โลกวันนี้ 3 กันยายน 2555 >>>
คอป. เตรียมแถลงผลการสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุรุนแรงทางการเมืองช่วงสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง เม.ย.-พ.ค. 2553 เป็นครั้งสุดท้ายก่อนยุติบทบาทในวันที่ 15 ก.ย. นี้ ระบุเป็นรายงานภาพรวมเหตุการณ์ทั้งหมด โดยเฉพาะเหตุรุนแรงสำคัญที่ทำให้มีคนตายว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ย้ำไม่ได้สอบเพื่อเอาผิดใครเพราะไม่ใช่หน้าที่ ยืนยันเป็นการสรุปจากข้อเท็จจริงทั้งหมดไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดและไม่คาดหวังว่าจะเป็นที่ยอมรับ โดยเฉพาะพวกที่มีแนวคิดสุดโต่งของแต่ละฝ่าย แย้มข่าวดี 2 ปีที่ผ่านมาพวกสุดโต่งทางความคิดลดลง มีคนที่เปิดใจแสวงหาข้อเท็จจริงด้วยเหตุผลมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ความปรองดองได้
นายสมชาย หอมลออ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เปิดเผยว่า คอป. เตรียมเสนอรายงานฉบับสุดท้าย ซึ่งเป็นรายงานชุดใหญ่ชุดเดียวในเร็วๆนี้ โดยจะให้ความสำคัญต่อการตรวจสอบค้นหาความจริง โดยเฉพาะการตรวจสอบเหตุการณ์สำคัญ 13 เหตุการณ์หลัก เช่น ที่สถานีดาวเทียมไทยคม, เหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. ที่สี่แยกคอกวัว หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 20 กว่าคน, เหตุการณ์ความรุนแรงที่อนุสรณ์สถาน, เหตุการณ์เสียชีวิตของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง, เหตุการณ์ที่บ่อนไก่, เหตุการณ์ที่ราชปรารภ, เหตุการณ์วันที่ 19 พ.ค. ซึ่งเป็นวันที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินขอกระชับพื้นที่หรือขอคืนพื้นที่ รวมทั้งการเผาสถานที่ต่างๆทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ตรวจสอบครอบคลุมถึงผู้เสียชีวิตทุกคน เพราะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก คอป. คงตรวจสอบทั้งหมดไม่ไหว
“เราตรวจสอบเหตุการณ์สำคัญๆที่เป็นที่สนใจ เช่น กรณีการเสียชีวิตของช่างภาพญี่ปุ่นและช่างภาพอิตาลี 6 ศพ ที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ตลอดจนการเสียชีวิตของ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม รอง เสธ.พล.ร.2 รอ. ที่เสียชีวิตที่สี่แยกคอกวัว” นายสมชายกล่าวและว่า ขณะนี้ได้สรุปรายงานฉบับดังกล่าวเรียบร้อยแล้วแต่อยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไข โดยผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านภาษาและด้านสำนวนต่างๆ เพื่อที่จะได้ใช้ภาษาที่ง่ายต่อความเข้าใจของประชาชน
นายสมชายกล่าวอีกว่า การตรวจสอบค้นหาความจริงของ คอป. ไม่ได้เน้นที่จะเอาบุคคลต่างๆไปดำเนินคดีในทางกฎหมาย เพราะตรงนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่มีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นหลักในการดำเนินการ ขอย้ำว่า คอป. เน้นตรวจสอบเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นว่ามีสาเหตุจากอะไร และผลกระทบต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ไม่ได้เน้นความรับผิดชอบหรือรายงานต่อทางราชการหรือทางรัฐบาล แต่รับผิดชอบหรือรายงานต่อสาธารณชนเป็นสำคัญ
ส่วนรายงานฉบับนี้จะเป็นที่ยอมรับหรือไม่นั้นนายสมชายกล่าวว่า คอป. ทำงานโดยไม่ได้เข้าข้างหรือไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เพราะถ้าฝักใฝ่ฝ่ายใดการแปลข้อมูลข้อเท็จจริงจะไปในทางที่ไม่ถูกต้อง การทำงานของ คอป. 2 ปีที่ผ่านมาได้รับการยอมรับพอสมควรว่าทำอย่างตรงไปตรงมา อย่างไรก็ตาม ปัญหาความขัดแย้งยังดำรงอยู่ แต่เท่าที่ดูสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้พบว่าจำนวนคนที่สุดโต่งลดลง และคนที่แสวงหาความจริงโดยเหตุผลและเปิดใจเริ่มมีมากขึ้น
“คอป. ไม่ได้คาดหวังว่ารายงานฉบับนี้จะต้องเป็นที่รับได้ของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มซ้ายสุดหรือขวาสุดของแต่ละฝ่าย”
รายงานข่าวจาก คอป. แจ้งว่า คอป. มีกำหนดจะแถลงข่าวพร้อมนำเสนอรายงานฉบับสุดท้ายเกี่ยวกับการค้นหาความจริงในเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองเมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 เป็นทางการในวันที่ 15 ก.ย. นี้ ส่วนเวลาและสถานที่จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง