"พ.อ.สรรเสริญ" เคารพคำตัดสินศาลกรณี "พัน คำกอง" แต่ขอชี้แจงว่าเป็นพื้นที่ห้ามเข้า

ประชาไท 18 กันยายน 2555 >>>


วอนสื่อระมัดระวังในการนำเสนอเพราะละเอียดอ่อน ย้ำทหารยิงรถตู้เพราะไม่ยอมหยุด กังขาตำรวจอ้างต่อศาลว่าเข้าพื้นที่ไม่ได้ ทั้งที่ตำรวจก็อยู่ใน ศอฉ. เชื่อสังคมรู้ดีว่ามีชายชุดดำ

เมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) มติชนออนไลน์ รายงานคำให้สัมภาษณ์ของ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลอาญาอ่านคำตัดสินว่า การเสียชีวิต ของนายพัน คำกอง อายุ 43 ปี  อาชีพขับรถแท็กซี่ถูกยิงเสียชีวิตจากกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติตามหน้าที่ ว่า เรื่องนี้ศาลได้ชี้ตามสิ่งที่ได้ไต่สวน เราต้องเคารพในการชี้ของศาล แต่ในขั้นตอนต่อไปก็เป็นเรื่องที่ทางศาลจะต้องส่ง สำนวนต่อไปทางอัยการ และอัยการก็จะส่งต่อไปยังพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขบวนการต่อไป แต่สิ่งหนึ่งที่กองทัพอยากชี้แจงทำความเข้าใจส่วนหนึ่งคือ ต้องย้อนกลับไปดูถึงสาเหตุในกระบวนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ในขั้นต่อไป ว่าที่เกิดแบบนั้น มีมูลเหตุมาจากอะไร เจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมายอะไร แล้วพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่เข้าประกาศเป็นพื้นที่อันตรายที่ห้ามเข้าไปหรือไม่
   "เรื่องนี้ต้องระมัดระวังในการนำเสนอ เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน มีผลกระทบต่อความรู้สึกของทุกฝ่าย อย่าลืมว่าในเหตุการณ์ที่ว่ามานี้ ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนอยากให้เกิด ในขณะเดียวกันผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต มีด้วยกันทุกฝ่าย" พ.อ.สรรเสริญ ระบุ

สรรเสริญแจงเอเอสทีวี ทหารยิงรถตู้เพราะไม่ยอมทำตามคำสั่งให้หยุด

เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ รายงานด้วยว่า เมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) พ.อ.สรรเสริญ ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี โดยช่วงหนึ่งชี้แจงกรณีคำตัดสินของศาล โดยกล่าวถึงคำให้การของตนว่า เท่าที่ถูกเรียกไปเป็นพยาน เจ้าหน้าที่ที่เรียกไปก็บอกว่าเขาอยู่ในส่วนของการประกาศให้รถคันนั้นหยุด แต่รถคันนั้นก็ยังฝ่าเข้ามา แล้วก็ฝ่าเลยแนวที่เขาอยู่ แล้วก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จนกระทั่งรถนั้นหยุด ตอนที่ตนไปให้การในฐานะพยานเขาก็ถามถึงสถานการณ์โดยทั่วไป การชี้แจงแถลงข่าว แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดที่เขาเรียกไปแล้วบอกว่าไปอยู่ในกลุ่มของผู้ที่ใช้อาวุธ เพราะฉะนั้นตรงนี้ตนก็ตอบรายละเอียดมากไปกว่านี้ไม่ได้ เมื่อหมดภาระหน้าที่ไปสอบตนก็กลับ
ทั้งนี้ รู้สึกว่าคนไปให้การหลังจากตนอีก 1-2 คน ก็ให้การในลักษณะว่าอยู่ในส่วนของคนที่ประกาศ ซึ่งใช้โทรโข่งประกาศออกไปว่าให้รถตู้คันนี้หยุด ซึ่งรถตู้คันดังกล่าวพยายามออกไปจากซอยราชปรารภ 8 มุ่งหน้าไปทางสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ แล้วรถคันนี้ก็จอดอยู่พักหนึ่ง เขาก็พยายามใช้โทรโข่งขนาดใหญ่เพื่อให้เสียงดังขึ้น สักพักรถตู้คันนี้วิ่งฝ่าเข้ามาก็วิ่งฝ่าแนวที่เจ้าหน้าที่ใช้โทรโข่งประกาศ แล้วก็มีเสียงปืนดังหลายนัด จนกระทั่งรถหยุด แต่ตัวเขาซึ่งอยู่ในโซนที่ประกาศเขาไม่ได้เป็นผู้ยิง
เมื่อถามว่า กองทัพจะถือว่าคดีนี้เป็นบทเรียนในแง่มุมไหนได้บ้าง พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า โดยบทเรียนคงไม่ใช่แค่ผู้ปฏิบัติอย่างเดียว เป็นบทเรียนของทุกฝ่าย ทั้งผู้ชุมนุมที่พยายามใช้ว่าการชุมนุมด้วยความสันติ อหิงสา แท้จริงแล้วท่านเห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงหรือเปล่า กรณีที่มีชายชุดดำที่ใช้อาวุธ จะแต่งกายด้วยชุดดำหรือสีทำนองคล้ายๆ สีดำแต่เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นผู้ที่ใช้อาวุธสงครามยิงออกไปยังจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานีรถไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานก็จริง ท่านได้ให้ท้ายพวกนี้หรือเปล่าท่านได้สนับสนุนพวกนี้หรือเปล่า ท่านปากว่าตาขยิบหรือไม่ 

กังขาตำรวจให้การว่าเข้าพื้นที่ไม่ได้ ทั้งที่ตำรวจเป็นส่วนหนึ่งของ ศอฉ.

   “เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานในฐานะผู้ควบคุมกฎหมายตั้งแต่การปฏิบัติการชุมนุมได้เริ่มต้นตั้งแต่แรก ท่านแข็งขันเต็มที่ไหม ท่านบังคับใช้กฎหมายเต็มที่ไหม เจ้าหน้าที่ทหารที่ไปในการปฏิบัติภารกิจ ท่านมีนโยบาย มีคำสั่งที่ชัดเจนในการตกลงใจปฏิบัติไหม ท่านใช้ดุลยพินิจอะไร ท่านคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ผมว่ามันเป็นบทเรียนกับทุกฝ่าย ที่จะต้องร่วมกันเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้มันเกิดขึ้นอีก” พ.อ.สรรเสริญ กล่าว
เมื่อถามว่า ตามคำสั่งศาลระบุว่า เชื่อได้ว่าในที่เกิดเหตุมีเพียงเจ้าพนักงานทหารที่สามารถพกพาอาวุธปืนได้เท่านั้น โอกาสที่จะมีคนร้ายหลายคนพร้อมอาวุธปืนผ่านเข้าไปในเขตพื้นที่ควบคุมดังกล่าวย่อมเป็นไปไม่ได้ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ตนเคารพในคำชี้ของศาล แต่ตนติดใจอยู่นิดเดียว ตรงที่มีเจ้าพนักงานตำรวจที่ให้ข้อมูลว่า แม้ตำรวจก็ยังผ่านไปไม่ได้ ถามว่า ศอฉ.มันประกอบด้วยทหารอย่างเดียวหรือเปล่า ศอฉ.ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ ข้าราชการประจำ จากทุกกระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้อง ตำรวจก็เป็นหนึ่งใน ศอฉ. ทำไมท่านถึงเข้าไม่ได้ ท่านก็เป็นเจ้าพนักงาน ท่านเข้าไปปฏิบัติภารกิจก็ต้องดูกัน ต้องย้อนถามตัวท่านว่า ถ้าตำรวจเป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของ ศอฉ.หรือไม่ ก็ท่านรักษาการ ผบ.ตำรวจ นั่งประชุมทุกวัน