"เดียร์" ไขความจริงอีกด้าน ชายชุดดำกับทหาร ?

ข่าวสด 22 กันยายน 2555 >>>




เคยคิดเหมือนกันว่าจะต้องโยนความผิดให้คุณพ่อ แต่ไม่คิดว่าเขาจะทำจริง
ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์วงกว้าง ประเด็น "ชายชุดดำ" ที่รายงานฉบับสมบูรณ์ของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เทน้ำหนักให้เรื่องนี้มากเป็นพิเศษ
แทนที่จะไขความกระจ่างการใช้อาวุธสงครามปราบปรามประชาชน
ยิ่งในกรณีระบุว่า ชายชุดดำมีความใกล้ชิดเชื่อมโยงกับ "เสธ.แดง" พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก
ผู้เป็นลูกสาว น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จึงงัดหลักฐานภาพถ่ายเจ้าหน้าที่ยืนคู่ชายชุดดำถือปืน และคนเสื้อแดงที่เป็นทหารขึ้นโชว์ ย้อนเกล็ดบทสรุปรายงานร้อนๆ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

ภาพชายชุดดำปะปนกับทหารที่โพสต์ในทวิตเตอร์

เป็นภาพที่มีอยู่ทั่วไป หลายคนเคยเห็นภาพที่เอามาโพสต์แล้วก่อนหน้านี้ แต่การนำมาโพสต์อีกครั้งเพื่อต้องการย้ำว่า ระหว่างที่ คอป. ทำรายงานฉบับนี้ อาจยังไม่เห็นภาพชุดนี้หรือไม่ แต่ คอป. ใช้ความคิดส่วนตัว ความเชื่อ และสิ่งที่บอกว่าเป็นข้อเท็จจริงของตัวเอง จนทำให้รายงานสรุปออกมาเป็นแบบนี้

ภาพดังกล่าวมาจากไหน

มาจากหลายฝ่าย หลายคน ความจริงแล้วทุกคนก็มีหลักฐานของตัวเอง ไม่ว่าจากช่างภาพ จากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์หรืออะไรก็ตามแต่ ซึ่งเป็นภาพที่มีอยู่แล้ว และสังคมได้เห็นกัน อยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าจากนี้ไปจะต้องหาหลักฐานเหล่านี้เพิ่มเติม และแม้เดียร์จะไม่หา คนอื่นก็หามาให้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราจะเอาออกมายืนยันหรือไม่เท่านั้น
เพราะตั้งแต่มีรายงานสรุปของ คอป. ออกมา คนที่รู้เห็นเหตุการณ์จริงๆ ก็ยอมไม่ได้ที่จะให้รายงานของ คอป. ออกมาเป็นแบบนี้ จึงจำเป็นต้องนำสิ่งที่ตัวเองรู้เห็นออกมายืนยัน

จะนำรูปไปยื่นต่อองค์กรอื่นๆ เพื่อขอความเป็นธรรมหรือไม่

ทำอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ขอปรึกษากับทีมงานและทีมกฎหมายก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

สิ่งที่นำมาเปิดเผยจะมีน้ำหนักหักล้างข้อสรุปของ คอป. ได้หรือไม่

จากที่ดูรายงานของ คอป. ภาพที่ออกมาแล้วระบุว่าเป็นชายชุดดำไม่สามารถเอาผิดใครได้เลย เขาจะเอารูปใครมาก็ได้ แล้วระบุว่าเป็นชายชุดดำ โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นใครอยู่ฝ่ายไหน แต่อยู่ดีๆ มาบอกว่ามีความน่าเชื่อ มีความเกี่ยวพันกับพล.ต.ขัตติยะ ซึ่งไม่ใช่
นี่คือรายงานที่จะต้องออกไปสู่ประชาชน คอป. ใช้เวลา 2 ปี ใช้งบทำงาน 65 ล้านบาท สุดท้ายออกมาด้วยการโยนบาปให้คนคนนึง โดยที่ไม่มีหลักฐานอะไรเลยนอกจากความเชื่อของคุณเอง และจากการคำบอกเล่าของพยานที่ให้การเป็นประโยชน์ต่ออีกทางหนึ่ง คอป. ต้องการเพียงให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พ้นผิดหลายประเด็นมีความขัดแย้งและสับสนกันเอง
เช่นกรณีที่นายสมชาย หอมลออ ระบุว่ารายงานฉบับนี้เป็นการรวมข้อเท็จจริงที่เชื่อถือได้ แต่ในรายงานมีการขมวดว่าคณะทำงานระบุโดยใช้คำว่า "มีความเชื่อว่า" หรือ "เชื่อได้ว่า" ซึ่งการใช้ความเชื่อไม่ควรอยู่ในรายงานทางวิชาการ
ดังนั้นขอให้เอาหลักฐานมาแสดง อย่ากล่าวอ้างลอยๆ โดยไม่มีตัวบุคคลหรือเอกสารอ้างอิงนอกจากเอกสารของ ศอฉ. อีกทั้ง คอป. ไม่ใช่พนักงานสอบสวนที่จะมาตัดสินว่าใครผิดใครถูก

มองบทสรุปของ คอป. ที่ออกมาอย่างไร

แน่นอนว่าเราเป็นฝ่ายที่เสียหาย คุณพ่อโดนโยนบาปมาให้เต็มๆ เดียร์เองก็คงไม่พอใจ จึงรู้สึกว่าข้อมูลเกือบทั้งหมดไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นความจริง เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับอดีตรัฐบาลทั้งนั้น
คอป. ไม่พิจารณาถึงผู้ที่เห็นเหตุการณ์จริง หรือผู้ชุมนุมจริงเลย อยากถามว่าได้วิเคราะห์ข้อมูลหรือคำให้การของฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์กับอดีตรัฐบาลด้วยหรือไม่ จึงไม่ให้ราคากับรายงานฉบับนี้ อ่านไปก็เละเริ่มตั้งแต่ตัวคณะกรรมการแล้ว เพราะตั้งในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นปฏิปักษ์กับกลุ่มคนเสื้อแดงทั้งนั้น

ก่อนหน้านี้คาดหวังกับรายงานมากน้อยแค่ไหน

รายงานอยู่ในความคาดหวังของหลายคน เพราะให้ความเชื่อถือกับนักวิชาการ ซึ่งนายคณิต ณ นคร ได้ชื่อว่าเป็น นักสิทธิมนุษยชน นายสมชาย หอมลออ รวมถึงอีกหลายๆ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักวิชาการไทย
แน่นอนว่าทุกคนก็ต้องคาดหวังว่าจะต้องมีอะไรที่เป็นสาระ จากรายงานฉบับนี้ แต่พอออกมาในแง่นี้จะพบว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่สุด แต่เป็นข้อเท็จจริงที่บวกความเชื่อของคณะกรรมการเข้าไปด้วย
ทำให้ตอนนี้ไม่อยากเอ่ยชื่อนายคณิตอีกแล้ว เป็นถึงประธานคอป.ก็ควรต้องทำหน้าที่ให้ดีกว่านี้ ทำด้วยใจเป็น กลางจริงๆ

คอป. จะทำรายงานฉบับภาษาอังกฤษส่งให้องค์กรระหว่างประเทศ

หากเป็นเช่นนั้นคงจะอายมากกว่าที่นักวิชาการไทยใช้ไม่ได้ คนที่รับรู้สถานการณ์ในประเทศไทยก็รับรู้ทั้งในแง่บวกของกลุ่มหนึ่ง และแง่ลบของอีกกลุ่มเหมือนกัน ดังนั้นแต่ละองค์กรของนานาประเทศมีสิทธิ์ที่จะคิดต่าง
แต่คนที่จะอ่านรายงานของ คอป. ฉบับนี้ต้องใช้วิจารณญาณ ในการอ่านจริงๆ ถ้าอ่านโดยไม่คิดอะไร อ่านไปเรื่อยๆ อาจจะเคลิ้มเพราะคิดว่าอ่านนิทานอยู่

ควรตั้งคณะกรรมการอีกชุดเพื่อศึกษาความจริง

ไม่ว่าจะตั้งคณะกรรมการอะไรก็คงเอาไม่อยู่แล้ว คอป. เสียเงินไป 60 กว่าล้าน ได้รายงานมาโดยไม่มีเนื้อหาสาระอะไรเลย แต่หากตั้งขึ้นมาอีกคงต้องพิจารณาให้ดี หาคนที่เป็นกลางจริงๆ
ไม่ใช่บอกว่าตัวเองเป็นกลางแต่ที่จริงแล้วไม่ได้เป็นกลางเลย แต่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากเป็นเช่นนั้นรายงานที่ออกมาก็คงไม่สมบูรณ์

เคยคิดหรือไม่ว่าบทสรุปจะออกมาแบบนี้

คิดมาก่อนตลอดและไม่เคยคาดหวังเลย ไม่ได้แปลกใจเลยจริง ไม่ประหลาดใจเลยว่าทำไมรายงานออกมาเป็นแบบนี้ คิดอยู่แล้วว่าเขาต้องโยนบาปให้ใครสักคนซึ่งไม่ใช่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และเจ้าหน้าที่ทหาร
เคยคิดเหมือนกันว่าจะต้องโยนความผิดให้คุณพ่อ แต่ไม่คิดว่าเขาจะทำจริง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร แต่สงสารคุณพ่อมากกว่า ถ้ายังมีชีวิตอยู่ท่านคงได้ปกป้องตัวเอง
เดียร์ในฐานะลูกของพ่อและมายืนจุดนี้ด้วย ต้องฮึดสู้เข้มแข็งพอที่จะปกป้องเขา แม้คุณพ่อไม่มีลมหายใจแล้ว แต่เราเป็นลูกก็ต้องปกป้องเขาเพราะเขาไม่มีลมหายใจที่จะต่อสู้เองแล้ว

ในฐานะผู้สูญเสียต้องการอะไร

สิ่งที่หวังต่อไปมากที่สุดคือความยุติธรรมที่จะได้จากพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ และหน่วยงานที่จะให้ความยุติธรรมทั้งหลาย
เพราะการให้การของพยานแต่ละคนต่อคอป. ไม่ได้เป็น การให้การต่อพนักงานสอบสวน ดังนั้นเขาอยากจะให้การอย่างไรก็ได้ ถึงให้การเท็จก็ไม่ผิด ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย
ถามว่าหากคอป.ทำรายงานฉบับนี้ออกมาเป็นข้อมูลเท็จทั้ง หมด คอป.ก็ไม่ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายอะไรเลย เพราะฉะนั้นรายงานฉบับนี้ออกมาเป็นมวยล้มต้มคนดูก็ได้

อยากบอกอะไรเพื่อขอความเป็นธรรมให้พ่อ

ตอนนี้ใครจะโยนอะไรให้คุณพ่อก็ได้ เพราะท่านไม่อยู่แล้ว จึงไม่สามารถมาอธิบายได้ว่าความจริงเป็นอย่างไร เกิดอะไรขึ้นบ้าง ตรงนี้คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดของรัฐบาลที่แล้ว และกลุ่มคนที่สนับสนุนรัฐบาลที่แล้ว
แต่ถามว่าหากคุณพ่อยังอยู่ เขาจะโยนบาปพวกนี้ให้กับใคร คิดไว้หรือยัง หรือว่าวางแผนไว้แล้วตั้งแต่แรก

เรื่องนี้ควรจบอย่างไร

ต้องหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ ที่สำคัญอย่ามัวแต่ปกป้องพวกพ้องตัวเองหรือเจ้าหน้าที่รัฐ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทหารทุกคนต้องทำตามคำสั่ง
ฉะนั้นบอกมาดีกว่าว่าใครเป็นคนสั่งให้ทหารต้องปฏิบัติการแบบนี้ และใครเป็นคนที่สั่งให้ลอบสังหารคุณพ่อ