ศาลสั่งคดีแรกวันนี้ ธาริตมั่นใจ เป็นบรรทัดฐาน 98 ศพ นปช. แห่ฟังคดี ′พัน คำกอง′

มติชน 17 กันยายน 2555 >>>


′ธาริต′ เชื่อสอดคล้องกับ ′อัยการ′

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า การมีคำสั่งของศาลในคดีนายพันนี้นับเป็นคดีแรกจาก 36 คดี ที่จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเหตุการณ์ เพราะเป็นการไต่ส่วน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 150 ที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเสียขีวิตของประชาชน หรือที่เรียกกันตามภาษาชาวบ้านว่าคดีวิสามัญฆาตกรรม ซึ่งข้อกฎหมายดังกล่าวเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียชีวิต สำหรับขั้นตอน การดำเนินคดีตามมาตราดังกล่าว พนักงานสอบสวนต้องส่งเรื่องให้อัยการเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลให้มีการไต่ส่วน จากนั้นศาลจะมีคำสั่งออกมาตามขั้นตอนปกติ
   "ยังเชื่อว่าศาลมีคำสั่งสอดคล้องกับสำนวนของพนักงานอัยการ ที่เชื่อว่าการเสียชีวิตของบุคคลดังกล่าวเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ผมมีข้อกังวลในคดีดังกล่าว เพราะเป็นเหตุ การณ์ท่ามกลางความขัดแย้งไม่ว่าจะออกมาอย่างไรเชื่อว่าต้องมีทั้งคนถูกใจและไม่ถูกใจ แต่อยากขอร้องให้สังคมทุกกลุ่มทุกฝ่ายเคารพกฎกติกาเพื่อความสงบสุขของสังคม อยากให้ทุกฝ่ายเคารพคำสั่งศาล" นายธาริต กล่าว

รอผลก่อนทำคดีคนสั่งการ

นายธาริตกล่าวว่า หากศาลมีคำสั่งว่านายพันเสียชีวิตจากการกระทำเจ้าหน้าที่รัฐ ขั้นตอนหลังจากนี้อัยการจะส่งคำสั่งการไต่สวนของศาลกลับมายังพนักงานสอบสวน เพื่อทำสำนวนคดีหลักคือคดีฆาตกรรม หลังจากนั้นต้องพิจารณาตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ว่าใครจะเป็นผู้รับผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าปฏิบัติการมีกฎหมายมาตรา 70 คุ้มครอง ร่วมถึงผู้ผ่านคำสั่ง แต่ไม่คุ้มครอง ผู้ออกคำสั่งการสูงสุดจะถูกดำเนินคดีตามมาตรา 288 และมาตรา 59 ที่เกี่ยวข้องกับเจตนาเล็งเห็นผลต่อการออกคำสั่งการ แล้ว ก่อให้เกิดผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้สั่งการสูงสุดหมายถึงนายกฯ และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในขณะนั้น (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ผอ.ศอฉ.)
   "ดีเอสไอทำสำนวนคดีตามข้อเท็จจริง ไม่ได้คำนึงว่าจะถูกใจหรือไม่พอใจใคร ทุกอย่างว่าไปตามพยานหลักฐานเท็จจริง และหลังจากนี้เชื่อว่าในคดีอื่นๆ อีกกว่า 30 สำนวน ที่ศาลจะมีคำสั่งนั้น จะรวดเร็วมาก เพราะมีคดีของนายพันเป็นบรรทัดฐาน" นายธาริต กล่าว