พท. ย้ำ ! นโยบายมาก่อนตัวผู้ว่าฯ กทม.

คมชัดลึก 30 กันยายน 2555 >>>




'อนุดิษฐ์' ย้ำคลอดนโยบายให้คน กทม. ก่อนพิจารณาผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ปัดข่าวลือถ้า 'สุดารัตน์' ชวดลงสมัครลงผู้ว่าฯ ภาค กทม.ได้เก้าอี้ รมช. ปลอบใจ ยันไม่มีกลุ่มก๊วน ขอตำแหน่ง รมต. จินตนาการกันไปเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 ก.ย. 55 ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท บีช ชะอำ จ.เพชรบุรี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะประธานโซนตะวันออก ภาค กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการสัมมนา ส.ส., ส.ก., ส.ข. และบุคลากรทางการเมืองของพรรคว่า หากมองในส่วนของคะแนนพื้นฐานแล้วเปรียบเทียบกับพรรคประชาธิปัตย์นั้น คะแนนถือว่าไม่แตกต่างกันมาก ดังนั้นจึงต้องทำให้คะแนนส่วนที่ต่างกันนั้นมาเป็นคะแนนนิยมของพรรคให้มากขึ้น ทั้งนี้ นโยบายโดยรวมของพรรคเพื่อไทยนั้นก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ กทม. เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการสัมมนามีการพูดถึงผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคเพื่อไทยด้วยหรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดถึง เรามุ่งเน้นให้ผู้ปฏิบัติการทางการเมืองที่อยู่ในแต่ละพื้นที่สะท้อนความต้องการของประชาชนออกมา วันนี้นโยบายในภาพรวมนั้น พรรคดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการสะท้อนปัญหาในพื้นที่ที่จะต้องนำไปกำหนดไปเป็นนโยบายเฉพาะแต่ละพื้นที่ สำหรับการตั้งเป้าให้ได้คะแนนร้อยละ 55 ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นั้น รวมถึงคุณสมบัติของผู้สมัครด้วยหรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า คนๆ เดียวคงเปลี่ยน กทม. ไม่ได้ พรรคเพื่อไทยไม่ได้มองตัวผู้สมัครเพียงอย่างเดียว แต่มองในภาพรวมทั้งหมด ที่สำคัญคือมองถึงความต้องการของประชาชนเป็นหลัก
ส่วนกรณีที่ผู้เข้าร่วมการสัมมนาต่างมีท่าทีสนับสนุน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานภาค กทม. ให้ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคเพื่อไทยนั้น น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า พรรคไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องตัวผู้สมัครเป็นหลัก แต่ต้องการจะกำหนดนโยบายก่อน ทั้งนี้เชื่อว่าพรรคมีวิธีเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ที่จะต้องเป็นคนที่ดีที่สุดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามจากการสำรวจความต้องการพื้นฐานของคน กทม. นั้น เรื่องหลักที่คน กทม. อยากให้แก้ไขคือ ปัญหาการบริหารจัดการน้ำ การแก้ปัญหาการจราจร สภาพแวดล้อม สวัสดิภาพพื้นฐาน สาธารณสุข และการศึกษา ซึ่งเป็นความต้องการพื้นฐานที่คน กทม. อยากให้มีการปรับปรุงและพัฒนาให้ดีกว่าเดิม ตรงนี้พรรคได้ให้ทั้ง ส.ส. และผู้ปฏิบัติการณ์ทางการเมืองของพรรคลงพื้นที่ไปดูทั้ง 50 เขตของ กทม. แล้วนำข้อมูลมาเชื่อมโยงเป็นนโยบายของพรรค ดังนั้นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. จะเป็นการต่อสู้ในบริบทภาพรวม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้สมัครเพียงอย่างเดียว
น.อ.อนุดิษฐ์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. ว่า พรรคไม่ได้มีการแต่งตั้งรัฐมนตรีโดยยึดระบบโควตา แต่เป็นการตัดสินใจของผู้บริหารระดับสูง การปรับเปลี่ยนนั้นสามารถทำได้ตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับผู้บริหารของพรรคที่จะมองว่าใครที่มีความเหมาะสมในสถานการณ์การเมืองขณะนั้น ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า หากพรรคไม่ส่งคุณหญิงสุดารัตน์ ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ก็จะมอบตำแหน่ง รมช. 1 ตำแหน่งให้ภาค กทม. แทนนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง กลุ่มก๊วนในพรรคเพื่อไทยไม่มี เป็นเพียงเรื่องที่เราพูดกันไปเองหรือบางคนจินตนาการไปเองเท่านั้น