จับตาอย่ากะพริบช่วง 2 เดือนข้างหน้านี้ น้ำจะท่วมหรือไม่ คงรู้กันเสียที เพราะต้องรอดูว่าจะมีพายุเข้าหรือไม่ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. นี้ ถ้าไม่มีพายุก็วางใจได้ว่าน้ำไม่ท่วม กทม. แน่
ต้องบอกว่าคนไทยทั้งประเทศเฝ้าดูด้วยใจระทึกว่าปีนี้จะเกิดมหาอุทกภัยอีกหรือเปล่า แต่ดูจากการทำงานของรัฐบาลจะเห็นได้ชัดว่ามีการ เตรียมตัวและป้องกันอย่างดี
อนุมัติงบ 1.2 แสนล้านบาทให้คณะกรรมการการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ใช้ในเตรียมการป้องกันอุทกภัยตั้งแต่พื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จนกระบวนการต่างๆ เสร็จจนเกือบสมบูรณ์ก่อนถึงฤดูมรสุม
น้ำท่วมกรุงเทพฯปีก่อนสร้างความเสียหายมหาศาล ฉะนั้น การป้องกันพื้นที่เมืองหลวง หัวใจของประเทศ จึงสำคัญอย่างยิ่ง
กบอ. จึงต้องซ้อมการระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันออกและตะวันตกในวันที่ 5 ก.ย. และ 7 ก.ย. นี้
เพื่อทดสอบความพร้อมรับมือกับน้ำเหนือ ทดลองระบบระบายน้ำใหม่ที่มีระบบเซ็นเซอร์ติดตามการไหลของน้ำ การเปิดปิดประตูระบายน้ำอัตโนมัติ และตรวจสอบการขุดลอกคูคลองทั้งหมดในกรุงเทพฯ โดยจะปล่อยน้ำเข้าระบบแค่ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
หากลุล่วงด้วยดีก็แสดงว่าระบบใหม่เวิร์ก ถ้ามีปัญหาก็จะได้ปรับปรุงแก้ไขทันท่วงที แต่ก็แปลกใจที่เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ใช้โจมตีรัฐบาลว่าหากทดสอบปล่อยน้ำแล้วเกิดมีปัญหาก็ต้องรับผิดชอบ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ก็ไม่เห็นด้วยกับการทดสอบ ความจริงแล้วการตักเตือนและเสนอแนะเป็นเรื่องดี หากปราศจากนัยยะทางการเมือง !?
โดยเฉพาะเรื่องน้ำท่วมเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งต้องร่วมมือกันป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน
ค้านมันซะทุกเรื่องแบบนี้มีแต่เสียกับเสีย