ทีมข่าว นปช.
15 ตุลาคม 2555
วันที่ (15 ต.ค. 55) ห้อง 612 ศาลอาญา (ถ.รัชดาภิเษก) ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดี น.ส.นฤมล วรุณรุ่งโรจน์ (จ๋ายิง ฮ) และพวกรวม 4 คนในข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2552 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยทั้งสี่กับพวกได้ร่วมกันข่มขืนใจและขู่เข็ญ ส.อ.อำนวย ทองรินทร์ และพลทหารวัชระ แสนสีแก้ว ซึ่งได้รับมอบหมายให้สังเกตการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง
ทหารทั้งสองคนกล่าวหาว่า จำเลยทั้งสี่กับพวกได้ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายจับ และล็อกตัวทั้งสองไว้ ซึ่งทำให้ทั้งสองกลัวว่า จะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และเสรีภาพจนทั้งสองจึงจำต้องยอมให้จำเลยทั้งสี่กับพวกควบคุมตัวไว้ จำเลยทั้งสี่กับพวกได้ร่วมกันจับตัว ส.อ.อำนวย ล็อกมือไขว้หลังใส่กุญแจมือและลากพาตัว ส.อ.อำนวย ไปยังเวทีปราศรัยติดไว้กับแผงเหล็ก ทำให้ ส.อ.อำนวย ต้องถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังทั้งสองงปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่า จำเลยทั้งสี่กับพวกได้ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายชกต่อยเตะทำร้ายร่างกายผู้เสียหายทั้งสอง และ น.ส.นฤมล ได้ใช้ไม้ยาวประมาณ 2 ฟุต เป็นอาวุธตีทำร้าย ส.อ.อำนวย ที่ศีรษะจนศีรษะแตก และเป็นเหตุให้ผู้เสียหายทั้งสองได้รับอันตรายแก่กาย
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในวันดังกล่าว ส.อ.อำนวย ทองรินทร์ และพลทหารวัชระ ถูกจำเลยทั้งสี่ และพรรคพวกที่ยังหลบหนีอีก 4 คนควบคุมตัวทั้งสอง โดยล็อกตัวไว้กับแผงเหล็กหลังเวทีปราศรัย สะพานมัฆวานรังสรรค์ (ถ.ราชดำเนิน)
ทั้งสองถูกทำร้ายร่างกาย โดยถูกตีด้วยไม้กระบองตีหลายครั้ง และถูกกระทืบจนเกิดบาดแผลที่ใบหน้า, ศีรษะ และหลัง จน ส.อ.อำนวย และพลทหารวัชระ ต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 2 สัปดาห์ และ 5 วันตามลำดับ เวลานั้นแม้เป็นช่วงเวลากลางคืน แต่ก็มีแสงไฟสว่างมากพอที่จะเห็นใบหน้าจำเลยทั้งหมดได้อย่างชัดเจน
ศาลจึงพิพากษาให้ยกฟ้องในข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธ แต่ให้ลงโทษ น.ส.นฤมล วรุณรุ่งโรจน์ (จำเลยที่ 3) ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น 1 ปี และให้ลงโทษ กิตติศักดิ์ จีนขจร (จำเลยที่ 4) ในข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น 3 ปี
ส่วน ศรชัย ศรีดี (จำเลยที่ 1) และ ประจวบ บุญสันเทียะ (จำเลยที่ 2) หลบหนีคดี ศาลจึงให้จำหน่ายคดีออกชั่วคราว และให้ออกหมายจับจำเลยทั้งสองมาดำเนินคดีต่อไป
น.ส.นฤมล วรุณรุ่งโรจน์ และ กิตติศักดิ์ จีนขจร ถูกส่งตัวลงไปใต้ถุนศาลอาญาโดยทันที ขณะนี้ทนายความจำเลยกำลังทำคำร้องขอประกันตัวจำเลยทั้งสองด้วยวงเงินประกัน 400,000 บาท