชนผู้ชุมนุมและทหารล้มตายกว่า 20 ศพ ทั้งมีคลิปเห็นชายชุดดำครั้งแรก ถ้าอ้างว่าชายชุดดำเป็นพวกเสื้อแดงออกมายิงใส่ทหารจนล้มตาย !? ย่อมแปลว่า เป็นแผนการที่วางเอาไว้ร่วมกัน
ถ้าเป็นเช่นนั้น มีแต่ม็อบจะต้องขยายเหตุการณ์ ทำให้การจลาจลลุกลามบานปลาย จนนำไปสู่ชัยชนะแบบแตกหัก !
แต่ความจริงที่ประชาชนทั้งประเทศเห็น คือ แกนนำเสื้อแดง โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประกาศขอติดต่อกับรัฐบาลและทหารเป็นการด่วน เพื่อยุติการเจ็บตาย พร้อมกับเจรจาให้ทั้งสองฝ่ายถอยกลับที่ตั้ง จนเหตุการณ์ยุติลงได้ในที่สุด
ถ้าอุตส่าห์วางแผนชั่วร้าย ดังคำกล่าวอย่างหนักแน่นเหลือเกินของแกนนำประชาธิปัตย์ ! ถ้าอุตส่าห์จัดให้มีชุดดำออกมายิงถล่มฆ่าทหาร แล้วยิงใส่ม็อบ ยิงใส่นักข่าวญี่ปุ่น เพื่อป้ายสี ศอฉ. ขนาดนี้แล้วมีแต่ต้องทำให้ลุกลามบานปลายนำไปสู่การโค่นล้มรัฐบาลกันในคืนนั้น แล้วแกนนำม็อบกลับสั่งหยุด ทำทุกวิถีทางเพื่อให้คลี่คลายไปทำไม !!
เรื่องแบบนี้ประชาชนมองออก แต่แกนนำประชาธิปัตย์มองไม่ออก ผู้ค้นหาความจริงของ คอป. กลับมองไม่เห็น ยังกล่าวหาม็อบแดงโดยไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง !