บ้านเมือง 23 กันยายน 2555 >>>
ปฏิเสธไม่ได้ว่า บทสรุปของ คอป. ส่งผลให้สถานการณ์การเมืองร้อนขึ้นมาในพริบตา แม้ว่า "สถานการณ์น้ำ" กำลังชุ่มโชกและไหลนองไปทั่วทุกพื้นที่ก็ตาม
คอป. อันมี "คณิต ณ นคร" ทำหน้าที่เป็นประธาน ได้จัดแถลงเผยแพร่รายงานฉบับสมบูรณ์ก่อนหมดวาระ
โดยเนื้อหาของรายงานที่ได้สรุปและเผยแพร่ต่อสาธารณะ มีหลายประเด็นที่ละเอียดอ่อน และเป็นชนวนให้เกิดการวิวาทะอย่างยิ่ง
ทั้งฝ่ายที่เป็น "คู่กรณี" ของความขัดแย้งในสังคมไทย และทั้งฝ่ายอื่นๆ ที่มีทั้งแนวร่วมและแนวต้านที่พร้อมเข้าร่วมผสมโรงกับประเด็นความ ขัดแย้ง เพื่อหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่
คอป. ได้แถลงเผยแพร่รายงานการค้นหาความจริง เหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. 2553
รายงานที่ว่านี้ มีความหนากว่า 300 หน้า โดยมีเนื้อหาพูดถึงการหาสาเหตุของเหตุการณ์ความรุนแรงทั้งหมด และให้รายละเอียดเหตุการณ์เฉพาะกรณี จำนวน 10 เหตุการณ์ อาทิ เหตุการณ์ความรุนแรงที่สถานีดาวเทียมไทยคม เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2553, เหตุการณ์ความรุนแรง เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553, การเสียชีวิตของ "พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล" หรือ "เสธ.แดง" เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2553, เหตุการณ์ความรุนแรงบริเวณสวนลุมพินี-สีลมถนนพระรามที่ 4 บ่อนไก่, ตลอดจนเหตุการณ์วัดปทุมวณาราม เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553
ทว่า ! ประเด็นที่ร้อนแรงกลับเป็นประเด็นบทสรุปว่าด้วยเรื่องของ "ชายชุดดำ" เนื่องเพราะรายงานฉบับนี้อ้างว่า ในเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น มี "ชายชุดดำ" อยู่จริง และเป็นกลุ่มที่ใช้อาวุธสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่จริง
ทั้งนี้ แม้รายงานจะอ้างว่ายังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่ากลุ่ม "ชายชุดดำ" มีความเกี่ยวข้องกับแกนนำผู้ชุมนุมรายใด แต่ก็กลับระบุว่า มีหลักฐานที่พอสรุปได้ว่า "ชายชุดดำ" หลายคน มีความใกล้ชิดกับ "เสธ.แดง" และระหว่างการปฏิบัติการก็ได้รับการสนับสนุนจาก "การ์ด นปช."
นี่ทำให้ประเด็น "ชายชุดดำ" กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง โดยเฉพาะกับทัศนคติ ความคิดเห็น การวิพากษ์วิจารณ์ และการออกมาแสดงจุดยืนอย่างร้อนแรง ชนิดฝ่ายใครฝ่ายมัน ข้างใครข้างมัน !
นี่ไม่ต่างจากภาพสะท้อนผ่านปรากฏการณ์จริงที่เกิดขึ้น และสะท้อนให้เห็นว่า อนาคตของ "ปรองดอง" ที่หลายฝ่ายต้องการเห็น
คงยากและมืดมนอย่างยิ่งที่จะเกิดขึ้นได้จริง ความจริงก็คือ ปัญหาความขัดแย้งในสังคมไทย นับตั้งแต่เริ่มต้น ไม่เพียงไม่มีข้อยุติจบลง หากแต่ยังคงไม่ถูกคลี่คลายให้ดีขึ้นแม้แต่น้อย และความจริงก็คือ ปัญหาเหล่านั้น ยังดำรงคงอยู่ในสภาวะปัจจุบัน เพื่อรอเวลาปะทุ และอาจถึงขั้นแตกหักในอนาคตอันใกล้นี้
ไม่เกินเลยไปนัก ถ้าจะบอกว่า สถานการณ์ของความรุนแรง มีแนวโน้มสูงที่จะเกิดขึ้น และน่าเชื่อว่า ในที่สุดแล้วอาจบานปลายจนยากแก่การควบคุม สถานการณ์ความสงบที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ผ่านมา
ไม่ต่างกับการหยุดพักเพียงชั่วครู่ชั่วคราว ขณะที่ "คลื่นใต้น้ำ" ยังคงซ่อนตัว และรอเวลาโถมทำลายอยู่
ความจริงก็คือ สารพัดปัญหาอันสืบเนื่องจากความขัดแย้งของ "คู่กรณี" แทบไม่ต่างจาก "ระเบิดเวลา" ที่ถูกตั้งเวลาและจุดชนวนรอไว้พร้อมแล้ว
ที่เหลือก็แค่รอให้สถานการณ์สุกงอม และเหมาะสมเพียงพอ เพื่อปะทุขึ้นเมื่อได้รับปฏิกิริยาเร่งจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
บทสรุปจากรายงานของ คอป. อันว่าด้วย "ชายชุดดำ" ที่ส่งผลให้เกิดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ และตอบโต้จากทุกฝ่าย ไม่ต่างกับ "ภาพจำลอง" ที่ถูกสะท้อนให้เห็นล่วงหน้า
โดยเฉพาะเมื่อมองผ่านบริบทสังคมการเมืองไทย นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน อย่าลืมว่า "คนเบื้องหลัง" ยังคงมุ่งมั่นต่อการบรรลุเป้าหมาย และอย่าลืมด้วยว่า "มือที่มองไม่เห็น" ก็ยังคงทำหน้าที่อย่างเอาจริงเอาจัง
นี่เป็นภาพสะท้อน จากมิติของ "ชายชุดดำ" สู่สถานการณ์การเมืองในปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้
ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าจะสว่างไสว หรือมืดมนเพียงใดนับจากนี้ !!!