ยังจำได้ไหม ตอนที่คณะกรรมการ ป.คอป. ของรัฐบาลประกาศเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์การชุมนุมระหว่างปี 2548 ถึงปี 2553 โดยกำหนดเยียวยาให้ผู้เสียชีวิตศพละ 7.5 ล้านบาท
ยังจำได้ไหมว่า มีคนของพรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้ระงับการเยียวยาของคณะกรรมการ ป.คอป. เดชะบุญที่ศาลปกครองยกคำร้อง ไม่เห็นด้วย เดชะบุญที่ศาลปกครองเห็นว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นผู้เสียหาย เดชะบุญที่ศาลปกครองมีน้ำใจอันเปิดกว้าง ผู้สูญเสีย ผู้เสียหายจากเหตุการณ์จึงได้รับการเยียวยา
ถามว่าการยื่นคำร้องให้ยับยั้งการเยียวยาจากคนของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนั้นสะท้อนความนึกคิดอย่างไรในทางการเมือง น่าศึกษา
หากให้ประเมินในเชิงหยั่งและแหย่งลงไปภายในกระบวนการทางความคิดของคนของพรรคประชาธิปัตย์ก็พอจะสัมผัสได้ สัมผัสว่าคนที่ตาย คนที่บาดเจ็บ ไม่สมควรจะได้รับการเยียวยา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ตาย 98 ศพ คนที่บาดเจ็บร่วม 2,000 คนจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 ไม่สมควรจะได้รับการเยียวยาอย่างเด็ดขาด
ท่าทีของคนของพรรคประชาธิปัตย์เช่นนี้สะท้อนถึงความคิดจิตใจของรัฐบาลในห้วงเหตุการณ์เมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 ได้เป็นอย่างดี เพราะการเยียวยาในลักษณาการเดียวกันกับของคณะกรรมการ ป.คอป. ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะเห็นว่าเท่ากับเยียวยาผู้ก่อการร้าย
พลันที่คำสั่งศาลอาญาจากการไต่สวนคดีการเสียชีวิตของ นายพัน คำกอง จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 คำตอบทั้งหมดก็กระจ่างแจ้งเหมือนแสงตะวันสาดฉาย การไต่สวนของศาลสถิตยุติธรรมเปิดเผยแผ่แบออกมาหมดสิ้น
1. ระบุชัดว่าไม่มีชายชุดดำเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต 1 ทหารใช้กระสุนจริงในการปฏิบัติหน้าที่ 1 การเสียชีวิตของ นายพัน คำกอง เกิดขึ้นโดยฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งหมดนี่คือคำตอบ
สะท้อนให้เห็นว่า การคัดค้านการเยียวยาโดยคนของพรรคประชาธิปัตย์กระทำโดยอคติโดยความเข้าใจเอาเองผิดๆ เหมือนความเข้าใจผิดของ ศอฉ. เหมือนความเข้าใจผิดของรัฐบาล รัฐบาล “อภิสิทธิ์-สุเทพ”
คำวินิจฉัยและคำสั่งของศาลสถิตยุติธรรมเสมอเป็นเพียงกระดุมเม็ดที่ 1 ของคดี 98 ศพ กระนั้นกระบวนการชันสูตรพลิกศพของตำรวจ กระบวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กระบวนการไต่สวนของศาลสถิตยุติธรรมก็เป็นบรรทัดฐาน บรรทัดฐานนำไปสุ่กระดุมเม็ดที่ 98
