นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 29 กันยายน ว่าวันที่ 1 ตุลาคม จะยื่นเรื่องให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบการตรากฎหมายโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 126 ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หลังจากรัฐธรรมนูญปี 2550 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2550 การลงมติในวาระ 2-3 ของ พ.ร.บ. กว่า 100 ฉบับ มีองค์ประชุม สนช.ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ทั้งที่สมาชิกหลายคนมีความรู้ทางกฎหมายเป็นอย่างดี แต่ก็มีข้อผิดพลาดต่อเนื่อง รวมไปถึงการนำร่างกฎหมายที่ตราโดยไม่ชอบ ขึ้นทูลเกล้าฯ มีนายกรัฐมนตรีขณะนั้นเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 150 เป็นลักษณะการกระทำที่ขาดความระมัดระวัง ไม่มีการตรวจตราว่า สนช. ได้ตรากฎหมายโดยไม่ชอบ ขัดรัฐธรรมนูญ จนกระทั่งร่างกฎหมายจำนวนมากได้ประกาศในราชกิจานุเบกษาใช้บังคับมาอยู่ตราบทุกวันนี้ โดยขอให้ตรวจสอบว่า เป็นการกระทำที่ละเมิดตามมาตรา 8 หรือไม่ และเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือไม่ โดยมีแนวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นบรรทัดฐาน และได้แนบรายงานการประชุม สนช. เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย
นายเรืองไกรกล่าวว่า สำหรับกฎหมายที่ผ่านการพิจารณาโดยองค์ประชุมไม่ถึงกึ่งหนึ่ง อาทิ พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2551 พ.ร.บ.ล้างมลทินในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ.2550 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สรุปเฉพาะการประชุม สนช. 3 ครั้งสุดท้าย คือครั้งที่ 72/2550 วันที่ 19 ธันวาคม 2550 ครั้งที่ 73/2550 วันที่ 20 ธันวาคม 2550 และครั้งที่ 74/2550 วันที่ 21 ธันวาคม 2550 มีการตรากฎหมายกว่า 60 ฉบับโดยไม่ชอบ
